ฟองในเซรั่มวิตามินซีผสมไฮยาลูรอน

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟองในเซรั่มวิตามินซีของคุณ

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่คุณกังวลเกี่ยวกับฟองที่ยังคงอยู่หลังจากผสมเซรั่มเอง ฟองสีขาวที่คุณเห็นน่าจะเกิดจากการที่อากาศเข้าไปในส่วนผสมระหว่างการเขย่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อละลายผง Hyaluronic Acid (ทั้งชนิด Standard Molecule และ Small Molecule/Nano)

ผง Hyaluronic Acid โดยเฉพาะชนิด Standard ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง อาจละลายยากและมักต้องใช้การคนหรือเขย่าอย่างแรง ซึ่งทำให้อากาศเข้าไปติดอยู่ นอกจากนี้ สูตรของคุณมี Laureth-23 ซึ่งเป็นสารอิมัลซิไฟเออร์ สารอิมัลซิไฟเออร์ช่วยให้ส่วนผสมของน้ำมันและน้ำเข้ากันได้ดี แต่ก็สามารถทำให้เกิดและคงตัวของฟองได้ด้วยการลดแรงตึงผิวของของเหลว

แม้ว่าฟองจะเป็นเพียงอากาศที่ติดอยู่และไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์ใช้ไม่ได้เสมอไป แต่การมีอากาศอยู่สามารถเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชันของส่วนผสมที่ไวต่ออากาศ เช่น L-ascorbic acid (วิตามินซี) ได้เมื่อเวลาผ่านไป คุณกล่าวว่าผงดูเหมือนจะละลายหมดแล้ว ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับประสิทธิภาพของ Hyaluronic Acid และ L-ascorbic acid

สามารถใช้ได้หรือไม่?

ใช่ คุณน่าจะสามารถใช้เซรั่มได้แม้จะมีฟองอยู่ โดยมีเงื่อนไขว่า:

• ผง L-ascorbic acid ดูเหมือนจะละลายหมดแล้ว ไม่มีอนุภาคที่มองเห็นได้
• ไม่มีสัญญาณอื่น ๆ ของการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น สีที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด (L-ascorbic acid จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม หรือน้ำตาลเมื่อเกิดออกซิเดชัน) หรือมีกลิ่นผิดปกติ

วิธีลดฟอง

เพื่อให้ฟองยุบตัวลง ลองวางขวดตั้งทิ้งไว้ในตู้เย็นโดยไม่ต้องเขย่า การแกว่งเบาๆ (แทนการเขย่าแรงๆ) อาจช่วยให้อากาศที่ติดอยู่ออกไปได้โดยไม่ทำให้เกิดฟองเพิ่มขึ้น อาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าฟองจะหายไปหมด

สำหรับครั้งต่อไป ตามที่เจ้าหน้าที่เคยแนะนำ การละลายผง Hyaluronic Acid ในน้ำเย็นจัดแยกต่างหาก โดยใช้การคนให้น้อยที่สุด (อาจใช้การคนเบาๆ หรือปล่อยให้ละลายเองในตู้เย็นเมื่อเวลาผ่านไป) ก่อนนำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ จะช่วยลดการเกิดฟองได้ การใช้ Hyaluronate ชนิดน้ำ เช่น Double Hyaluron Liquid ก็เป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าซึ่งหลีกเลี่ยงปัญหาการละลายนี้

ควรเก็บเซรั่มไว้ในตู้เย็นในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อช่วยรักษาความเสถียรของ L-ascorbic acid และชะลอการเกิดออกซิเดชัน