รีวิวสูตรแชมพูสุนัขและคำแนะนำส่วนผสม
คำถาม
ต้องการแชมพูสุนัขที่มีคุณสมบัติ ขาว ใส อ่อนโยน ไม่ข้นมาก ปราศจากสารกลุ่ม SLeS ฟองมาก ล้างออกง่าย ให้ความชุ่มชื้นต่อขน และกลิ่นติดทนนาน ซื้อวัตถุดิบมาเพื่อผสมดังต่อไปนี้
สูตรที่ 1
- Coco-Betaine 35%
- Lauryl Glucoside 5%
- Coco Foam 5% (เพิ่มฟอง เคยใช้ BabyFoam แล้วไม่โอเค สูตรออกมาข้นมาก)
- LAMESOFT (บำรุงขน ให้ความชุ่มชื่น) 5%
- Fragrance 3% + FloraFix 3% (ต้องการให้กลิ่นติดทนนาน เนื่องจากสุนัขต้องผ่านการไดร์ขนด้วยความร้อนสูงเป็นเวลานาน)
- Farnesol 0.5% ควบคุมแบคทีเรีย (ยับยั้งการเกิดกลิ่นตัว)
- Tea Tree Oil (ช่วยต้านแบคทีเรีย) 0.5%
- USILVERP 0.3% ฆ่าเชื้อโรค ลดอาการแพ้ระคายเคือง + เป็นสารกันเสีย
สูตรที่ 2
- Sulfate Free Shampoo Base 35%
- Coco Foam 5% (เพิ่มฟอง)
- LAMESOFT (บำรุงขน ให้ความชุ่มชื่น) 5%
- Fragrance 3% + FloraFix 3% (ต้องการให้กลิ่นติดทนนาน เนื่องจากสุนัขต้องผ่านการไดร์ขนด้วยความร้อนสูงเป็นเวลานาน)
- Farnesol 0.5% ควบคุมแบคทีเรีย (ยับยั้งการเกิดกลิ่นตัว) หรือ Argan Oil -Organic Virgin 0.5%
- Tea Tree Oil (ช่วยต้านแบคทีเรีย) 0.5%
- USILVERP 0.3% ฆ่าเชื้อโรค ลดอาการแพ้ระคายเคือง + เป็นสารกันเสีย
สูตรที่ 3
- Gluta-Clean 35%
- Coco Foam 5% (เพิ่มฟอง)
- LAMESOFT (บำรุงขน ให้ความชุ่มชื่น) 5%
- Fragrance 3% + FloraFix 3% (ต้องการให้กลิ่นติดทนนาน เนื่องจากสุนัขต้องผ่านการไดร์ขนด้วยความร้อนสูงเป็นเวลานาน)
- Farnesol 0.5% ควบคุมแบคทีเรีย (ยับยั้งการเกิดกลิ่นตัว) หรือ Argan Oil -Organic Virgin 0.5%
- Tea Tree Oil (ช่วยต้านแบคทีเรีย) 0.5%
- USILVERP 0.3% ฆ่าเชื้อโรค ลดอาการแพ้ระคายเคือง + เป็นสารกันเสีย
รบกวนแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับการผสมแชมพูสุนัข
จากการวิเคราะห์สูตรแชมพูสุนัขที่คุณเสนอมา พร้อมคุณสมบัติที่คุณต้องการคือ ขาว/ใส อ่อนโยน ไม่ข้นเกินไป ปราศจากสารกลุ่ม SLeS ฟองมาก ล้างออกง่าย ให้ความชุ่มชื้นต่อขน และกลิ่นติดทนนาน นี่คือข้อเสนอแนะสำหรับแต่ละสูตร:
สูตรที่ 1
- สารลดแรงตึงผิว: สูตรนี้ใช้ Coco-Betaine, Lauryl Glucoside และ Coco Foam การผสมผสานนี้อ่อนโยนและปราศจากซัลเฟต ซึ่งตรงตามความต้องการของคุณ Coco-Betaine และ Coco Foam ช่วยให้เกิดฟองได้ดี และ Lauryl Glucoside เป็นสารลดแรงตึงผิวร่วมที่อ่อนโยน ความเข้มข้นของ Coco-Betaine ที่ 35% อาจมีส่วนทำให้ความหนืดเพิ่มขึ้น แต่ไม่น่าจะทำให้ข้นมากเกินไปเหมือนที่คุณเคยเจอจาก BabyFoam
- การให้ความชุ่มชื้น: มี LAMESOFT เพื่อช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ขน
- กลิ่น: ใช้ Fragrance และ FloraFix เพื่อกลิ่นและความติดทน FloraFix เป็นสารช่วยตรึงกลิ่นหอมที่ช่วยให้กลิ่นติดทนนานขึ้น การใช้ในปริมาณเท่ากับน้ำหอม (3%) ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคำแนะนำทั่วไป (มักใช้ในอัตราเดียวกับน้ำหอม ซึ่งปกติ 1-5% ในเครื่องสำอาง) แต่คุณสามารถทดลองดูว่าให้ความติดทนที่ต้องการหรือไม่โดยไม่ส่งผลเสียต่อสูตร
- ต้านแบคทีเรีย/ควบคุมกลิ่น: มี Farnesol และ Tea Tree Oil เพื่อคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและควบคุมกลิ่น Farnesol ละลายในน้ำมัน และ Tea Tree Oil ที่คุณมี (Extra Grade) ก็ละลายในน้ำมันเช่นกัน หากต้องการให้สูตรใส คุณจะต้องใช้สารช่วยละลาย (solubilizer) ที่เหมาะสมเพื่อให้สารเหล่านี้กระจายตัวได้ดี การใช้ Tea Tree Oil (Water Soluble) จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหากต้องการความใส
- ฆ่าเชื้อ/สารกันเสีย: คุณใส่ USILVERP ซึ่งคุณระบุว่าช่วยฆ่าเชื้อ ลดการระคายเคือง และเป็นสารกันเสีย หาก USILVERP คือผง Nano Silver จะไม่ละลายและจะทำให้แชมพูขุ่นและมีสีเทา ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการให้ผลิตภัณฑ์ขาวหรือใส นอกจากนี้ แม้ Nano Silver จะมีคุณสมบัติต้านจุลชีพ แต่อาจไม่สามารถป้องกันการเจริญเติบโตของจุลชีพได้ครบถ้วนตามที่จำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์สูตรน้ำ คุณควรใช้ระบบสารกันเสียแบบ broad-spectrum ที่มีประสิทธิภาพแยกต่างหากสำหรับสูตรนี้
สูตรที่ 2
- สารลดแรงตึงผิว: สูตรนี้ใช้ Sulfate Free Shampoo Base และ Coco Foam Sulfate Free Shampoo Base เป็นเบสแชมพูสำเร็จรูปที่ออกแบบมาให้ใส เกิดฟองมาก และปรับความข้นได้ง่ายด้วยเกลือ การเพิ่ม Coco Foam จะช่วยเสริมการเกิดฟอง เบสนี้ปราศจากซัลเฟตและอ่อนโยน
- การให้ความชุ่มชื้น: มี LAMESOFT เพื่อช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ขน
- กลิ่น: ใช้ Fragrance และ FloraFix โดยมีข้อควรพิจารณาเรื่องความเข้มข้นของ FloraFix เช่นเดียวกับสูตรที่ 1
- ต้านแบคทีเรีย/ควบคุมกลิ่น/การให้ความชุ่มชื้น: คุณระบุ Farnesol หรือ Argan Oil Farnesol ใช้สำหรับควบคุมกลิ่น (ต้านแบคทีเรีย) ในขณะที่ Argan Oil เป็นน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ต่างกัน หากต้องการควบคุมกลิ่น ให้ใช้ Farnesol หากต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มเติม ให้ใช้ Argan Oil โปรดทราบว่า Argan Oil เป็นน้ำมันและจะทำให้ขุ่นได้หากไม่ใช้สารช่วยละลายที่เหมาะสม Farnesol ก็ละลายในน้ำมันและต้องการสารช่วยละลายเช่นกันเพื่อให้สูตรใส
- ต้านแบคทีเรีย: มี Tea Tree Oil พิจารณาใช้ชนิด Water Soluble เพื่อความใส
- ฆ่าเชื้อ/สารกันเสีย: มี USILVERP หากเป็น Nano Silver จะทำให้ผลิตภัณฑ์ขุ่น/มีสีเทาตามที่กล่าวไว้ในสูตรที่ 1 Sulfate Free Shampoo Base มีสารกันเสียอยู่แล้ว การเพิ่ม USILVERP อาจไม่จำเป็นสำหรับการกันเสียและจะส่งผลต่อความใส/สี
สูตรที่ 3
- สารลดแรงตึงผิว: สูตรนี้ใช้ Gluta-Clean และ Coco Foam Gluta-Clean เป็นสารลดแรงตึงผิวประจุลบที่อ่อนโยน ปราศจากซัลเฟต ให้ฟองได้ดี และสามารถทำให้สูตรใสได้ Coco Foam ช่วยเสริมการเกิดฟอง การผสมผสานนี้ควรจะอ่อนโยนและให้ฟองได้ดี Gluta-Clean มีค่า pH เป็นด่าง จึงจำเป็นต้องปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (ปกติ 5-6 สำหรับแชมพูสัตว์เลี้ยง) โดยใช้กรด เช่น Citric Acid หรือ Lactic Acid
- การให้ความชุ่มชื้น: มี LAMESOFT เพื่อช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ขน
- กลิ่น: ใช้ Fragrance และ FloraFix โดยมีข้อควรพิจารณาเรื่องความเข้มข้นของ FloraFix
- ต้านแบคทีเรีย/ควบคุมกลิ่น/การให้ความชุ่มชื้น: คล้ายกับสูตรที่ 2 คุณระบุ Farnesol หรือ Argan Oil เลือกตามความต้องการว่าเน้นควบคุมกลิ่นหรือความชุ่มชื้นเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงการละลายของแต่ละส่วนผสมหากต้องการความใส
- ต้านแบคทีเรีย: มี Tea Tree Oil พิจารณาใช้ชนิด Water Soluble เพื่อความใส
- ฆ่าเชื้อ/สารกันเสีย: มี USILVERP หากเป็น Nano Silver จะทำให้ขุ่น/มีสีเทา สูตรนี้แตกต่างจากสูตรที่ 2 คือไม่มีสารกันเสียในเบสสารลดแรงตึงผิวหลัก คุณจะต้องใช้ระบบสารกันเสียแบบ broad-spectrum ที่มีประสิทธิภาพแยกต่างหาก นอกเหนือจากหรือแทน USILVERP เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลชีพ
คำแนะนำทั่วไป:
- ความใสและสี: หากต้องการแชมพูสีขาวหรือใส คุณควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่เป็นผงไม่ละลายน้ำ (เช่น Nano Silver หาก USILVERP คือตัวนี้) หรือน้ำมัน (เช่น Argan Oil หรือ Tea Tree Oil ชนิดละลายในน้ำมัน) เว้นแต่จะใช้สารช่วยละลายที่มีประสิทธิภาพในอัตราส่วนที่ถูกต้อง Tea Tree Oil (Water Soluble) เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับสูตรน้ำที่ต้องการความใส แม้ว่าตัวมันเองจะมีสีเหลืองอ่อนและอาจกึ่งขุ่นได้ที่ความเข้มข้นสูง
- ความหนืด: ความข้นของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นรวมของสารลดแรงตึงผิว และชนิดและปริมาณของสารเพิ่มความข้นที่ใช้ สำหรับสูตรที่ 1 และ 3 คุณจะต้องเพิ่มสารเพิ่มความข้น ตัวเลือกที่ระบุในคำอธิบายส่วนผสมที่ช่วยให้สูตรใสได้แก่ SugarThick หรือ Xanthan Gum สูตรที่ 2 ที่ใช้ Sulfate Free Shampoo Base ออกแบบมาให้ปรับความข้นได้ง่ายด้วยเกลือ
- การปรับค่า pH: สูตรที่ 1 (ใช้ Lauryl Glucoside) และ 3 (ใช้ Gluta-Clean) จะต้องปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (ปกติ 5-6 สำหรับแชมพูสัตว์เลี้ยง) โดยใช้กรด เช่น Citric Acid หรือ Lactic Acid Sulfate Free Shampoo Base (สูตรที่ 2) มีค่า pH ค่อนข้างเป็นกลาง แต่อาจต้องปรับเล็กน้อยขึ้นอยู่กับค่า pH สุดท้ายของสูตร
- การกันเสีย: ระบบสารกันเสียที่แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์สูตรน้ำเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากจุลชีพ สูตรที่ 2 มีสารกันเสียอยู่แล้ว แต่สูตรที่ 1 และ 3 จะต้องเพิ่มระบบสารกันเสียแบบ broad-spectrum USILVERP (หากเป็น Nano Silver) อาจมีฤทธิ์ต้านจุลชีพบ้าง แต่ไม่น่าจะให้การกันเสียที่สมบูรณ์ด้วยตัวเอง
- การระบุส่วนผสม: ยืนยันลักษณะที่แน่นอนของ "LAMESOFT" และ "USILVERP" (ชื่อ INCI) เพื่อทำความเข้าใจคุณสมบัติและความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ และผลลัพธ์ที่คุณต้องการอย่างครบถ้วน
ตามเป้าหมายของคุณ สูตรที่ 2 ที่ใช้ Sulfate Free Shampoo Base อาจเป็นสูตรที่ง่ายที่สุดในการพัฒนาเพื่อให้ได้ความใสและความหนืดที่ต้องการ โดยต้องงดใช้ USILVERP (หากเป็น Nano Silver) และใช้สารช่วยละลายที่เหมาะสมหรือละเว้น Argan Oil หากใช้ สูตรที่ 3 ที่ใช้ Gluta-Clean ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับแชมพูที่อ่อนโยน ปราศจากซัลเฟต ฟองมาก และอาจใสได้ แต่ต้องมีการปรับค่า pH และเพิ่มสารกันเสียแยกต่างหาก
พิจารณาทดลองทำในปริมาณน้อยสำหรับแต่ละสูตร ปรับความเข้มข้นของสารเพิ่มความข้น น้ำหอม/สารตรึงกลิ่น และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการละลาย/การกันเสียที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ความข้น ความใส และประสิทธิภาพตามที่ต้องการ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Argan Oil (Organic - Virgin - Deodorized)

Cocamidopropyl Betaine

Lauryl Glucoside

Tea Tree Oil (Extra Grade)

Tea Tree Oil (Water Soluble)

Nano Silver 20nm Powder

Coco-Foam-50™ (Cocamidopropyl Hydroxysultaine)

Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming)

Gluta-Clean™ (Disodium Cocoyl Glutamate)

Farnesol
