รีวิวสูตรบำรุงผิว: เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์
ถามโดย: fewruko
เมื่อ: December 17, 2014
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
จากหัวข้อ "ช่วยดูสูตรบำรุงผิวให้หน่อยค่ะ" ดิฉันมี 2 สูตรดังนี้ค่ะ
สูตรเซรั่ม:
Double Hyaluronic Liquid 0.1%
- ส่วนผสมอื่นๆ (ไม่ได้ระบุในคำตอบ แต่ถูกกล่าวถึง)
สูตรให้ความชุ่มชื้น:
Vitamin B5 5%
Natto Gum 5%
DMAE 4%
- ส่วนผสมอื่นๆ (ไม่ได้ระบุในคำตอบ แต่ถูกกล่าวถึง) โดยตั้งใจจะใช้
Pro Polymer
เป็นสารสร้างเนื้อ
สภาพผิวของดิฉันคือผิวผสมค่อนไปทางแห้งค่ะ
อยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับสูตรเหล่านี้ โดยเฉพาะในประเด็นต่อไปนี้ค่ะ:
- สูตรทั้งสองนี้โดยทั่วไปเหมาะสมสำหรับการผสมและนำไปใช้หรือไม่คะ?
- ความหนืดของสูตรเซรั่มที่มี
Double Hyaluronic Liquid 0.1%
จะเป็นอย่างไรคะ? - สำหรับสูตรให้ความชุ่มชื้น สารสร้างเนื้อ/ตัวนำพาสารตัวไหนเหมาะสมกว่าระหว่าง
Light Cream Maker
กับPro Polymer
? และสารเหล่านี้มีหน้าที่ในการช่วยกระจายส่วนผสมอย่างไรบ้างคะ? - เปอร์เซ็นต์ของ
Vitamin B5 (5%)
และNatto Gum (5%)
เหมาะสมหรือไม่คะ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง? DMAE 4%
เหมาะสมหรือไม่คะ? รูปแบบ (แบบน้ำ vs. แบบผง) มีความสำคัญอย่างไร และมีข้อควรพิจารณาเรื่องการปรับค่า pH อย่างไรบ้างคะ?
คำตอบ
หัวข้อ: Re: ช่วยดูสูตรบำรุงผิวให้หน่อยค่ะ
ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรบำรุงผิวและคำถามนะคะ
เกี่ยวกับความเหมาะสมของสูตรโดยรวม:
- ทั้งสองสูตรโดยทั่วไปสามารถผสมและนำไปใช้ได้ค่ะ
เกี่ยวกับความหนืดของเซรั่ม:
- สูตรเซรั่มของคุณน่าจะค่อนข้างเหลวเป็นน้ำ เนื่องจากมี Double Hyaluronic Liquid เพียง 0.1%
- เพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่ไม่เหลวเป็นน้ำและไม่ข้นจนเกินไป คุณจำเป็นต้องใส่ Pro Polymer เพิ่มค่ะ Hyaluronic Acid เพียงอย่างเดียวในเปอร์เซ็นต์นี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เกี่ยวกับสารสร้างเนื้อ/ตัวนำพาสารในสูตรให้ความชุ่มชื้น (Light Cream Maker vs. Pro Polymer):
- ในสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น สูตรให้ความชุ่มชื้นของคุณ Pro Polymer เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อเจลค่ะ
- สารสร้างเนื้อ/อิมัลซิไฟเออร์ทั้งสองชนิดสามารถช่วยกระจายส่วนผสมในสูตรได้ แต่หน้าที่หลักคือการสร้างเนื้อสัมผัสและความคงตัวของสูตร ไม่ได้หมายความว่าจะ "นำพา" สารเข้าสู่ผิวในแง่ของการเพิ่มการซึมผ่านเมื่อเทียบกับระบบนำส่งสารออกฤทธิ์โดยเฉพาะ
- เนื่องจากสูตรของคุณไม่มีน้ำมัน Pro Polymer จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเนื้อเจลค่ะ Light Cream Maker มักใช้ในสูตรอิมัลชันแบบน้ำในน้ำมัน (O/W emulsion) เพื่อสร้างเนื้อครีมหรือโลชั่น ซึ่งจำเป็นต้องมีส่วนของน้ำมัน
- ข้อสังเกตเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ Pro Polymer: การใช้ Pro Polymer 4% อาจทำให้ได้เนื้อที่ข้นมาก อาจเป็นลักษณะคล้ายพุดดิ้ง มากกว่าเจลที่บางเบา หากต้องการเจลที่บางเบา อาจลองทดสอบโดยใช้เปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่านี้ก่อนค่ะ
เกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมบางชนิดและข้อควรระวัง:
- Vitamin B5 (5%) และ Natto Gum (5%): ตามที่ได้มีการตอบไปก่อนหน้านี้ เปอร์เซ็นต์เหล่านี้ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสำหรับผิวผสมค่อนไปทางแห้ง อาจทำให้รู้สึกหนักหน้า มัน หรือเหนอะหนะได้ค่ะ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่านี้ (เช่น 1-2% สำหรับแต่ละตัว) และค่อยๆ เพิ่มหากยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ เพราะการเพิ่มง่ายกว่าการแก้ไขสูตรที่เหนอะหนะเกินไปค่ะ
- DMAE (4%): ความเหมาะสมของ DMAE 4% ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่คุณใช้ค่ะ
- หากใช้ DMAE แบบน้ำ (Liquid) โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ความเข้มข้นอย่างน้อย 10% เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
- หากใช้ DMAE แบบผง (Powder) สามารถใช้ 4% ได้ แต่มีความเป็นกรดสูงมาก และจะต้องมีการปรับค่า pH ของสูตรสุดท้ายอย่างระมัดระวังให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไปคือ pH 5.0-6.0) สำหรับผู้เริ่มต้น การใช้แบบน้ำที่ 10% มักจะง่ายกว่า เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับ pH มากนัก
เมื่อพิจารณาจากสภาพผิวของคุณที่เป็นผิวผสมค่อนไปทางแห้ง การใส่ใจเรื่องความเหนอะหนะที่อาจเกิดขึ้นจาก Vitamin B5 และ Natto Gum ในเปอร์เซ็นต์สูงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ใช้แล้วรู้สึกสบายผิวค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสูตรของคุณนะคะ!