รีวิวและปรับปรุงสูตรเจลทำเอง
คำถาม
พอดีว่าจะลองสั่งผลิตเจลมาใช้เองก่อน ไม่แน่ใจว่าสูตรดังกล่าวจะต้องปรับตัวไหนบ้างครับ และถ้าต้องปรับควรปรับส่วนไหน แนะนำได้เต็มที่ครับพอดีว่าไม่เคยคิดสูตรมาก่อน ลองศึกษาจาก Web MySkinRecipes นี่แหละครับ
สูตรมีดังนี้ครับ:
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™
- 3%- กลิ่น Hydro Skin (compare to IOPE) - 1%
Trans-Resveratrol
(Powder, 98%) - 2%Ethoxydiglycol
- 1%Licorice Extract (Glabridin 90%)
- 0.05%- เนื้อเจล
Pro Polymer™ (Gel Maker)
- 2% nano silver
Pure™ - 1%Acetyl Hexapeptide-8
(Argireline
) - 3%SPF Protect Ultra™
II - 4.5%Butylene Glycol
- 1%น้ำกลั่น
ปราศจากเชื้อ - 79.35%Brilliant Blue
(CI42090
) (Water-Soluble) - 1%Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract)
- 1%Disodium EDTA
- 0.1% (กลัวสารกันเสียไม่พอ)
ขอคำแนะนำว่าต้องปรับส่วนไหนบ้างครับ
คำตอบ
สวัสดีครับ ชื่นชมความตั้งใจในการลองคิดค้นสูตรเจลบำรุงผิวด้วยตัวเองจากข้อมูลในเว็บไซต์ MySkinRecipes นะครับ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากเลยครับ
จากสูตรที่ให้มา มีหลายจุดที่อยากแนะนำให้พิจารณาปรับปรุงเพื่อให้ได้เจลที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นครับ
ประเด็นสำคัญที่ควรปรับปรุง:
การขาดสารกันเสีย (Preservative):
- นี่คือจุดที่สำคัญที่สุดในสูตรนี้ครับ Disodium EDTA (รายการที่ 14) ที่ใส่มาในปริมาณ 0.1% นั้น ไม่ใช่สารกันเสีย ครับ แต่เป็นสารจับประจุ (Chelating Agent) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตรโดยรวมและช่วยเสริมประสิทธิภาพของสารกันเสีย (ถ้ามี)
- การที่สูตรไม่มีสารกันเสียที่เหมาะสม จะทำให้เจลมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์) ได้ง่ายมาก ซึ่งนอกจากจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพเร็วแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อผิวเมื่อนำไปไปใช้ครับ
- คำแนะนำ: จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่ม สารกันเสีย (Preservative) แบบ Broad-spectrum ที่เหมาะกับสูตรเจลและเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร ปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของสารกันเสียที่เลือกใช้ครับ
ปริมาณสารสร้างเนื้อเจล (Gel Maker):
- Pro Polymer™ (Gel Maker) (รายการที่ 6) ใส่มาในปริมาณ 2% ซึ่งค่อนข้างสูงมากครับ สำหรับสารสร้างเนื้อเจลประเภทนี้ โดยทั่วไปมักใช้ในปริมาณที่น้อยกว่านี้มาก (เช่น 0.5% - 1% หรือน้อยกว่านั้น)
- ผลที่อาจเกิดขึ้น: การใช้ในปริมาณสูงถึง 2% อาจทำให้เนื้อเจลมีความข้น หนืด หรือเป็นวุ้นมากเกินไป จนอาจใช้งานยากหรือไม่น่าใช้ครับ
- คำแนะนำ: แนะนำให้ลดปริมาณ Pro Polymer™ ลงอย่างมาก อาจเริ่มต้นที่ 0.5% หรือ 0.8% แล้วค่อยๆ ปรับเพิ่มหรือลดจนได้เนื้อเจลที่ต้องการครับ
ปริมาณสี (Colorant):
- Brilliant Blue (CI42090) (รายการที่ 12) ใส่มาในปริมาณ 1% ซึ่ง เยอะมากเกินไปอย่างยิ่ง สำหรับการใช้เป็นสีในเครื่องสำอางครับ โดยทั่วไปสีประเภทนี้จะใช้ในปริมาณที่น้อยมากๆ เช่น 0.001% - 0.01% เท่านั้น
- ผลที่อาจเกิดขึ้น: ปริมาณ 1% จะทำให้เจลมีสีฟ้าที่เข้มจัดมากจนเกินไป และมีโอกาสสูงที่จะทำให้ผิวหรือเสื้อผ้าติดสีได้ครับ
- คำแนะนำ: ลดปริมาณ Brilliant Blue ลงอย่างมหาศาล หรืออาจจะไม่ใส่เลยหากสีไม่มีความจำเป็นต่อคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ครับ
ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์บางชนิด:
- Trans-Resveratrol (รายการที่ 3) 2% (98% Powder) และ nano silver Pure™ (รายการที่ 7) 1% ควรตรวจสอบอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับวัตถุดิบเกรดนี้อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ บางครั้งการใช้ในปริมาณที่สูงเกินไปอาจไม่ได้ให้ผลดีขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือปัญหาอื่นๆ ได้
- SPF Protect Ultra™ II (รายการที่ 9) 4.5%: หากต้องการให้เจลนี้มีคุณสมบัติกันแดดหลัก ปริมาณ 4.5% อาจให้ค่า SPF ที่ไม่สูงนัก ขึ้นอยู่กับชนิดของสารกันแดดในเบสนี้ หากต้องการ SPF ที่สูงขึ้น อาจต้องเพิ่มปริมาณหรือพิจารณาสารกันแดดตัวอื่นครับ
ความคงตัวของสูตร (Stability):
- สารออกฤทธิ์หลายตัวในสูตร เช่น Resveratrol และ Licorice Extract ค่อนข้างไวต่อแสงและอากาศ ทำให้มีโอกาสเสื่อมสภาพได้ง่าย
- สูตรนี้ยังไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยรักษาความคงตัวของสูตรโดยรวม (Antioxidant for formulation stability) นอกเหนือจาก Resveratrol ที่เป็น Active
- คำแนะนำ: พิจารณาเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยรักษาความคงตัวของสูตร เช่น Vitamin E (Tocopherol) หรือ Ferulic Acid ในปริมาณที่เหมาะสม และควรบรรจุในภาชนะที่ทึบแสงและป้องกันอากาศเข้าได้ดี เช่น ขวดปั๊มสุญญากาศ
การปรับค่า pH:
- ค่า pH ของเจลมีความสำคัญต่อความคงตัว ประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์หลายตัว (โดยเฉพาะ Peptide และสารสกัดบางชนิด) และความเข้ากันได้กับผิว โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์บำรุงผิวควรมีค่า pH อยู่ในช่วงประมาณ 5-6
- สูตรนี้ยังไม่มีการระบุการปรับค่า pH ซึ่งจำเป็นต้องทำหลังผสมส่วนผสมต่างๆ เข้าด้วยกันแล้ว โดยใช้น้ำด่าง (เช่น Triethanolamine หรือ Sodium Hydroxide Solution) หรือน้ำกรด (เช่น Lactic Acid หรือ Citric Acid Solution) ในปริมาณน้อยๆ เพื่อปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม
- คำแนะนำ: เตรียมสารปรับ pH และวัดค่า pH หลังผสมเสร็จ เพื่อปรับให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการเริ่มต้น:
- สำหรับการทำสูตรครั้งแรก การเริ่มต้นจากสูตรที่มีส่วนประกอบจำนวนน้อยลง อาจช่วยให้เข้าใจบทบาทของส่วนผสมแต่ละตัวได้ง่ายขึ้น และจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าครับ
สรุป:
ประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ต้องแก้ไขคือ การเพิ่มสารกันเสียที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ควร ลดปริมาณสารสร้างเนื้อเจลและสีลงอย่างมาก และพิจารณาเรื่อง ความคงตัวของสูตรและการปรับค่า pH ครับ
หากมีการปรับสูตรแล้ว ต้องการให้ช่วยตรวจสอบอีกครั้ง ยินดีครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Active Resveratrol™

Disodium EDTA

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™

20nm Silver Pure™

SPF Protect Ultra™ II
