โอเคค่ะ ดิฉันได้ตรวจสอบสูตรที่คุณเสนอมาสำหรับผิวขาว ต่อต้านริ้วรอย ควบคุมความมัน และให้ความชุ่มชื้น ซึ่งออกแบบมาให้เก็บที่อุณหภูมิห้อง

สูตรของคุณมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ดีหลายชนิดที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์ตามที่คุณต้องการ:

• ผิวขาว: Safe-B3, GlucoBright, 4MSK, Z-White, Lactobionic Acid, Ampho-Glycolic.
• ต่อต้านริ้วรอย: Safe-B3, DMAE, Encapsulated Retinol, Lactobionic Acid, Ampho-Glycolic, Copper PCA, Creatine 100.
• ควบคุมความมัน: Safe-B3, Z-White, L-Carnitine, Copper PCA.
• ให้ความชุ่มชื้น: Safe-B3, GlucoBright, Vitamin B5 ExtraLite, L-Carnitine, Creatine 100, Glycerin, 1,2-Hexanediol.

การรวม Niacinamide (Safe-B3) และ Acetyl Glucosamine (GlucoBright) เข้าด้วยกันนั้นดีมากสำหรับผลลัพธ์ผิวขาวที่เสริมฤทธิ์กันและประโยชน์อื่นๆ นอกจากนี้ DMAE และ Vitamin B5 ก็ทำงานร่วมกันได้ดี การใช้ Encapsulated Retinol ช่วยเพิ่มความเสถียรและอาจลดการระคายเคืองเมื่อเทียบกับเรตินอลทั่วไป 1,2-Hexanediol เป็นตัวเลือกที่ดีในฐานะตัวทำละลาย สารให้ความชุ่มชื้น และสารเสริมประสิทธิภาพสารกันเสีย ซึ่งช่วยสนับสนุนการใช้ Phenoxyethanol ที่ 0.5% สำหรับการเก็บที่อุณหภูมิห้อง (แม้ว่าจะยังคงแนะนำให้ทำการทดสอบ Challenge Test เสมอ) AnyGel เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อเจลที่ทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์จากส่วนผสมที่เป็นเกลือต่างๆ

อย่างไรก็ตาม มีปัญหาสำคัญที่อาจเกิดขึ้นได้จากการรวม Ampho-Glycolic เข้ากับส่วนผสมอื่นๆ โดยเฉพาะ Encapsulated Retinol Ampho-Glycolic เป็นกรดไกลโคลิกในรูปแบบสารละลายที่มีค่า pH ต่ำมาก (1.5-2.5) แม้ว่าจะออกแบบมาให้ระคายเคืองน้อยกว่ากรดไกลโคลิกทั่วไป แต่ค่า pH ที่ต่ำนี้อาจทำให้เกิดปัญหาในสูตรที่มีส่วนผสมที่ต้องการค่า pH สูงกว่าเพื่อความเสถียร การละลาย หรือประสิทธิภาพสูงสุด เช่น Zinc PCA (pH ที่เหมาะสม 4-6), Copper PCA (pH ที่เหมาะสม 4-6), L-Carnitine (pH ที่เหมาะสม 3.5-8, ใช้ที่ 4-7), Safe-B3 (pH ที่เหมาะสม 4-7), GlucoBright (pH 3-7) และ Vitamin B5 ExtraLite (pH ที่เหมาะสม 4-7)

การรวมกรด pH ต่ำอย่าง Ampho-Glycolic เข้ากับ Retinol (แม้จะเป็นแบบ Encapsulated) ยังอาจนำไปสู่การระคายเคืองผิวที่เพิ่มขึ้น และอาจทำให้ Retinol เสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าการ Encapsulation จะช่วยป้องกันได้บ้างก็ตาม

เพื่อให้ได้สูตรที่มีความเสถียรมากขึ้นและระคายเคืองน้อยลง แต่ยังคงให้ประโยชน์ตามที่คุณต้องการ แนะนำให้ตัด Ampho-Glycolic ออกจากสูตร สูตรที่ปรับปรุงแล้วยังคงมี Lactobionic Acid สำหรับการผลัดเซลล์ผิว และส่วนผสมอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านริ้วรอยและทำให้ผิวขาว

นี่คือสูตรที่ปรับปรุงแล้วโดยไม่มี Ampho-Glycolic และปรับเปอร์เซ็นต์น้ำ พร้อมคำแนะนำในการผสม:

สูตรปรับปรุง (ไม่มี Ampho-Glycolic)

1. Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): 5%
2. GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): 4%
3. 4MSK (Potassium Methoxysalicylate): 2%
4. Z-White™ (Zinc Glycinate): 1%
5. Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™ (Ethyl Panthenol): 2%
6. DMAE (SkinTight MD™) Liquid: 3%
7. Encapsulated Retinol (65K.IU/g): 2%
8. Lactobionic Acid: 2%
9. Zinc PCA: 1%
10. L-Carnitine (Carnitine): 2%
11. Copper PCA: 1%
12. Creatine 100: 0.5%
13. Glycerin (USP/Food Grade): 5%
14. 1,2-Hexanediol (Super-Purified, Odorless): 3%
15. Phenoxyethanol (Extra Pure): 0.5%
16. AnyGel™ (Dehydroxanthan Gum): 1%
17. น้ำ (Water): 65.5%

รวม: 100%

วิธีการผสม

1. ในบีกเกอร์ ให้ผสม น้ำ, Glycerin, 1,2-Hexanediol และ Phenoxyethanol คนให้เข้ากัน
2. เติม Safe-B3, GlucoBright, 4MSK, Z-White, Vitamin B5 ExtraLite, Lactobionic Acid, Zinc PCA, L-Carnitine, Copper PCA และ Creatine 100 ลงในส่วนผสมน้ำ คนให้ผงทั้งหมดละลาย อาจใช้ความร้อนอ่อนๆ (ต่ำกว่า 40°C) ช่วยในการละลายผงได้ แต่หลีกเลี่ยงความร้อนเป็นเวลานาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผง L-Carnitine ถูกเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทและห่างจากความชื้นก่อนใช้งาน
3. เมื่อผงทั้งหมดละลายและส่วนผสมมีอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C ให้เติม DMAE Liquid และ Encapsulated Retinol คนเบาๆ จนกระจายตัวเข้ากัน หลีกเลี่ยงการคนแรงๆ ที่ทำให้เกิดฟองอากาศ
4. ตรวจสอบและปรับค่า pH ของส่วนผสม ควรอยู่ในช่วง 4.0-6.0 เพื่อความเสถียรและการละลายที่ดีที่สุดของ Zinc PCA และ Copper PCA รวมถึงความเหมาะสมสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ ปรับค่า pH หากจำเป็นโดยใช้กรดหรือเบสที่เหมาะสม
5. ค่อยๆ เติมผง AnyGel ลงในส่วนผสมพร้อมกับคนอย่างแรงด้วยเครื่อง Homogenizer หรือเครื่องผสมความเร็วสูง จนกระทั่งได้เนื้อเจลที่เรียบเนียน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า AnyGel ดูดน้ำและกระจายตัวอย่างสมบูรณ์
6. บรรจุผลิตภัณฑ์ในภาชนะที่ปิดสนิทและป้องกันแสง

สูตรที่ปรับปรุงนี้ยังคงรักษาประโยชน์หลักที่คุณต้องการไว้ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้และการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากค่า pH ที่ต่ำของ Ampho-Glycolic

โปรดจำไว้ว่าการทำการทดสอบ Challenge Test เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการยืนยันประสิทธิภาพของระบบสารกันเสียในผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บที่อุณหภูมิห้อง