รีวิวและข้อเสนอแนะสำหรับสูตรอายครีม
คำถาม
ฉันได้พัฒนาสูตรอายครีมโดยมีเป้าหมายเพื่อลดริ้วรอย รอยคล้ำใต้ตา และให้ความชุ่มชื้น สูตรประกอบด้วย:
- Matrixyl 3000 (5%)
- Apple Stem Cell (5%)
- Regu-Age (5%)
- Apricot Kernel Oil (15%)
- Sweet Almond Oil (15%)
โดยมีส่วนของน้ำมันรวม 30% ฉันกำลังพิจารณาใช้อิมัลซิไฟเออร์ระหว่าง Satin Cream Maker หรือ Light Cream Maker
อยากขอให้ช่วยให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรนี้ในประเด็นต่างๆ ดังนี้ค่ะ:
- ความเหมาะสมและประสิทธิภาพของส่วนผสมและสัดส่วนที่เลือกใช้สำหรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ (ลดริ้วรอย รอยคล้ำใต้ตา และให้ความชุ่มชื้น)
- ความเหมาะสมระหว่าง Satin Cream Maker กับ Light Cream Maker โดยพิจารณาจากส่วนน้ำมัน 30%
- ข้อเสนอแนะสำหรับส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น Vitamin E Acetate
- คำแนะนำเกี่ยวกับขนาดการผสมหรืออายุการเก็บรักษาที่เหมาะสมสำหรับอายครีมที่ทำใช้เอง เพื่อคงประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์
คำตอบ
ข้อเสนอแนะสำหรับสูตรอายครีม
จากสูตรอายครีมที่คุณปรับปรุงและเป้าหมายของคุณ (ลดริ้วรอย รอยคล้ำใต้ตา และให้ความชุ่มชื้น) มีข้อเสนอแนะดังนี้ค่ะ
ความแตกต่างของเนื้อครีม: Satin Cream Maker กับ Light Cream Maker
- Satin Cream Maker: อิมัลซิไฟเออร์ตัวนี้จะให้เนื้อครีมสีขาวมุก เนียนนุ่ม คุณสมบัติเด่นคือช่วยดูดซับฟองอากาศในเนื้อสูตร ทำให้ได้เนื้อที่เนียนโดยไม่ต้องใช้เครื่องดูดอากาศ (vacuum) สามารถรองรับน้ำมันได้ถึง 25%
- Light Cream Maker: อิมัลซิไฟเออร์ตัวนี้จะให้เนื้อครีมที่บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน และรองรับน้ำมันได้ถึง 20%
ในสูตรของคุณ ทั้งสองตัวน่าจะใช้ได้ เนื่องจากส่วนของน้ำมันรวม 30% ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่แนะนำสำหรับ Light Cream Maker เล็กน้อย แต่อยู่ในขอบเขตที่ Satin Cream Maker รองรับได้ อย่างไรก็ตาม Satin Cream Maker เหมาะกับสูตรที่มีปริมาณน้ำมันสูงกว่า (ระบุว่าถึง 25% แต่อาจรองรับได้มากกว่าเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันและส่วนผสมอื่นๆ) และให้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม สีขาวมุก ส่วน Light Cream Maker เหมาะสำหรับครีมที่ต้องการความบางเบา ซึมง่าย
การพิจารณาสูตรและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
สูตรที่คุณปรับปรุงมามีส่วนผสมหลักที่ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพ:
- Matrixyl 3000 (5%): เปปไทด์ตัวนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้ผิว อัตราส่วนที่คุณใช้ (5%) อยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำ (3-5%)
- Apple Stem Cell (5%): ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวและลดเลือนริ้วรอย อัตราส่วนที่คุณใช้ (5%) ก็อยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำ (0.5-5%)
- Regu-Age (5%): ออกแบบมาเพื่อลดรอยคล้ำและอาการบวมใต้ตาโดยเฉพาะ รวมถึงช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวรอบดวงตาที่บอบบาง อัตราส่วนที่คุณใช้ (5%) เป็นระดับสูงสุดที่แนะนำ (2-5%) ซึ่งน่าจะให้ผลดีในการลดรอยคล้ำ
ส่วนของน้ำมัน (Apricot Kernel Oil 15%, Sweet Almond Oil 15%) รวม 30% จะช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อคิดเห็นไว้ หากคุณต้องการเนื้อที่รู้สึกมันน้อยลง อาจพิจารณาลดสัดส่วนน้ำมันลงเล็กน้อยและเพิ่มส่วนของน้ำแทน หรือเลือกใช้น้ำมันที่บางเบาขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับผิวแห้งหรือต้องการความชุ่มชื้นสูงบริเวณรอบดวงตา ปริมาณน้ำมัน 30% ก็สามารถให้ประโยชน์ได้
ข้อเสนอแนะ: การเพิ่ม Vitamin E Acetate (Tocopheryl Acetate) ในอัตรา 0.5-1% ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เป็นความคิดที่ดีค่ะ วิตามินอีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และเสริมประสิทธิภาพการลดเลือนริ้วรอยของส่วนผสมอื่นๆ ควรผสมวิตามินอีในส่วนของน้ำมัน
โดยรวมแล้ว สูตรของคุณมีการเลือกส่วนผสมที่เหมาะสมในการดูแลปัญหาริ้วรอย รอยคล้ำ และความชุ่มชื้นรอบดวงตา ความเข้มข้นของสารสำคัญก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมค่ะ
ขนาดการผสม
สำหรับการทำเครื่องสำอางใช้เอง โดยเฉพาะสูตรที่มีสารออกฤทธิ์ (active ingredients) เช่น เปปไทด์และสารสกัดต่างๆ แนะนำให้ผสมในปริมาณน้อยๆ ที่สามารถใช้หมดได้ในระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้มั่นใจว่าสารออกฤทธิ์ยังคงสดใหม่และมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากสารเหล่านี้อาจเสื่อมสภาพได้เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะหากเก็บรักษาไม่เหมาะสม การผสมในปริมาณที่ใช้หมดภายใน 1 ถึง 3 เดือน เป็นแนวทางที่ดีค่ะ การเก็บรักษาในที่เย็น มืด และภาชนะที่ปิดสนิท ก็มีความสำคัญเช่นกันในการรักษาคุณภาพของอายครีมของคุณ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Apricot Kernel Oil (Refined)

NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)

Light Cream Maker™

REGU®-AGE

Satin Cream Maker™
