รีวิวสูตรครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายและแห้งขาดน้ำ (เนื้อไม่เหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื้น)
คำถาม
ต้องการทำครีม สำหรับผิวแพ้ง่าย และ แห้งขาดน้ำ ตามสูตรด้านล่างนี้
ต้องการเนื้อครีมที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ก็ให้ความชุ่มชื้น และ ทำให้ผิวหนา แข็งแรงขึ้น
กรุณาช่วยรีวิวสูตรให้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ
สูตร:
ส่วนของน้ำมัน (Oil Phase)
- Sweet Almond Oil: 10.0%
- shea butter Ultrasoft: 5.0%
- Bisabolol (สารสกัดจากดอกคาโมมายล์เยอรมัน): 1.0%
- Skin Defense: 2.0%
- Phyto Glycyrrhetinic Acid: 2.0%
ส่วนของน้ำ (Water Phase)
- น้ำกลั่น: 67.00%
- ผง Hyaluronic Standard Molecule: 0.50%
- ผง Hyaluronic Nano Molecule: 0.50%
- Ceramide Complex (CeraTouch): 10.0%
ส่วนที่เติมหลังเย็น (Cool Down Phase)
- Phynoxy ethanol (Optiphen): 1.0%
- Satin Mousse (Silky Cream Maker): 1.0%
รวม: 100.0%
ขั้นตอนการผสม:
- อุ่น Sweet Almond Oil และ Shea butter ultra soft ที่ความร้อน 70°C จนละลาย และทิ้งให้เย็นลง เติม Bisabolol, Skin Defense และ Phyto Glycyrrhetinic Acid และคนให้เข้ากัน จะได้ส่วนผสม oil phase
- ผสม น้ำกลั่น Ceramide Complex และคนให้เข้ากัน เติม ผง Hyaluronic Standard Molecule และ ผง Hyaluronic Nano Molecule แล้วคนให้เข้ากัน จะได้ส่วนผสม Water phase
- เติม Satin Mousse ลงใน ส่วนผสม oil phase และคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม
- เติม Water phase ลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
- เติม Phynoxy ethanol ลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
คำตอบ
การรีวิวสูตรครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายและแห้งขาดน้ำ
สูตรนี้มีส่วนประกอบที่ดีเยี่ยมหลายชนิดสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง/ขาดน้ำ โดยมุ่งเน้นที่การให้ความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว นี่คือการรีวิวสูตร:
จุดเด่นของสูตร:
- ให้ความชุ่มชื้น: ส่วนประกอบอย่าง Sweet Almond Oil, Shea Butter, และ Hyaluronic Acid ทั้งโมเลกุลมาตรฐานและนาโน ช่วยให้ความชุ่มชื้นในระดับต่างๆ ของผิวและป้องกันการสูญเสียน้ำ
- เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว: Ceramide Complex และ Skin Defense (Phytosterols) เป็นส่วนประกอบสำคัญในการฟื้นฟูและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง
- คุณสมบัติปลอบประโลมผิว: Bisabolol (สารสกัดจากดอกคาโมมายล์เยอรมัน) และ Phyto Glycyrrhetinic Acid มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและลดการระคายเคือง ทำให้สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำ:
- ความเข้มข้นของ Ceramide Complex: สูตรนี้ใช้ Ceramide Complex ในความเข้มข้นสูงถึง 10% แม้ว่าเซราไมด์จะมีประโยชน์ แต่ความเข้มข้นนี้สูงกว่าอัตราการใช้ที่แนะนำโดยทั่วไป (0.1-3%) อย่างมาก ความเข้มข้นที่สูงอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัส ทำให้ครีมรู้สึกหนักหรือไม่มีความเสถียร แนะนำให้ใช้ Ceramide Complex ในช่วงที่แนะนำเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด
- ขั้นตอนการผสม Ceramide Complex: คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับ Ceramide Complex (ผงที่กระจายตัวได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน) ระบุว่าควรนำไปกระจายตัวในน้ำมันหรือไกลคอลโดยใช้ความร้อน (70-80°C) ก่อนนำไปผสมในสูตรหลัก การผสมโดยตรงกับน้ำในรูปผงตามที่ระบุในขั้นตอนที่ 2 อาจทำให้การกระจายตัวไม่ดีและส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและความเสถียรของครีมในขั้นตอนสุดท้ายได้
- ขั้นตอนการผสม Satin Cream Maker: คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับ Satin Cream Maker ระบุว่าควรเติมลงในส่วนของน้ำก่อน ตามด้วยส่วนของน้ำมัน ขั้นตอนที่ 3 ในคำแนะนำของคุณระบุให้เติมลงในส่วนของน้ำมัน ซึ่งไม่ถูกต้องและอาจทำให้การอิมัลชันไม่สำเร็จ
ขั้นตอนการผสมที่ปรับปรุง:
เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความเสถียรของครีมของคุณ ควรพิจารณาปรับความเข้มข้นของ Ceramide Complex และทำตามขั้นตอนการผสมที่ปรับปรุงตามคำอธิบายผลิตภัณฑ์ดังนี้:
- การเตรียมส่วนของน้ำมัน: ให้ความร้อน Sweet Almond Oil และ Shea Butter ถึง 70°C จนละลาย ปล่อยให้เย็นลงเล็กน้อย ในภาชนะแยกต่างหาก ให้กระจายผง Ceramide Complex ในไกลคอลปริมาณเล็กน้อย (เช่น Propylene Glycol หรือ Butylene Glycol) โดยให้ความร้อนถึง 70-80°C พร้อมคนอย่างต่อเนื่องจนกระจายตัวได้ดี จากนั้นเติมส่วนผสมนี้ลงในส่วนของน้ำมันที่เย็นลงแล้ว เติม Bisabolol, Skin Defense, และ Phyto Glycyrrhetinic Acid ลงในส่วนของน้ำมันและผสมให้เข้ากัน
- การเตรียมส่วนของน้ำ: ในภาชนะแยกต่างหาก เติม Satin Cream Maker ลงในน้ำและผสมให้กระจายตัว จากนั้นเติมผง Hyaluronic Acid (โมเลกุลมาตรฐานและนาโน) ลงในส่วนของน้ำ คนหรือปั่นจนผงละลายและดูดน้ำเต็มที่ (อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือต้องใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง)
- การทำอิมัลชัน: ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำมัน (จากขั้นตอนที่ 1) ลงในส่วนของน้ำ (จากขั้นตอนที่ 2) พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง ปั่นจนได้เนื้อครีมที่เป็นเนื้อเดียวกัน หลีกเลี่ยงการปั่นด้วยความเร็วสูงกว่า 2500 รอบต่อนาที
- ขั้นตอนสุดท้าย: เมื่อครีมก่อตัวและเย็นลงต่ำกว่า 60°C ให้เติมสารกันเสีย Phenoxyethanol และผสมให้เข้ากัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับสารกันเสีย (pH 2.0-6.0 สำหรับ Phenoxyethanol SA)
การปรับความเข้มข้นของ Ceramide Complex และทำตามขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องสำหรับอิมัลซิไฟเออร์และเซราไมด์ จะช่วยให้คุณได้ครีมที่มีความเสถียรและเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น พร้อมคงคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์สำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งไว้ได้
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)

Shea Butter (Ultra Soft)

Satin Cream Maker™

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Glycyrrhetinic acid (Enoxolone)

Pure-Phytosterols™

Ceramide Complex (Water/Oil Dispersible Powder)
