การแก้ไขปัญหาผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า

เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกตึงเล็กน้อยหลังล้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมีความเข้มข้นสูงเกินไปหรือชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติของผิวออกไปมากเกินไป คุณกำลังสอบถามเกี่ยวกับการใช้ WaterLock และ Coco Betaine เพื่อช่วยในเรื่องนี้ จากข้อมูลผลิตภัณฑ์และคำแนะนำที่ได้รับ มีรายละเอียดสำหรับคำถามของคุณดังนี้:

คำถามเกี่ยวกับ WaterLock (Polyquaternium-51)

1. สามารถเพิ่ม WaterLock ประมาณ 1-2% เพื่อช่วยลดความแห้งตึงได้หรือไม่?
   ได้ค่ะ การเพิ่ม WaterLock สามารถช่วยได้ WaterLock ถูกออกแบบมาให้เกาะติดกับผิวและสร้างชั้นเคลือบที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ซึ่งสามารถลดความรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าได้ อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ WaterLock คือ 1-2% โดยแนะนำ 2% สำหรับผิวแห้ง

2. หาก WaterLock เกาะติดผิวได้ภายใน 30 วินาที การถูเจลล้างหน้าบนผิวไม่น้อยกว่า 30 วินาที จะทำให้ได้ประสิทธิภาพของ WaterLock อย่างเต็มที่ถึงแม้จะล้างออกหรือไม่?
   WaterLock เริ่มเกาะติดผิวทันทีที่สัมผัส แม้ว่าการสัมผัสเป็นเวลา 30 วินาทีจะช่วยให้สารเกาะติดได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับเวลาที่สั้นกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ประสิทธิภาพ "เต็มที่" เมื่อเทียบกับการใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ทาทิ้งไว้บนผิว ยิ่งสัมผัสนานเท่าใด สารก็จะยิ่งเคลือบผิวได้มากขึ้นเท่านั้น

3. ระหว่างการใส่ WaterLock ในเจลล้างหน้า (สัมผัส 30 วินาที) กับใส่ใน Toner จะได้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากันหรือไม่ หรือใส่ใน Toner ดีกว่า?
   ประสิทธิภาพจะใกล้เคียงกัน แต่การใช้ WaterLock ใน Toner น่าจะดีกว่าเล็กน้อย เนื่องจาก Toner เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทาทิ้งไว้บนผิว ทำให้ WaterLock อยู่บนผิวได้นานขึ้นและเกาะติดพร้อมให้ประโยชน์ในการให้ความชุ่มชื้นได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์แบบล้างออกอย่าง Cleanser แม้จะใช้เป็นเวลา 30 วินาทีก็ตาม

4. เนื่องจาก WaterLock สามารถเกาะอยู่บนผิวได้นาน 48 ชั่วโมง จะมีผลต่อการดูดซึมของ Active ตัวอื่นๆ หรือไม่ และการล้างหน้าเช้าเย็นจะทำให้ WaterLock สะสมบนหน้ามากขึ้นหรือไม่?
   WaterLock สร้างชั้นเคลือบอยู่บนผิวชั้นนอก ไม่ได้ซึมลึกเข้าไปในผิว ไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงว่ามีผลต่อการดูดซึมของ Active อื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมที่เคลือบผิวคล้ายกัน เช่น ซิลิโคน โดยทั่วไปไม่ได้ลดอัตราการดูดซึมของสารอื่นๆ WaterLock ไม่สะสมบนผิวอย่างถาวร แม้ว่าจะเกาะติดได้ดีและล้างออกด้วยน้ำเปล่าได้ยาก แต่ก็จะค่อยๆ หลุดออกไปตามกิจกรรมปกติ เหงื่อ และการทำความสะอาดครั้งต่อไปด้วยสารซักฟอก ดังนั้น การล้างหน้าเช้าเย็นจะช่วยชะล้าง WaterLock ออกไปบางส่วน ป้องกันการสะสมที่มากเกินไปค่ะ

คำถามเกี่ยวกับ Coco Betaine และสูตรปัจจุบันของคุณ

คุณแจ้งว่า Cleanser ปัจจุบันของคุณมี Amino Wash 10% และ Baby Foam 4%

1. ควรเพิ่ม Coco Betaine ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ในสูตรนี้?
   ก่อนที่จะเพิ่ม Coco Betaine แนะนำให้ลองลดปริมาณสารซักฟอกที่คุณใช้อยู่ (Amino Wash และ Baby Foam) ดูก่อน หากลดแล้วรู้สึกว่า Cleanser ทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็ยังทำให้รู้สึกตึงอยู่ จากนั้นจึงค่อยพิจารณาเพิ่ม Coco Betaine หากตัดสินใจเพิ่ม Coco Betaine จุดเริ่มต้นที่แนะนำคือประมาณ 3-5% อย่างไรก็ตาม หากเพิ่ม Coco Betaine คุณควรลดปริมาณสารซักฟอกตัวอื่นๆ ในสูตรลงด้วย เพื่อไม่ให้ Cleanser โดยรวมมีความเข้มข้นสูงเกินไป

2. การใช้ทั้ง 3 ตัว (Amino Wash, Baby Foam, และ Coco Betaine หรือ WaterLock) จะดูซับซ้อนเกินไปหรือไม่ หรือควรใช้แค่ 1-2 ตัวก็พอ?
   การใช้ทั้งสามตัวอาจจะซับซ้อนเกินความจำเป็น โดยทั่วไปแนะนำให้ทำให้สูตรเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ แนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ปัญหาความตึงผิวคือ:

   • ลองปรับลดระดับสารซักฟอกที่คุณใช้อยู่ (Amino Wash และ Baby Foam) ดูก่อน
   • หากการปรับลดไม่เพียงพอ ให้พิจารณาเพิ่ม อย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่าง Coco Betaine (ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของสารซักฟอกอื่นๆ) หรือ WaterLock (ซึ่งช่วยเคลือบผิวให้ความชุ่มชื้น) โดยอาจยังคงปรับลดสารซักฟอกตัวอื่นร่วมด้วย

โดยสรุป ทั้ง WaterLock และ Coco Betaine สามารถช่วยลดความรู้สึกตึงหลังล้างหน้าได้ แต่ทำงานต่างกัน WaterLock เคลือบผิว ในขณะที่ Coco Betaine ช่วยให้ระบบสารซักฟอกโดยรวมอ่อนโยนขึ้น แนะนำให้ลองปรับความเข้มข้นของสารซักฟอกที่คุณใช้อยู่ก่อนที่จะเพิ่มส่วนผสมใหม่ หากคุณเพิ่มส่วนผสม ควรพิจารณาว่าคุณต้องการระบบสารซักฟอกที่อ่อนโยนขึ้น (Coco Betaine) หรือส่วนผสมที่ทิ้งฟิล์มให้ความชุ่มชื้น (WaterLock) ค่ะ