รีวิวสูตรครีมทามือสำหรับผิวแห้งมากและกันน้ำ
คำถาม
สวัสดีค่ะ รบกวนตรวจสอบสูตรครีมก่อนสั่งซื้อค่ะ ตั้งใจอยากได้ครีมทามือ ที่ให้ความชุ่มชื้นมาก และกันน้ำค่ะ ชุ่มชื้นแบบเหมือนเป็นตัวฟื้นฟูมือที่แห้งกร้านมากๆที่ได้ผลเร็วๆค่ะ
สูตรที่ร่างไว้มีดังนี้ค่ะ:
- Natto Gum 5%
- Natural Urea 5%
- WaterLock 2%
- Polyester Film 5%
- Ceramide 2 %
- Macadamia Nut Oil 2%
- shea butter 10%
- Light Cream Maker 1 %
อยากทราบเพิ่มเติมว่า:
- การใส่ Urea แล้วจำเป็นต้องเพิ่ม Sodium PCA กับ Sodium Lactate มั๊ยคะ
- ระหว่าง Cocoa Butter กับ shea butter อันไหนเหนอะหนะ น้อยกว่ากันคะ
หรือถ้าทางทีมงานมีสารประกอบอื่นๆแนะนำมั๊ยคะ สำหรับครีมคุณสมบัติที่บอกมา
คำตอบ
สวัสดีค่ะ
ได้ตรวจสอบสูตรครีมทามือที่คุณต้องการให้มีความชุ่มชื้นสูงและกันน้ำสำหรับมือที่แห้งกร้านมากแล้วค่ะ การเลือกส่วนประกอบของคุณเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการสร้างครีมที่มีคุณสมบัติดังกล่าว
นี่คือการรีวิวสูตรของคุณและคำตอบสำหรับคำถามค่ะ
การรีวิวสูตร
สูตรของคุณมีส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมหลายชนิดสำหรับการให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นและสร้างเกราะป้องกันผิว:
- Natto Gum: ส่วนประกอบนี้ขึ้นชื่อในด้านการให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก มีประสิทธิภาพมากกว่า Hyaluronic Acid ตามคำอธิบาย การใช้ที่ 5% จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นของครีมได้อย่างมาก
- Urea: ที่ความเข้มข้น 5% Urea ทำหน้าที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่แห้งกร้านอย่างอ่อนโยน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับมือที่แห้งมาก
- WaterLock (Polyquaternium-51): ส่วนประกอบนี้จะสร้างฟิล์มบนผิว คล้ายกับ Phospholipids ตามธรรมชาติของผิว ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ (TEWL) และให้ความรู้สึกเรียบลื่น
- Polyester Film (Make Up Fixer): เป็นสารสร้างฟิล์มที่ละลายน้ำได้ ออกแบบมาเพื่อการกันน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งตอบโจทย์เป้าหมายของคุณที่ต้องการครีมทามือที่กันน้ำ
- Ceramide 2 (Ceracare™ Oil): Ceramides มีความสำคัญอย่างยิ่งในการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ลดการสูญเสียน้ำ และปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย การใส่ส่วนประกอบนี้จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพของมือที่แห้งมาก
- Macadamia Nut Oil: น้ำมันนี้ซึมซาบง่ายและอุดมไปด้วยกรดไขมันที่คล้ายกับไขมันตามธรรมชาติของผิว ให้ความชุ่มชื้นได้ดีโดยไม่รู้สึกเหนอะหนะมากเกินไป
- shea butter: ที่ความเข้มข้น 10% Shea Butter เป็น Emollient ที่เข้มข้น ให้ความชุ่มชื้นอย่างมาก ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหาย และปรับปรุงความยืดหยุ่น
- Light Cream Maker: อิมัลซิไฟเออร์นี้ใช้งานง่ายและสร้างเนื้อครีมที่บางเบาและเรียบเนียน สามารถทนต่อ Electrolyte ได้บ้าง แต่คุณอาจต้องปรับเพิ่มปริมาณตามส่วนประกอบอื่นๆ
โดยรวมแล้ว การผสมผสานของ Humectants, Emollients, สารซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว และสารสร้างฟิล์มนี้ ได้รับการออกแบบมาอย่างดีสำหรับครีมทามือที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับมือที่แห้งมาก พร้อมคุณสมบัติกันน้ำ
คำถามของคุณ
การใส่ Urea แล้วจำเป็นต้องเพิ่ม Sodium PCA กับ Sodium Lactate ไหมคะ?
แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งหมด แต่แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ Urea ร่วมกับ Sodium PCA และ Sodium Lactate เพื่อประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นสูงสุด ส่วนประกอบทั้งสามนี้เป็นองค์ประกอบหลักของ Natural Moisturizing Factor (NMF) ในผิว ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาความชุ่มชื้นและเกราะป้องกันผิว การใช้ร่วมกันจะช่วยเติมเต็มองค์ประกอบความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว นำไปสู่ความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นสำหรับมือที่แห้งมากโปรดทราบว่า Sodium PCA และ Sodium Lactate เป็น Electrolyte ตามที่ระบุในคำอธิบายของ Light Cream Maker Electrolyte สามารถลดความหนืดของครีมได้ คุณอาจต้องใช้ Light Cream Maker ในปริมาณที่สูงขึ้นเล็กน้อย (เช่น 1.5-2%) และปฏิบัติตามวิธีการผสมที่แนะนำสำหรับสูตรที่มี Electrolyte เพื่อให้ได้ความข้นของครีมที่คุณต้องการ
ระหว่าง Cocoa Butter กับ shea butter อันไหนเหนอะหนะ น้อยกว่ากันคะ?
การเปรียบเทียบความรู้สึกระหว่าง Cocoa Butter และ Shea Butter อาจเป็นเรื่องส่วนบุคคลและขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณที่ใช้ในสูตร โดยทั่วไปแล้ว ทั้งสองเป็นบัตเตอร์ที่เข้มข้นซึ่งให้ความชุ่มชื้นอย่างมาก Shea Butter โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูงถึง 10% ในสูตรของคุณ จะให้ความรู้สึกที่เข้มข้นและเป็น Emollient คำอธิบายของ Light Cream Maker ระบุว่าครีมที่ได้จะบางเบาและเรียบเนียน "ไม่เหนอะหนะ" แต่สิ่งนี้หมายถึงคุณสมบัติของอิมัลซิไฟเออร์ต่อเนื้อครีมพื้นฐาน ไม่ได้หมายถึงความรู้สึกที่เกิดจากบัตเตอร์ในปริมาณสูงผลิตภัณฑ์ที่คุณลิงก์มาในชื่อ "Cocoa Butter" จริงๆ แล้วคือ Cocoa Butter Replacer (Quick-Melt) ส่วนประกอบนี้ถูกสร้างขึ้นจากน้ำมันพืช/แว็กซ์ให้คล้ายกับไขมันโกโก้ธรรมชาติ แม้ว่าจะให้ประโยชน์ในการให้ความชุ่มชื้นและซึมซาบเร็ว แต่ความรู้สึกที่ได้เมื่อเทียบกับ Shea Butter ธรรมชาติอาจแตกต่างกันไป
โดยทั่วไปแล้ว Shea Butter บางครั้งอาจให้ความรู้สึกหนักกว่าหรือเป็นแว็กซ์มากกว่า Cocoa Butter เล็กน้อย แต่การรับรู้ถึง "ความเหนอะหนะ" ขึ้นอยู่กับสูตรโดยรวมอย่างมาก รวมถึงน้ำมันอื่นๆ, Emollients, และระบบอิมัลซิไฟเออร์ ที่ความเข้มข้น 10% Shea Butter จะให้ความรู้สึกที่สำคัญและปกป้องผิว ซึ่งมักเป็นที่ต้องการสำหรับมือที่แห้งมากที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเข้มข้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
- สารกันเสีย: สูตรของคุณมีส่วนของน้ำและส่วนประกอบจากธรรมชาติ เช่น Natto Gum และ Urea ซึ่งจำเป็นต้องมีสารกันเสีย แม้ว่า Natto Gum จะมี Phenoxyethanol (0.7%) อยู่แล้ว คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสูตรโดยรวมของคุณมีระบบสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เพียงพอเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และรักษาความปลอดภัยและอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์
- การปรับ/รักษาสมดุลค่า pH: Urea อาจทำให้ค่า pH ของสูตรสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่ร้อน คำอธิบายของ Urea แนะนำให้ใช้ Gluconolactone (ประมาณ 15% ของปริมาณ Urea) หรือ Triacetin (ประมาณอัตราส่วน 1:10 กับ Urea) เพื่อช่วยรักษาสมดุลของ Urea และควบคุมค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (โดยทั่วไปคือ 4-5.5) เพื่อความเสถียรสูงสุดและเข้ากันได้ดีกับผิว คุณควรตรวจสอบและปรับค่า pH สุดท้ายของครีมของคุณ
สูตรของคุณเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการทำครีมทามือที่ให้ความชุ่มชื้นสูงและกันน้ำ การพิจารณาถึงปฏิกิริยาของ Electrolyte กับอิมัลซิไฟเออร์ของคุณ และการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการกันเสียและการรักษาสมดุลค่า pH ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับมือที่แห้งกร้านอย่างรุนแรงได้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Macadamia Nut Oil (Deodorized)

Shea Butter (Refined , Deodorised)

Light Cream Maker™

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)

Sodium PCA 50%

WaterLock™ (Polyquaternium-51)

Natto Gum (Nutto Gum)

Make Up Fixer (Polyester-5 Solution)
