วิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมในสูตรเครื่องสำอางแต่ละประเภท

ถามโดย: aon.ohn เมื่อ: March 13, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ควรใส่สารกันเสียและน้ำหอมในสูตรเครื่องสำอางอย่างไร?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำทั้งหมด เช่น โทนเนอร์น้ำ แตกต่างจากสูตรเนื้อครีมหรือเจลอย่างไร? จำเป็นต้องใช้สารช่วยละลายสำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำหรือไม่ และมีตัวอย่างสารช่วยละลายหรือไม่?

คำตอบ

วิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมในสูตร

จากคำถามของคุณและข้อมูลที่ได้รับ นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมลงในสูตรเครื่องสำอางของคุณ:

  • สำหรับสูตรเนื้อครีมหรือเจล (ที่มีสารสร้างเนื้อครีม):
    สารกันเสียและน้ำหอมส่วนใหญ่มักจะละลายได้ดีในน้ำมัน หรือกระจายตัวได้ดีในสูตรที่มีสารสร้างเนื้อครีม (เช่น เบสครีมหรือเจล) ในสูตรประเภทนี้ คุณสามารถเติมสารกันเสียและน้ำหอมลงในเนื้อสูตรได้โดยตรง ตัวอย่างสารสร้างเนื้อครีม ได้แก่ Sucrose Cream Maker™ หรือ Emulsifying Wax 1000

  • สำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำทั้งหมด (เช่น โทนเนอร์น้ำ):
    หากสูตรของคุณเป็นเบสน้ำทั้งหมดและไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือสารสร้างเนื้อครีม คุณจะต้องใช้สารช่วยละลาย (Solubilizer) เพื่อช่วยให้น้ำหอมกระจายตัวเข้ากับน้ำได้ดี ผลิตภัณฑ์อย่าง Flora Solve™ Clear ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้ โดยทั่วไป คุณจะต้องผสมน้ำหอมเข้ากับสารช่วยละลายก่อน จากนั้นจึงนำส่วนผสมนี้ไปเติมลงในเบสน้ำ

  • สารกันเสีย:
    สารกันเสียหลายชนิด เช่น Mild Preserved™ COS หรือ NaturePreserve™ LB2 สามารถละลายน้ำได้ หรือสามารถเติมลงในสูตรได้โดยตรง ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะของสารกันเสียนั้นๆ และประเภทของสูตร ควรตรวจสอบวิธีการใช้สำหรับสารกันเสียแต่ละชนิดที่คุณใช้เสมอ

  • น้ำหอม:
    โดยทั่วไป น้ำหอมจะถูกเติมในขั้นตอนท้ายๆ ของกระบวนการผลิต เพื่อลดการสัมผัสความร้อน ซึ่งอาจทำให้น้ำหอมเสื่อมคุณภาพได้

สรุปคือ วิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมขึ้นอยู่กับประเภทของสูตรที่คุณกำลังทำ สำหรับเบสครีม/เจล มักจะสามารถเติมโดยตรงได้ แต่สำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำ มักจะต้องใช้สารช่วยละลายสำหรับน้ำหอม

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง