พิจารณาสูตรแชมพูและการทำครีมนวดผม

ถามโดย: jai.79 เมื่อ: November 25, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ดิฉันได้คิดค้นสูตรแชมพูขึ้นมาค่ะ ไม่แน่ใจว่าสูตรนี้จะแรงเกินไปหรือไม่ รบกวนช่วยตรวจสอบสูตรด้านล่างนี้ และแนะนำว่าต้องปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมไหมคะ

สูตรแชมพู:

  • Coco-betaine: 15.00%
  • Lauryl glucoside: 10.00%
  • Baby foam: 10.00%
  • Creamy foamer: 10.00%
  • Glycerin: 20.00%
  • Propylene glycol: 5.00%
  • Vitamin B5: 0.30%
  • Zinc pca: 0.20%
  • Natural moisturizing: 0.50%
  • Water: 28.00%
  • Phenoxyethanol: 1.00%

นอกจากนี้ ในส่วนของการทำครีมนวดผม อยากทราบว่าต้องใช้สารตัวไหนบ้างในการสร้างเนื้อครีมนวดคะ

คำตอบ

การทำครีมนวดผมและการพิจารณาสูตรแชมพู

นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับการทำครีมนวดผม และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรแชมพูที่คุณมี พร้อมสาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการคันศีรษะที่ไม่มีรังแคค่ะ

พื้นฐานการทำครีมนวดผม

ในการทำครีมนวดผมให้มีเนื้อครีม โดยเฉพาะสำหรับผมทำสีและผมแตกปลาย คุณจะต้องใช้ส่วนผสมหลักๆ ดังนี้ค่ะ

  • สารคอนดิชันนิ่ง (Conditioning Agents): เป็นส่วนประกอบหลักของครีมนวดผม สารประจุบวก (Cationic) นิยมใช้เพราะจะไปเกาะกับเส้นผมที่มีประจุลบ ช่วยปิดเกล็ดผม ลดไฟฟ้าสถิต และทำให้ผมหวีง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น Steartrimonium Chloride หรือสารกลุ่ม Polyquaternium เช่น Poly-Conditioner Pro ซิลิโคนอย่าง Hair-Cond™ SM ก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการทำให้ผมนุ่มลื่น เงางาม และช่วยลดปัญหาผมแตกปลาย
  • สารสร้างเนื้อ/สารเพิ่มความข้น (Thickeners/Structuring Agents): ช่วยให้ครีมนวดมีเนื้อครีมที่ข้นตามต้องการ แฟตตี้แอลกอฮอล์ (เช่น Cetyl Alcohol หรือ Cetearyl Alcohol ซึ่งแม้จะไม่ได้อยู่ในผลการค้นหาโดยตรง แต่นิยมใช้มากในครีมนวด) มักใช้ร่วมกับสารอิมัลซิไฟเออร์ สารเพิ่มความข้นในส่วนน้ำอย่าง CreamThick™ ก็ช่วยเสริมเนื้อครีมได้ค่ะ
  • สารบำรุงผมนุ่มลื่น (Emollients): น้ำมัน เอสเทอร์ หรือบัตเตอร์ ช่วยให้ผมนุ่ม ชุ่มชื้น จัดทรงง่าย และลดการเปราะขาด LipidSoft™ Palm เป็นตัวอย่างของสารกลุ่มนี้ที่สามารถนำมาใช้ได้
  • น้ำ (Water): เป็นส่วนประกอบหลักของสูตร
  • สารให้ความชุ่มชื้น (Humectants): เช่น Glycerin และ Propylene Glycol ช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผม
  • สารออกฤทธิ์/สารเสริมคุณสมบัติ (Actives/Benefit Ingredients): ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ต้องการ อาจเพิ่มส่วนผสมอย่าง Panthenol (Vitamin B5) เพื่อความชุ่มชื้นและแข็งแรง หรือ ColorFix™ เพื่อช่วยรักษาเม็ดสีผม
  • สารกันเสีย (Preservative): จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้

กระบวนการทำโดยทั่วไปคือการนำส่วนน้ำและส่วนน้ำมัน/ไขมันไปอุ่นแยกกัน ผสมรวมกับสารอิมัลซิไฟเออร์ แล้วค่อยๆ คนขณะที่เย็นตัวลง และเติมสารที่ไวต่อความร้อน (เช่น สารกันเสีย สารออกฤทธิ์บางชนิด) เมื่ออุณหภูมิลดลง

ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรแชมพูของคุณ

สูตรแชมพูของคุณใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดอ่อนโยน เช่น Coco-Betaine และ Lauryl Glucoside ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีในแง่ของความอ่อนโยน อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นรวมของสารลดแรงตึงผิว (Coco Betaine, Lauryl Glucoside, Baby Foam, Creamy Foamer) ดูค่อนข้างสูงถึง 45% แม้ว่าแต่ละตัวจะอ่อนโยน แต่ความเข้มข้นรวมที่สูงขนาดนี้อาจทำให้แชมพูทำความสะอาดได้มากเกินไปสำหรับการใช้เป็นประจำ หรือผู้ที่มีหนังศีรษะบอบบาง ซึ่งอาจนำไปสู่ความแห้งได้ค่ะ

ปริมาณ Glycerin ที่ 20% ก็ถือว่าสูงมากสำหรับแชมพู ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องล้างออก Glycerin เป็นสารให้ความชุ่มชื้น แต่ที่ความเข้มข้นสูงในผลิตภัณฑ์ล้างออก อาจทำให้รู้สึกเหนียวหรือหนักบนเส้นผมและหนังศีรษะได้ ปริมาณ Glycerin ที่นิยมใช้ในแชมพูมักจะอยู่ที่ 1-10% ค่ะ

ปริมาณน้ำ (28%) ค่อนข้างน้อยผิดปกติสำหรับแชมพู ซึ่งโดยทั่วไปน้ำจะเป็นส่วนประกอบหลัก (มักจะอยู่ที่ 50-80%)

Vitamin B5 ที่ 0.3% เป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับสุขภาพผม แต่คุณอาจพิจารณาเพิ่มปริมาณเล็กน้อย (เช่น 0.5-1%) เพื่อให้เห็นผลด้านคอนดิชันนิ่งในแชมพูได้ชัดเจนขึ้น

Zinc PCA ที่ 0.2% เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับคุณสมบัติในการดูแลหนังศีรษะ เช่น ช่วยลดความมันและอาจช่วยลดการระคายเคืองได้

Phenoxyethanol ที่ 1% เป็นปริมาณมาตรฐานและมีประสิทธิภาพในการกันเสีย

สรุป: สูตรของคุณใช้ส่วนผสมที่ดีและอ่อนโยน แต่ปริมาณสารลดแรงตึงผิวและ Glycerin ที่สูง รวมถึงปริมาณน้ำที่น้อย ทำให้สูตรมีความเข้มข้นมากและอาจไม่สมดุล อาจจะแรงเกินไปหรือทำให้รู้สึกหนักสำหรับผู้ใช้บางคน แม้จะใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดอ่อนโยนก็ตาม คุณอาจพิจารณาลดปริมาณสารลดแรงตึงผิวรวมและ Glycerin ลง และเพิ่มส่วนของน้ำเพื่อให้ได้แชมพูที่สมดุลและใช้งานง่ายขึ้นค่ะ

อาการคันศีรษะที่ไม่มีรังแค

อาการคันศีรษะที่ไม่มีสะเก็ดขาวๆ (รังแค) สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ:

  • หนังศีรษะแห้ง: การขาดความชุ่มชื้นทำให้เกิดอาการคันได้ ซึ่งแตกต่างจากรังแคที่มักเกิดจากการเจริญเติบโตมากเกินไปของเชื้อรา
  • การแพ้ผลิตภัณฑ์หรือสิ่งตกค้าง: การระคายเคืองจากส่วนผสมในแชมพู ครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม หรือมีสิ่งตกค้างบนหนังศีรษะที่ล้างออกไม่หมด อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคันได้
  • ผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis): ปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อสิ่งที่มาสัมผัสกับหนังศีรษะ
  • การติดเชื้อรา: แม้ว่าเชื้อรา Malassezia จะเป็นสาเหตุของรังแคทั่วไป แต่การติดเชื้อราชนิดอื่นก็อาจทำให้เกิดอาการคันโดยไม่มีสะเก็ดที่ชัดเจนได้
  • ภาวะผิวหนังอื่นๆ: สภาพผิวหนังบางอย่าง เช่น กลากหรือสะเก็ดเงิน สามารถเกิดขึ้นบนหนังศีรษะและทำให้เกิดอาการคันได้
  • ความเครียดหรือปัจจัยด้านฮอร์โมน: บางครั้งปัจจัยเหล่านี้ก็ส่งผลต่อความไวของหนังศีรษะได้ค่ะ

ส่วนผสมอย่าง Licorice Extract และ Allantoin มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมและลดการระคายเคือง ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการคันศีรษะที่เกิดจากความแห้งหรือการระคายเคืองได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Allantoin
Allantoin
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Lauryl Glucoside
Lauryl Glucoside
เครื่องสำอาง
Zinc PCA
Zinc PCA
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Palm (Ethylhexyl palmitate)
LipidSoft™ Palm (Ethylhexyl palmitate)
เครื่องสำอาง
Poly-Conditioner Pro (400 mPa.s)
Poly-Conditioner Pro (400 mPa.s)
เครื่องสำอาง
Steartrimonium Chloride (30% liquid)
Steartrimonium Chloride (30% liquid)
เครื่องสำอาง
CreamThick™ (Hydroxypropyl Starch Phosphate)
CreamThick™ (Hydroxypropyl Starch Phosphate)
เครื่องสำอาง
Coco-Betaine (e.q. Dehyton AB30)
Coco-Betaine (e.q. Dehyton AB30)
เครื่องสำอาง