รีวิวและข้อเสนอแนะสำหรับสูตรครีมระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ DIY

ถามโดย: parnpool เมื่อ: September 09, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

เป็นคนอ้วน มีกลิ่นตัวแรง ตัวมีกลิ่นเหม่นเปรี้ยวด้วย อยากทำครีมระงับกลิ่นตัวที่ทำจากธรรมชาติให้มากที่สุด อยากได้ระงับกลิ่นตัว ผิวขาวขึ้น ลดหนังไก่ด้วย ไม่เหนอะหนะ ซึมเข้าผิวง่าย สูตรที่คิดมาเป็นไปได้มั้ยค่ะ รบกวนทางทีมงานช่วยแนะนำว่าเหมาะสมหรือเปล่า หรือจะต้องลดหรือเพิ่มอะไรบ้าง และขั้นตอนการผสมด้วยนะค่ะ

สูตรที่คิดไว้:

  • Manggosteen extrack = 18%
  • Rhamnose = 3%
  • Lemon peel bioferment = 2%
  • Willow Bark extrack = 5%
  • Calendula extrack = 3%
  • Safe-B3 = 3%
  • Gluco Bright = 4%
  • Double Hyaluron Liquid = 2%
  • LipidSoft Deo = 3%
  • Soy Lecithin = 5%
  • Thyme Care = 0.8%
  • Water ส่วนที่เหลือ

สารทุกตัวเข้ากันได้มั้ย. ถ้าจะไม่ใส่ สารกันเสีย จะมีตัวไหนใช้แทนได้หรือเปล่า

ขอบคุณคะ

คำตอบ

สูตรครีมระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติที่คุณเสนอมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ มีส่วนผสมจากธรรมชาติหลายชนิดที่น่าสนใจและมีคุณสมบัติช่วยเรื่องระงับกลิ่นกาย ผิวขาว และลดปัญหาหนังไก่ได้

การวิเคราะห์สูตรและข้อเสนอแนะ

สูตรของคุณประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อผิว:

  • ระงับกลิ่นกาย: คุณใช้ Rhamnose และ LipidSoft Deo ซึ่งทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นกายโดยการยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ ปริมาณที่คุณใช้ (Rhamnose 3%, LipidSoft Deo 3%) อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (Rhamnose 1-5%, LipidSoft Deo 1-5%) ซึ่งน่าจะช่วยเรื่องกลิ่นได้ดีค่ะ ส่วน "Manggosteen extrack" 18% ที่ระบุมานั้น ไม่พบข้อมูลสารสกัดมังคุดในฐานข้อมูลของเรา แต่หากคุณหมายถึงบัตเตอร์ เช่น Mango Butter (ซึ่งพบในการค้นหา) ปริมาณ 18% จะมีผลต่อเนื้อสัมผัสอย่างมาก ทำให้เนื้อครีมหนักขึ้น หากคุณกำลังมองหาสารระงับกลิ่นจากธรรมชาติอื่นๆ อาจพิจารณาใช้ SugarClean (สารสกัดจากอ้อยช่วยลดกลิ่น) เป็นอีกทางเลือกได้ค่ะ
  • ผิวขาว: Safe-B3 (วิตามินบี 3) 3% และ Gluco Bright (Acetyl Glucosamine) 4% เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการปรับสีผิวให้กระจ่างใสและลดจุดด่างดำ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกัน ปริมาณเหล่านี้อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (Safe-B3 1-10%, Gluco Bright 1-8%) นอกจากนี้ Lemon Peel Bioferment 2% ก็เป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับคุณสมบัติในการยับยั้ง Tyrosinase (ทำให้ผิวขาว) และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ปริมาณ 2% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (0.5-5%) ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเรื่องผิวขาวได้ดีค่ะ
  • ลดปัญหาหนังไก่: Willow Bark Extract 5% มี Salicylic Acid จากธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงสภาพผิวและลดลักษณะของ "หนังไก่" ได้ ปริมาณ 5% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (1-10%) Gluco Bright ยังมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วยค่ะ
  • ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว: Double Hyaluron Liquid 2% ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ซึ่งเป็นประโยชน์ ปริมาณ 2% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (1-20%) Calendula Extract 3% มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว ซึ่งช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ ปริมาณ 3% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (1-5%) ค่ะ
  • สารประสานเนื้อครีม (Emulsifier): คุณใช้ Soy Lecithin 5% Soy Lecithin เป็นสารประสานเนื้อครีมจากธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับสูตรประเภท Water-in-Oil (W/O) ปริมาณ 5% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (3-10%) อย่างไรก็ตาม ครีมประเภท W/O มักจะให้ความรู้สึกหนักและซึมยากกว่าครีมประเภท Oil-in-Water (O/W) หากเป้าหมายของคุณคือครีมที่ไม่เหนอะหนะและซึมง่ายจริงๆ อาจต้องปรับส่วนของน้ำมัน (เช่น ใช้น้ำมันที่เบาลงแทนหรือร่วมกับบัตเตอร์) และพิจารณาใช้สารประสานเนื้อครีมประเภท Oil-in-Water (O/W) ซึ่งอาจใช้ร่วมกับ W/O co-emulsifier เพื่อความคงตัว สารประสานเนื้อครีม O/W จากธรรมชาติ เช่น Olivem 1000 หรือ Sucrose Cream Maker สามารถช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบาขึ้นได้ค่ะ
  • สารกันเสีย: คุณใช้ Thyme Care 0.8% ซึ่งเป็นสารกันเสียจากธรรมชาติและอยู่ในเกณฑ์แนะนำ (0.8%) โปรดทราบว่า Thyme Care มีกลิ่นไทม์ตามธรรมชาติที่ค่อนข้างชัดเจน หากคุณต้องการสารกันเสียจากธรรมชาติที่มีกลิ่นน้อยกว่า อาจพิจารณาใช้ Mild Preserved Eco (1.0-1.5%, ไม่มีกลิ่น, ใช้ได้ใน pH กว้าง) หรือ PaeoniaPreserve (2% หากใช้เดี่ยว, มีกลิ่นอ่อนๆ) NaturePreserve LB2 (0.5-1.0%) ก็เป็นอีกทางเลือกจากธรรมชาติที่ได้ผลดีใน pH ต่ำค่ะ

ความเข้ากันได้และความเหมาะสม:

  • ความเข้ากันได้ของส่วนผสม: สารออกฤทธิ์ส่วนใหญ่ที่ละลายน้ำได้ (Safe-B3, Gluco Bright, Lemon Peel Bioferment, Double Hyaluron Liquid, Rhamnose, Calendula Extract, Willow Bark Extract) สามารถเข้ากันได้ดีในช่วง pH ประมาณ 4.0 ถึง 6.5 ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับประสิทธิภาพและความคงตัวของสารเหล่านี้ค่ะ
  • เนื้อสัมผัส: การใช้บัตเตอร์ปริมาณสูง (หากหมายถึง Mango Butter 18%) ร่วมกับ Soy Lecithin 5% (สารประสานเนื้อครีม W/O) มีแนวโน้มจะทำให้เนื้อครีมค่อนข้างหนักและอาจเหนอะหนะ หากเป้าหมายของคุณคือครีมที่ไม่เหนอะหนะและซึมง่ายจริงๆ อาจต้องปรับส่วนของน้ำมัน (เช่น ใช้น้ำมันที่เบาลง) และพิจารณาใช้สารประสานเนื้อครีมประเภท O/W เช่น Olivem 1000 หรือ Sucrose Cream Maker เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบาขึ้น
  • Manggosteen extrack: การยืนยันว่าเป็นสารชนิดใดแน่เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะปริมาณ 18% ซึ่งสูงมากสำหรับสารสกัดทั่วไป และอาจทำให้สูตรไม่คงตัวได้ค่ะ

ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง:

  1. ยืนยัน "Manggosteen extrack": โปรดยืนยันว่าเป็นสารชนิดใด หากเป็นบัตเตอร์ ให้คำนึงถึงผลต่อเนื้อสัมผัส หากต้องการเน้นเรื่องระงับกลิ่นกาย ให้พิจารณาว่า Rhamnose และ LipidSoft Deo เพียงพอหรือไม่ หรือต้องการเพิ่มสารระงับกลิ่นจากธรรมชาติอื่นๆ เช่น SugarClean
  2. ปรับสารประสานเนื้อครีมและส่วนของน้ำมันเพื่อเนื้อสัมผัส: หากต้องการเนื้อครีมที่ไม่เหนอะหนะและซึมง่าย ควรพิจารณาเปลี่ยนหรือใช้ Soy Lecithin ร่วมกับสารประสานเนื้อครีมประเภท O/W เช่น Olivem 1000 หรือ Sucrose Cream Maker และอาจปรับส่วนของน้ำมันให้เบาลง
  3. พิจารณาสารกันเสียทางเลือก: หากไม่ชอบกลิ่นตามธรรมชาติของ Thyme Care สามารถเปลี่ยนไปใช้ Mild Preserved Eco (1.0-1.5%) หรือ PaeoniaPreserve (2%) ได้

ขั้นตอนการผสม (วิธีทำครีมทั่วไป):

นี่เป็นแนวทางทั่วไป สารแต่ละชนิดอาจมีข้อกำหนดเฉพาะ โปรดอ้างอิงคำแนะนำจากผู้จำหน่ายสำหรับสารแต่ละตัวเสมอค่ะ

  1. เตรียมส่วนน้ำ: ทำน้ำให้ร้อนประมาณ 70-75°C เติมส่วนผสมที่ละลายน้ำและทนความร้อนได้ (เช่น Rhamnose, Safe-B3, Gluco Bright, Double Hyaluron Liquid) คนให้ละลาย
  2. เตรียมส่วนน้ำมัน: ในภาชนะแยกต่างหาก ผสมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (เช่น LipidSoft Deo, Mango Butter หากใช้, และสารประสานเนื้อครีมที่คุณเลือกใช้) ทำส่วนนี้ให้ร้อนอุณหภูมิเท่ากับส่วนน้ำ (ประมาณ 70-75°C) คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว
  3. รวมส่วนผสม (Emulsification): ค่อยๆ เทส่วนน้ำมันที่ร้อนลงในส่วนน้ำที่ร้อน พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง หากมีเครื่อง Homogenizer หรือเครื่องผสมความเร็วสูง ให้ใช้เพื่อช่วยให้เนื้อครีมเนียนขึ้น คนต่อไปจนเนื้อครีมเริ่มก่อตัวและเย็นลง
  4. เติมสารที่ไม่ทนความร้อน: เมื่อเนื้อครีมเย็นลงต่ำกว่า 40°C จึงเติมส่วนผสมที่ไม่ทนความร้อน เช่น Lemon Peel Bioferment, Willow Bark Extract, Calendula Extract และสารกันเสีย (Thyme Care หรือสารกันเสียทางเลือก)
  5. ปรับค่า pH และส่วนอื่นๆ: ตรวจสอบค่า pH ของครีมที่ได้ และปรับให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (4.0-6.5) เติมน้ำส่วนที่เหลือให้ครบ 100% คนให้เข้ากัน

การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่คงตัวและมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการทดลองและทดสอบอย่างรอบคอบ รวมถึงการทำ Challenge Test เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพเพียงพอค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Calendula Extract (Water Soluble)
Calendula Extract (Water Soluble)
เครื่องสำอาง
Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™)
Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™)
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส)
Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส)
เครื่องสำอาง
Mango Butter (Deodorized)
Mango Butter (Deodorized)
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Deo (Triethyl Citrate, TEC)
LipidSoft™ Deo (Triethyl Citrate, TEC)
เครื่องสำอาง
Willow Bark Extract (Natural Salicylic Acid)
Willow Bark Extract (Natural Salicylic Acid)
เครื่องสำอาง
Olivem 1000 (Cetearyl Olivate, Sorbitan Olivate)
Olivem 1000 (Cetearyl Olivate, Sorbitan Olivate)
เครื่องสำอาง
Soy Lecithin (Soy Bean Oil, Liquid Lecithin)
Soy Lecithin (Soy Bean Oil, Liquid Lecithin)
เครื่องสำอาง
SugarClean™ (Sugarcane Extract Deodorizer)
SugarClean™ (Sugarcane Extract Deodorizer)
เครื่องสำอาง
Sucrose Cream Maker™ (e.q. Emulgade Sucro Plus)
Sucrose Cream Maker™ (e.q. Emulgade Sucro Plus)
เครื่องสำอาง
NaturePreserve™ LB2
NaturePreserve™ LB2
เครื่องสำอาง