วิตามินซีผิวแห้ง, สารทางเลือก, และการผสมส่วนผสม
คำถาม
จากการใช้ Vitamin C แล้วรู้สึกว่าหน้าแห้งไปหน่อย ขอสอบถามเพิ่มเติม 2 ข้อค่ะ:
- ในอนาคตอยากจะลองเปลี่ยนไปใช้ครีมที่ผสมจากสารอื่นดู พอจะมีสารไหนที่สรรพคุณใกล้เคียงกับ Vitamin C แต่ให้ความชุ่มชื้นกว่ามั้ยคะ
- ตอนนี้มี N-acetyl Glucosamine กับ Niacinamide และมี VITARA ALOE VERA GEL - 99.5% อยู่ สามารถนำมาผสมรวมกันได้มั้ยคะ อยากผสมไว้ใช้ตอนช่วงเช้าก่อนลงกันแดดแทนเอสเซ้นที่ใช้อยู่ตอนนี้น่ะค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับปัญหาผิวของคุณ
จากคำถามของคุณและการสนทนาในเว็บบอร์ด นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับโทนเนอร์ BHA ปัญหากระแดด ส่วนผสมทางเลือกแทนวิตามินซี และการผสมส่วนผสมที่คุณมีอยู่ค่ะ
โทนเนอร์ BHA สำหรับสิวอุดตัน
การใช้โทนเนอร์ BHA (เช่น สูตร BHA + น้ำที่คุณกล่าวถึง) สามารถช่วยเรื่องสิวอุดตันได้ BHA (Salicylic Acid) ทำงานโดยการซึมเข้าไปในรูขุมขนและช่วยคลายและละลายไขมันแข็งและเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นสาเหตุของการอุดตัน สิ่งนี้สามารถทำให้สิวอุดตันอ่อนตัวลงและอาจกดออกได้ง่ายขึ้น หรือหากใช้อย่างต่อเนื่อง สิวอุดตันอาจยุบหายไปเองได้
วิธีใช้: โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ BHA ในตอนกลางคืน เนื่องจากอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรทาครีมกันแดดเสมอในตอนกลางวัน
การใช้ร่วมกับวิตามินซี: คุณสามารถใช้ BHA ร่วมกับผลิตภัณฑ์ Stabilized Vitamin C ที่คุณใช้อยู่ได้ โดยเฉพาะหากผิวของคุณไม่มีอาการระคายเคืองอย่างมีนัยสำคัญจากวิตามินซี (เช่น อาการแสบร้อนหรือแดงเป็นเวลานาน) เนื่องจากคุณกล่าวว่ามีอาการคันยิบๆ เล็กน้อยชั่วคราวที่แก้มซึ่งหายไป แสดงว่าผิวของคุณทนต่อวิตามินซีได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม ควรใช้ BHA ในตอนกลางคืน และใช้วิตามินซีในเวลาที่ต่างกัน (หากคุณเคยใช้ตอนกลางวัน ซึ่งคุณไม่ได้ใช้) หรือสลับวันกันหากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย โปรดสังเกตปฏิกิริยาของผิวอย่างใกล้ชิดเมื่อเริ่มใช้ BHA
การรักษากระแดด
สำหรับการรักษากระแดดแบบเฉพาะจุด มักแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์แต้มเฉพาะจุดที่มีความเข้มข้นสูง แม้ว่า AHA จะนิยมใช้เพื่อจุดประสงค์นี้ แต่การสนทนาในเว็บบอร์ดก็กล่าวถึงประโยชน์ของการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (เช่น แพทย์หรือพยาบาล) สำหรับกระที่ฝังแน่นหรือจุดที่เฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะหากคุณยังใหม่กับการใช้ส่วนผสมความเข้มข้นสูงหรือการแต้มเฉพาะจุด
ส่วนผสมอื่นๆ ที่ทราบกันดีว่าช่วยให้จุดด่างดำและรอยดำจางลง ได้แก่ Niacinamide และ N-acetyl Glucosamine ส่วนผสมเหล่านี้ทำงานผ่านกลไกที่แตกต่างจากวิตามินซี แต่ก็มีประสิทธิภาพในการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและลดเลือนจุดด่างดำได้เช่นกัน
ส่วนผสมทางเลือกแทนวิตามินซีที่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่า
หากคุณรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์วิตามินซีที่คุณใช้อยู่ทำให้ผิวแห้ง คุณอาจพิจารณาส่วนผสมที่ให้ประโยชน์ในการปรับผิวให้กระจ่างใส พร้อมทั้งช่วยเสริมความชุ่มชื้นและเกราะป้องกันผิว ดังที่กล่าวไป วิตามินซีเองไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นโดยตรง แต่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งสามารถช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้นได้
ส่วนผสมเช่น Niacinamide (วิตามินบี 3) และ N-acetyl Glucosamine เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมหรือเป็นส่วนผสมเสริมที่ใช้ร่วมกันได้ Niacinamide ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง (TEWL) และเพิ่มความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการปรับผิวให้กระจ่างใสและต้านการอักเสบ N-acetyl Glucosamine ทำงานได้ดีกับ Niacinamide ในการลดเลือนรอยดำ และยังช่วยให้ผิวผลิต Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ เช่น Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide), Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland), Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity) และ GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการพิจารณาเพื่อผิวที่กระจ่างใสขึ้น พร้อมคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับสูตรวิตามินซีบางชนิด
การผสม N-acetyl Glucosamine, Niacinamide และ Aloe Vera Gel
ได้ค่ะ จากการสนทนาในเว็บบอร์ด คุณน่าจะสามารถผสม N-acetyl Glucosamine, Niacinamide และ VITARA ALOE VERA GEL - 99.5% เพื่อใช้ในตอนเช้าก่อนทาครีมกันแดดได้ ทั้ง Niacinamide และ N-acetyl Glucosamine เป็นผงที่ละลายน้ำได้
เคล็ดลับการผสม: หากเจลว่านหางจระเข้มีความข้นมาก อาจจะละลายผง N-acetyl Glucosamine และ Niacinamide ในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วจึงนำไปผสมให้เข้ากันดีกับเจล โปรดคำนวณเปอร์เซ็นต์การใช้ที่ถูกต้องสำหรับแต่ละส่วนผสมตามปริมาตรรวมของส่วนผสมที่คุณทำ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองและให้แน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
