วิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมในสูตรเครื่องสำอางแต่ละประเภท
คำถาม
ควรใส่สารกันเสียและน้ำหอมในสูตรเครื่องสำอางอย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำทั้งหมด เช่น โทนเนอร์น้ำ แตกต่างจากสูตรเนื้อครีมหรือเจลอย่างไร? จำเป็นต้องใช้สารช่วยละลายสำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำหรือไม่ และมีตัวอย่างสารช่วยละลายหรือไม่?
คำตอบ
วิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมในสูตร
จากคำถามของคุณและข้อมูลที่ได้รับ นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมลงในสูตรเครื่องสำอางของคุณ:
สำหรับสูตรเนื้อครีมหรือเจล (ที่มีสารสร้างเนื้อครีม):
สารกันเสียและน้ำหอมส่วนใหญ่มักจะละลายได้ดีในน้ำมัน หรือกระจายตัวได้ดีในสูตรที่มีสารสร้างเนื้อครีม (เช่น เบสครีมหรือเจล) ในสูตรประเภทนี้ คุณสามารถเติมสารกันเสียและน้ำหอมลงในเนื้อสูตรได้โดยตรง ตัวอย่างสารสร้างเนื้อครีม ได้แก่ Sucrose Cream Maker™ หรือ Emulsifying Wax 1000สำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำทั้งหมด (เช่น โทนเนอร์น้ำ):
หากสูตรของคุณเป็นเบสน้ำทั้งหมดและไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือสารสร้างเนื้อครีม คุณจะต้องใช้สารช่วยละลาย (Solubilizer) เพื่อช่วยให้น้ำหอมกระจายตัวเข้ากับน้ำได้ดี ผลิตภัณฑ์อย่าง Flora Solve™ Clear ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้ โดยทั่วไป คุณจะต้องผสมน้ำหอมเข้ากับสารช่วยละลายก่อน จากนั้นจึงนำส่วนผสมนี้ไปเติมลงในเบสน้ำสารกันเสีย:
สารกันเสียหลายชนิด เช่น Mild Preserved™ COS หรือ NaturePreserve™ LB2 สามารถละลายน้ำได้ หรือสามารถเติมลงในสูตรได้โดยตรง ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะของสารกันเสียนั้นๆ และประเภทของสูตร ควรตรวจสอบวิธีการใช้สำหรับสารกันเสียแต่ละชนิดที่คุณใช้เสมอน้ำหอม:
โดยทั่วไป น้ำหอมจะถูกเติมในขั้นตอนท้ายๆ ของกระบวนการผลิต เพื่อลดการสัมผัสความร้อน ซึ่งอาจทำให้น้ำหอมเสื่อมคุณภาพได้
สรุปคือ วิธีการใส่สารกันเสียและน้ำหอมขึ้นอยู่กับประเภทของสูตรที่คุณกำลังทำ สำหรับเบสครีม/เจล มักจะสามารถเติมโดยตรงได้ แต่สำหรับสูตรที่เป็นเบสน้ำ มักจะต้องใช้สารช่วยละลายสำหรับน้ำหอม
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Sucrose Cream Maker™ (e.q. Emulgade Sucro Plus)

Emulsifying Wax 1000 (e.q. Emulgade 1000 NI)
