รีวิวสูตรโลชั่นบำรุงผิวขาว แก้ผิวแห้ง เนื้อบางเบา พร้อมวิธีผสม
คำถาม
ฉันมีสูตรโลชั่น (รายละเอียดตามที่ให้ไว้ใน Q&A) ที่ต้องการให้ผิวขาวขึ้นและแก้ปัญหาผิวแห้ง โดยต้องการเนื้อสัมผัสที่ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ สูตรนี้จะตอบโจทย์ที่ต้องการได้หรือไม่? ควรปรับลดหรือเพิ่มส่วนผสมใดอีกไหม และมีขั้นตอนการผสมอย่างไรบ้าง?
คำตอบ
การประเมินสูตรโลชั่นและคำแนะนำวิธีการผสม
สูตรโลชั่นที่คุณให้มาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากในการทำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทั้งเรื่องผิวกระจ่างใสและแก้ปัญหาผิวแห้ง พร้อมทั้งให้เนื้อสัมผัสที่บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ สูตรนี้มีส่วนผสมหลักที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์ตามที่คุณต้องการค่ะ
การประเมินสูตร
- ผิวกระจ่างใส: สูตรมี Vitamin B3 (Niacinamide) ในความเข้มข้นที่ดี (5%) ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดรอยดำรอยแดง และเสริมเกราะป้องกันผิว นอกจากนี้ สารสกัดกระเจี๊ยบแดง ยังมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้
- ผิวแห้ง: ส่วนผสมอย่าง Allantoin, Glycerin, Jojoba Oil, และ สารสกัดว่างหางจระเข้ เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม ช่วยปลอบประโลมผิวแห้งและลดการระคายเคือง
- เนื้อสัมผัส: การใช้ Aristroflex AVC และ Cyclopentasiloxane จะช่วยให้เนื้อโลชั่นเกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว และลดความรู้สึกเหนอะหนะ Soft Cream Maker™ ทำหน้าที่เป็นสารประสานเนื้อหลัก (Emulsifier) ช่วยสร้างโครงสร้างเนื้อครีม
โดยรวมแล้ว สูตรนี้ควรจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี การผสมผสานระหว่างสารให้ความชุ่มชื้น/สารสกัด และสารปรับเนื้อสัมผัสมีความสมดุลที่ดีค่ะ
ข้อแนะนำในการปรับปรุง (ถ้าต้องการ)
หากคุณรู้สึกว่าเนื้อโลชั่นที่ได้ยังไม่บางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะเท่าที่ต้องการ อาจพิจารณา ลดปริมาณ Jojoba Oil ลงเล็กน้อย (เช่น จาก 10% เหลือ 5-7%) หรืออาจแทนที่ Jojoba Oil บางส่วนด้วย Emollient ชนิดอื่นที่ให้ความรู้สึกบางเบากว่า อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลองทำตามสูตรเดิมก่อน เพราะ Cyclopentasiloxane และ Aristroflex AVC อาจช่วยให้เนื้อสัมผัสเบาพอดีกับที่คุณต้องการแล้วค่ะ
วิธีผสมตามขั้นตอน
นี่คือขั้นตอนการผสมโลชั่นสูตรนี้ โดยอิงจากคุณสมบัติของส่วนผสมต่างๆ ค่ะ:
- เฟส A (Water Phase): ชั่ง DI Water, Allantoin, Glycerin, Disodium EDTA และ Vitamin B3 ลงในภาชนะที่ทนความร้อน นำไปให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 70-75°C พร้อมคนหรือกวนจนส่วนผสมที่เป็นของแข็งละลายเข้ากันดี
- เฟส C (Oil Phase): ในภาชนะที่ทนความร้อนอีกใบ ชั่ง Jojoba Oil, Cyclopentasiloxane และ Soft Cream Maker™ นำไปให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 70-75°C เช่นกัน คนหรือกวนจน Soft Cream Maker™ ละลายหมดและส่วนน้ำมันเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- การรวมเฟส (Emulsification): ค่อยๆ เทส่วนผสมเฟส C ที่ร้อน ลงในส่วนผสมเฟส A ที่ร้อน พร้อมกับใช้เครื่อง Homogenizer หรือเครื่องผสมความเร็วสูง (High Shear Mixer) ปั่นผสมอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้เกิด Emulsion ที่เนียนและมีความเสถียร
- เติมสารสร้างเนื้อ: ขณะที่ยังคงปั่นผสม Emulsion อยู่ (สามารถลดความเร็วลงได้) ค่อยๆ เติม Aristroflex AVC (เฟส B) ลงไปในเนื้อครีม ปั่นผสมต่อไปจน Aristroflex AVC กระจายตัวจนหมดและเนื้อโลชั่นเริ่มข้นขึ้นตามต้องการ
- การทำให้เย็น: หยุดให้ความร้อน และคนหรือปั่นผสมต่อไปเรื่อยๆ อย่างนุ่มนวล ขณะที่ Emulsion ค่อยๆ เย็นตัวลง
- เฟส D (Cool Down Phase): เมื่ออุณหภูมิของ Emulsion ลดลงต่ำกว่า 40°C (อยู่ในช่วงอุ่นๆ) จึงใส่ สารสกัดว่างหางจระเข้, สารสกัดกระเจี๊ยบแดง, สารสกัดวิชฮาเซล และ Phenoxyethanol (Extra Pure) ลงไป คนหรือปั่นผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
- ปรับค่า pH: วัดค่า pH ของโลชั่น ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 5.0-6.0 หากค่า pH สูงหรือต่ำเกินไป สามารถปรับได้โดยใช้ Citric Acid (ละลายน้ำเล็กน้อย) เพื่อลด pH หรือ Triethanolamine (TEA) เพื่อเพิ่ม pH โดยค่อยๆ เติมทีละน้อยและวัดค่า pH หลังเติมทุกครั้ง
- การบรรจุ: เมื่อโลชั่นเย็นสนิทและปรับค่า pH เรียบร้อยแล้ว สามารถบรรจุลงในภาชนะที่เตรียมไว้ได้ค่ะ
สูตรนี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและน่าจะช่วยให้คุณได้ผลิตภัณฑ์ตามที่ต้องการค่ะ ขอให้สนุกกับการทำโลชั่นนะคะ!
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Jojoba Oil (Golden - Deodorized)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Soft Cream Maker™

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
