สูตรที่ 1: รีวิวแชมพูมะกรูด

เป้าหมายของคุณคือแชมพูที่อ่อนโยนและมีฟองไม่มากเกินไป มาดูส่วนผสมกันค่ะ:

1. น้ำมะกรูด 81.4%: เป็นสัดส่วนที่สูงมากสำหรับส่วนผสมจากธรรมชาติ น้ำมะกรูดมีความเป็นกรดและมีสารประกอบธรรมชาติ การใช้ในปริมาณสูงขนาดนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความคงตัว ค่า pH และความท้าทายในการกันเสียของสูตร ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีค่า pH ต่ำ
2. Plantacare 1200 UP 8%: คือ Alkyl polyglucoside (Lauryl Glucoside) เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ (non-ionic) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนโยนมากและให้ฟองที่คงตัว มักใช้ในสูตรที่อ่อนโยน
3. Amphitol AB 55 3%: คือ Cocamidopropyl Betaine เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิด Amphoteric ที่นิยมใช้เป็นสารลดแรงตึงผิวร่วม (co-surfactant) เพื่อช่วยเสริมฟอง ปรับความหนืด และลดการระคายเคืองที่เกิดจากสารลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบ (anionic) ช่วยเพิ่มความอ่อนโยน
4. Aminon C-02S 3%: คือ Sodium Lauroyl Sarcosinate เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบ (anionic) ที่ได้จากกรดอะมิโน ถือว่าอ่อนโยน ให้ฟองที่นุ่มละเอียด และมักใช้ในสูตรที่ไม่มีซัลเฟต

การผสมผสานระหว่าง Plantacare 1200 UP, Amphitol AB 55 และ Aminon C-02S เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับระบบที่อ่อนโยนและมีฟองน้อย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ เมื่อเทียบกับแชมพูที่มีซัลเฟตแบบดั้งเดิม การผสมผสานนี้จะช่วยทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนกว่าและอาจให้ฟองน้อยกว่า

5. Polyquaternium-10 1.5%: เป็นโพลิเมอร์ประจุบวก (cationic polymer) ที่ใช้เป็นสารปรับสภาพในแชมพู ช่วยลดการพันกัน ทำให้หวีง่ายทั้งขณะเปียกและแห้ง และยังช่วยให้ฟองคงตัว
6. Anthemis Nobilis (สารสกัดคาโมมายล์) 3%: สารสกัดคาโมมายล์ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติในการปลอบประโลมและต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อหนังศีรษะ
7. สารกันเสีย (Brodox L) 0.1%: สารกันเสียเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมะกรูดและสารสกัดจากพืช เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ Brodox L เป็นสารกันเสียเฉพาะตัว คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า Brodox L มีประสิทธิภาพในช่วงค่า pH ของสูตรสุดท้ายของคุณ (ซึ่งจะค่อนข้างต่ำเนื่องจากน้ำมะกรูด) และความเข้มข้น 0.1% เพียงพอตามคำแนะนำของผู้จำหน่ายสำหรับส่วนประกอบสูตรเฉพาะของคุณและอายุการเก็บรักษาที่ต้องการ ควรตรวจสอบข้อมูลจำเพาะของสารกันเสียเกี่ยวกับช่วง pH ที่มีประสิทธิภาพและระดับการใช้งานที่แนะนำเสมอ

การประเมินโดยรวมสำหรับสูตรที่ 1:

การเลือกใช้สารลดแรงตึงผิวเหมาะสมสำหรับแชมพูที่อ่อนโยนและมีฟองน้อย สารปรับสภาพและสารสกัดช่วยเพิ่มคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ ความท้าทายหลักคือปริมาณน้ำมะกรูดที่สูงมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อค่า pH และความคงตัว และต้องใช้การกันเสียอย่างระมัดระวัง สูตรนี้ดูเป็นไปได้ในแง่ของประเภทส่วนผสมสำหรับแชมพูที่อ่อนโยน แต่ความคงตัวเมื่อเวลาผ่านไปกับปริมาณน้ำผลไม้ธรรมชาติที่สูงขนาดนี้จำเป็นต้องมีการทดสอบอย่างละเอียด

วิธีการผสมสำหรับสูตรที่ 1:

การผสมแชมพูโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการทำให้โพลิเมอร์ไฮเดรต ผสมสารลดแรงตึงผิว เติมส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้ ปรับค่า pH และสุดท้ายเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น สารกันเสียและน้ำหอม/สารสกัด เมื่อพิจารณาจากสูตรของคุณ:

1. เตรียมน้ำมะกรูด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำมะกรูดของคุณสดและกรองแล้ว
2. ทำให้ Polyquaternium-10 ไฮเดรต: กระจาย Polyquaternium-10 ในน้ำปริมาณเล็กน้อย (หรือส่วนหนึ่งของน้ำมะกรูด หากเข้ากันได้และคงตัว) และปล่อยให้ไฮเดรตจนเต็มที่ ซึ่งมักต้องใช้เวลาและอาจต้องใช้ความร้อนอ่อนๆ ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้จำหน่ายในการทำให้ Polyquaternium-10 ไฮเดรต
3. รวมสารลดแรงตึงผิว: ในภาชนะผสมหลักของคุณ ให้รวม Plantacare 1200 UP, Amphitol AB 55 และ Aminon C-02S ผสมเบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟองมากเกินไป
4. เติมน้ำมะกรูดและโพลิเมอร์ที่ไฮเดรตแล้ว: ค่อยๆ เติมน้ำมะกรูดส่วนใหญ่ลงในส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวขณะคนเบาๆ จากนั้นเติมสารละลาย Polyquaternium-10 ที่ไฮเดรตแล้วผสมจนเข้ากัน
5. เติมสารสกัดคาโมมายล์: เติมสารสกัด Anthemis Nobilis และผสม
6. ตรวจสอบและปรับค่า pH: วัดค่า pH ของส่วนผสม น้ำมะกรูดมีความเป็นกรด ดังนั้นค่า pH น่าจะต่ำ แม้ว่าสารลดแรงตึงผิวบางชนิดจะทำงานได้ดีในช่วง pH ที่กำหนด และการตกตะกอนของ Polyquaternium-10 ขึ้นอยู่กับค่า pH แต่ค่า pH ตามธรรมชาติจากน้ำผลไม้อาจเป็นที่ยอมรับได้หรืออาจต้องปรับเล็กน้อยขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้ของส่วนผสมและประสิทธิภาพที่ต้องการ สิ่งสำคัญคือ ต้องแน่ใจว่าสารกันเสียของคุณ (Brodox L) มีประสิทธิภาพที่ค่า pH นี้
7. เติมสารกันเสีย: เติมสารกันเสีย Brodox L และผสมให้เข้ากัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระจายตัวเต็มที่แล้ว
8. ตรวจสอบขั้นสุดท้าย: ตรวจสอบลักษณะและความหนืด ปรับความหนืดหากจำเป็น (มักทำด้วยเกลือหรือโพลิเมอร์ แต่สูตรของคุณค่อนข้างเต็มแล้ว)
9. บรรจุภัณฑ์: บรรจุแชมพู

• ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ:*
• ชั่งส่วนผสมให้ถูกต้องเสมอ
• ผสมเบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำอากาศเข้าไปมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดฟองและปัญหาความคงตัว
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้กับแต่ละส่วนและค่า pH ของสูตร
• ทำการทดสอบความคงตัว (เช่น รอบความร้อน/เย็น) กับผลิตภัณฑ์สุดท้ายของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ยังคงความคงตัวเมื่อเวลาผ่านไป

สูตรที่ 2: รีวิวแชมพู/สบู่เหลวเด็ก

คุณใช้เบสแชมพู น้ำกลั่น และสารกันเสีย คุณต้องการทราบว่าจะใส่น้ำหอมกลิ่นคาโมมายล์ลงไปได้หรือไม่ และควรใส่เท่าใด

ได้ค่ะ คุณสามารถเติมน้ำหอมกลิ่นคาโมมายล์ลงในเบสแชมพู/สบู่เหลวได้อย่างแน่นอน น้ำหอมมักใช้ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อให้กลิ่นหอมที่น่ารื่นรมย์

ปริมาณน้ำหอมที่ควรใส่:

ปริมาณน้ำหอมที่ควรใส่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยเฉพาะที่คุณใช้และความเข้มของกลิ่นที่ต้องการ จุดเริ่มต้นทั่วไปสำหรับน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ที่ต้องล้างออก เช่น แชมพูหรือสบู่เหลว มักจะอยู่ระหว่าง 0.1% ถึง 1% ของสูตรทั้งหมด

• เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ (เช่น 0.2% - 0.5%) ผสมให้เข้ากัน และตรวจสอบกลิ่น
• คุณสามารถค่อยๆ เพิ่มทีละน้อย ผสมให้เข้ากันทุกครั้ง จนกว่าจะได้ระดับกลิ่นที่ต้องการ
• อย่าให้เกินอัตราการใช้งานสูงสุดที่แนะนำโดยผู้จำหน่ายน้ำหอมของคุณ เนื่องจากการใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังหรือส่งผลกระทบต่อความคงตัวของผลิตภัณฑ์ได้

ในการเติมน้ำหอม เพียงแค่ผสมลงในส่วนผสมของเบส น้ำ และสารกันเสีย หลังจากที่ส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดเข้ากันดีแล้ว และอุณหภูมิต่ำกว่าจุดวาบไฟ (flash point) ของน้ำหอม (โดยทั่วไปให้เติมในช่วงท้ายของการผสม)

หวังว่าการรีวิวและคำแนะนำโดยละเอียดนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาสูตรของคุณนะคะ!