การประเมินสูตรเจลที่คุณผสมเอง

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรที่คุณคิดขึ้นมานะคะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณกำลังศึกษาการทำสกินแคร์ใช้เองเพื่อให้ตรงกับความต้องการเฉพาะตัว ทั้งเรื่องความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส และความกระชับเล็กน้อย โดยที่ยังคงความเรียบง่ายของขั้นตอนการบำรุง สำหรับสภาพผิวของคุณ (ผิวธรรมดา อายุ 33 มีความมันเล็กน้อยช่วงบ่าย ไม่ค่อยแพ้) และเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนผสมและความเข้มข้นที่คุณเลือกมาถือว่าเหมาะสมและตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณหลายอย่างเลยค่ะ

มาดูส่วนผสมแต่ละตัวที่คุณใส่มานะคะ:

• Alpha Arbutin (2%): เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับช่วยให้ผิวกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ ความเข้มข้น 2% เป็นระดับมาตรฐานที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
• Panthenol (Vitamin B5) (5%): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและปรับสภาพผิวที่ดีมาก 5% ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างมีนัยสำคัญและช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวธรรมดาที่มีความมันเล็กน้อย นอกจากนี้ยังทำงานได้ดีร่วมกับ DMAE ด้วยค่ะ
• Bio-Yeast Essence (1%): ส่วนผสมที่ได้จากการหมักยีสต์ เช่น MYFerment™ Balance หรือ Yeast Radiance™ มีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และอาจช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ 1% เป็นความเข้มข้นเริ่มต้นที่เหมาะสมค่ะ
• Allantoin (0.2-0.5%): เป็นสารปลอบประโลมและลดการระคายเคืองคลาสสิก การใส่ตัวนี้ช่วยให้ผิวรู้สึกสบายขึ้นและลดโอกาสการระคายเคืองจากสารแอคทีฟอื่นๆ ในสูตรได้ ความเข้มข้นที่คุณเลือกมาอยู่ในช่วงที่เหมาะสมค่ะ
• Niacinamide (Vitamin B3) (5%): เป็นสารที่ครบเครื่องมากที่ความเข้มข้น 5% ช่วยได้ทั้งเรื่องความกระจ่างใส (เสริมการทำงานของ Alpha Arbutin), เสริมเกราะป้องกันผิว (เพิ่มความชุ่มชื้น), ช่วยควบคุมความมันเล็กน้อย (เป็นประโยชน์สำหรับผิวช่วงบ่ายที่มันเล็กน้อย), มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และมีประโยชน์ด้าน Anti-Aging นอกจากนี้ยังช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่องด้วยค่ะ
• DMAE (4%): เป็นสารที่ช่วยให้ผิวรู้สึกกระชับ เต่งตึงขึ้นได้ชั่วคราว 4% อยู่ในเกณฑ์ความเข้มข้นที่นิยมใช้กัน แม้บางคนอาจรู้สึกระคายเคืองที่ความเข้มข้นสูงกว่านี้ แต่เนื่องจากผิวคุณไม่ค่อยแพ้ ความเข้มข้นนี้ก็น่าจะใช้ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริงเสมอ
• Snail Secretion (4%): สารสกัดจากเมือกหอยทาก เช่น Snail Secretion Filtrate อุดมไปด้วยสารบำรุงที่เป็นประโยชน์ เช่น Allantoin, คอลลาเจน, อีลาสติน, และกรดไกลโคลิก ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น การซ่อมแซมผิว การปลอบประโลม และการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน 4% เป็นความเข้มข้นที่ดีเพื่อให้ได้ประโยชน์จากสารนี้ค่ะ
• Phenoxyethanol: จำเป็นต้องใส่เป็นสารกันเสีย เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในสูตรที่คุณผสมเองค่ะ อัตราการใช้ทั่วไปอยู่ที่ 0.5-1%

ความเหมาะสมโดยรวมของสูตร:

โดยรวมแล้ว สูตรของคุณตอบโจทย์เรื่องความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส และความกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและมีความเข้มข้นที่เหมาะสม การผสมผสานระหว่าง Panthenol, Allantoin, Bio-Yeast Essence, และ Snail Secretion ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้อย่างเต็มที่ ช่วยปรับสมดุลกับสารแอคทีฟอื่นๆ เช่น Alpha Arbutin, Niacinamide, และ DMAE ซึ่งตรงกับเป้าหมายของคุณที่ต้องการผลิตภัณฑ์กลางวันที่ให้ประโยชน์หลากหลายและลดขั้นตอนการบำรุงค่ะ

เรื่องรูขุมขนอุดตันและการเพิ่ม Salicylic Acid:

คุณกล่าวถึงความต้องการที่จะดูแลปัญหารูขุมขนอุดตันที่จมูก แม้ Niacinamide ที่ความเข้มข้น 5% จะช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นได้เมื่อใช้ต่อเนื่อง แต่ Salicylic Acid (BHA) มีประสิทธิภาพเฉพาะเจาะจงสำหรับปัญหานี้มากกว่า เนื่องจากสามารถละลายในน้ำมันและซึมเข้าไปผลัดเซลล์ผิวภายในรูขุมขนได้

การเพิ่ม Salicylic Acid (BHA) ลงในเบสเจลว่านหางจระเข้ของคุณอาจทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของ Salicylic Acid และความเข้ากันได้กับเบสเจลของคุณ Salicylic Acid ชนิดผงทั่วไปไม่ละลายในน้ำและต้องใช้ตัวทำละลายเฉพาะ แต่ชนิดที่ละลายน้ำได้ เช่น Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble) หรือ Liquid Salicylic Acid (40% Active Salicylic) จะผสมในสูตรที่เป็นน้ำได้ง่ายกว่า

หากคุณตัดสินใจจะเพิ่ม Salicylic Acid ควรเริ่มที่ความเข้มข้นต่ำๆ (เช่น 0.5-1% ของ Salicylic Acid ที่ออกฤทธิ์) และต้องคำนึงถึงค่า pH ที่เหมาะสมเพื่อให้ Salicylic Acid ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (โดยทั่วไปคือ pH 3-4) การปรับค่า pH ของเจลสำเร็จรูปอาจเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังในการผสมเอง และอาจส่งผลต่อความคงตัวหรือประสิทธิภาพของส่วนผสมอื่นๆ ได้

อีกทางเลือกที่อาจง่ายกว่าสำหรับมือใหม่ คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Salicylic Acid เป็นส่วนประกอบแยกต่างหาก เฉพาะบริเวณที่มีปัญหา (เช่น ใช้เฉพาะที่จมูก) อาจใช้เป็นสปอตทรีทเมนต์หรือเซรั่มที่ทาตอนกลางคืน หรือสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน แทนที่จะผสมลงในเจลหลักสำหรับทากลางวันค่ะ

การใช้คู่กับ Tester Serum Vitamin C ตอนกลางคืน:

เป็นการจับคู่ที่ดีมากค่ะ Serum Vitamin C (โดยเฉพาะ L-Ascorbic Acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ แสงแดด (เมื่อทากันแดดทับในตอนเช้า) ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Anti-Aging) การใช้ Vitamin C ตอนกลางคืนจะช่วยเสริมการบำรุงจากเจลที่คุณผสมสำหรับกลางวัน ทำให้ผิวได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมทั้งเรื่องความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส การกระชับ และการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ถือว่าเพียงพอสำหรับความต้องการเบื้องต้นของคุณแล้วค่ะ

สรุปแล้ว สูตรเจลที่คุณเสนอมานั้นดีและตอบโจทย์ความต้องการหลักของคุณได้ครบถ้วนค่ะ ส่วนผสมและความเข้มข้นที่เลือกมาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สำหรับเรื่องรูขุมขนอุดตัน อาจพิจารณาใช้ Salicylic Acid เป็นผลิตภัณฑ์แยกต่างหากเฉพาะจุดแทนการผสมในเจลหลัก และการใช้คู่กับ Vitamin C Serum ตอนกลางคืนเป็นการเสริมการบำรุงที่ดีมากค่ะ

คุณเริ่มต้นได้ดีมากเลยค่ะ การศึกษาข้อมูลและลองเลือกส่วนผสมเองเป็นขั้นตอนที่ดีในการเรียนรู้เรื่องการดูแลผิวแบบ DIY ค่ะ

หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยนะคะ