รีวิวสูตรสกินแคร์ฟื้นฟูผิวหลังทำทรีตเมนต์และความปลอดภัยของส่วนผสม
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับสูตรสกินแคร์สำหรับฟื้นฟูผิวหลังทำทรีตเมนต์และความปลอดภัยของส่วนผสมครับ:
มีปัญหาเรื่องของหน้าไปทำ Treatment แล้วแดงลอก แล้วเป็น PIH ชัด ปกติหน้ามัน พอทำแล้วหน้าแห้งไปเลย สูตรดังกล่าวควรปรับปรุงอะไรไหมครับ
- Vitamin B5 5%
- CeraTouch™ 5%
- Double Hyaluronic Acid 5%
- MOIST72™ 4%
- Allantoin
- Hi-Quercetin® 5%
- SKIN-DEFENSE® 5%
- Vitamin B3 2%
- Madecassoside 1.5%
β-Sitosterol ถ้าใช้ระยะยาวไม่มีผลเสียแบบยา Steroid ใช่ไหมครับ
- เรื่อง whitening Agent ผมใช้ Short-term HQ 4% รักษารอยแดง คิดว่าตัวนี้น่าจะช่วยลดการระคายเคืองได้ดีอยู่ใช่ไหมครับ
คำตอบ
การประเมินสูตรบำรุงผิวหลังทำทรีตเมนต์
สูตรที่คุณเสนอมามีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการฟื้นฟูสภาพผิวหลังทำทรีตเมนต์ที่มีอาการแดง ลอก แห้ง และมีรอยดำหลังการอักเสบ (PIH) ครับ ส่วนผสมที่คุณเลือกเน้นการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว การให้ความชุ่มชื้น การปลอบประโลมผิว และการลดรอยดำ ซึ่งตรงกับความต้องการของผิวที่บอบบางและถูกทำลาย
การวิเคราะห์ส่วนผสมในสูตร:
- Vitamin B5 (Panthenol) 5%: เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยม ช่วยให้ความชุ่มชื้น เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบและรอยแดง ส่งเสริมการสมานแผล ความเข้มข้น 5% ให้ผลดีในการฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย
- CeraTouch™ (Ceramide Complex) 5%: เซราไมด์เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว การเติมเซราไมด์ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้ง ลอก และแพ้ง่าย ความเข้มข้น 5% ค่อนข้างสูง แต่มีประโยชน์มากสำหรับผิวที่เกราะป้องกันถูกทำลายอย่างรุนแรง
- Double Hyaluronic Acid 5%: ไฮยาลูรอนิคแอซิดช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว การใช้หลายขนาดโมเลกุลช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ทั้งผิวชั้นบนและชั้นล่าง ความเข้มข้น 5% สูงมาก ให้ความชุ่มชื้นได้ดีเยี่ยม แต่อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เหนอะหนะได้ หากกังวลเรื่องเนื้อสัมผัส อาจพิจารณาลดความเข้มข้นลงเล็กน้อยได้
- MOIST72™ 4%: ช่วยเสริม Natural Moisturizing Factor (NMF) ของผิว ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน เหมาะสำหรับผิวแห้ง ความเข้มข้น 4% อยู่ในเกณฑ์แนะนำสำหรับผิวแห้งถึงแห้งมาก
- Allantoin: ช่วยลดการระคายเคือง การแพ้ และส่งเสริมการสมานแผล มีประโยชน์ในการปลอบประโลมผิวที่แดงและอักเสบ
- Hi-Quercetin® 5%: สารสกัดจากหัวหอม มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ลดการแพ้ และช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนและลดการระคายเคือง ที่ความเข้มข้น 5% อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีสีเหลืองเข้มและทำให้ผิวดูเหลืองชั่วคราวขณะทาได้ หากไม่ต้องการให้มีสี อาจใช้ในความเข้มข้นที่ต่ำกว่า (1-2%)
- SKIN-DEFENSE® 5%: มีส่วนประกอบหลักคือ β-Sitosterol ช่วยลดการระคายเคืองผิวได้เทียบเท่าสเตียรอยด์ความเข้มข้นต่ำ แต่ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนสเตียรอยด์สังเคราะห์ ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ความเข้มข้น 5% สูงกว่าที่แนะนำทั่วไป (1-2%) ซึ่งจะให้ผลในการลดการระคายเคืองได้ดี
- Vitamin B3 (Niacinamide) 2%: เป็นส่วนผสมอเนกประสงค์ ช่วยลดรอยแดงและรอยดำ (PIH) เสริมเกราะป้องกันผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์
- Madecassoside 1.5%: ส่วนประกอบสำคัญจากใบบัวบก ช่วยส่งเสริมการสมานแผล ลดการอักเสบ กระตุ้นคอลลาเจน และช่วยเรื่องรอยแดงและรอยดำ PIH
ความเหมาะสมของสูตรโดยรวม:
สูตรที่คุณออกแบบมามีความครบถ้วนและเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณในปัจจุบันอย่างยิ่ง การใช้ส่วนผสมที่เน้นการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้นในความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูงจะเป็นประโยชน์ต่อผิวที่แห้งและลอก อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นที่สูงของ Hyaluronic Acid, Ceramide Complex และ SKIN-DEFENSE อาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสที่อาจเหนอะหนะได้ และ Hi-Quercetin 5% จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีสีเหลืองชัดเจน คุณสามารถทดลองใช้ Tester เพื่อดูเนื้อสัมผัสและสี และพิจารณาปรับลดความเข้มข้นของส่วนผสมเหล่านี้เล็กน้อยได้หากต้องการเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น แต่ในแง่ของประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว สูตรนี้ถือว่ามีศักยภาพสูงครับ
คำตอบสำหรับคำถามเฉพาะของคุณ:
- สูตรเหมาะสมกับสภาพผิวหลังทำ Treatment หรือไม่: เหมาะสมอย่างยิ่งครับ สูตรนี้เน้นการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และลดรอยดำ ซึ่งตรงกับปัญหาที่คุณกำลังเผชิญ
- β-Sitosterol ใช้ระยะยาวมีผลเสียแบบยา Steroid หรือไม่: ไม่มีครับ β-Sitosterol (ใน SKIN-DEFENSE®) เป็นสารสกัดจากพืชและปลอดภัยสำหรับการใช้ระยะยาว ไม่เหมือนยาคอร์ติโคสเตียรอยด์สังเคราะห์ที่มีผลข้างเคียงเมื่อใช้ต่อเนื่อง
- Hydroquinone 4% รักษารอยแดง: Hydroquinone (HQ) ใช้หลักในการลดรอยดำ (hyperpigmentation) โดยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ไม่ใช่การรักษารอยแดง (erythema) ที่เกิดจากการอักเสบโดยตรง และ HQ เป็นสารควบคุมที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป ส่วนผสมในสูตรของคุณ (Vitamin B3, Madecassoside, Hi-Quercetin, SKIN-DEFENSE, Allantoin, Vitamin B5) มีความเหมาะสมมากกว่าสำหรับการลดรอยแดงและการอักเสบ และ Vitamin B3 กับ Madecassoside ก็ช่วยเรื่องรอยดำ PIH ได้เช่นกันครับ หากต้องการเน้นเรื่องรอยดำโดยเฉพาะและไม่สามารถใช้ HQ ได้ อาจพิจารณาสารทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเช่น Hydro-White™ ครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Hyaluronic Acid (Standard Molecule, 1M Daltons)

Hyaluronic Acid (Small Molecule, 8-50K Daltons)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

MOIST72™

SKIN-DEFENSE® V ลดระคายเคืองจากธรรมชาติ

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

Hydro-White™ (Hydroquinone-Replacer)
