วิธีทำเซรั่ม C E Ferulic ให้ใส

ถามโดย: wimonrat.petpon เมื่อ: March 13, 2021 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังลองทำเซรั่ม C E Ferulic โดยใช้สูตรดังนี้ แต่ทุกครั้งที่ทำ เซรั่มที่ได้จะมีสีขุ่นคล้ายน้ำนมแทนที่จะใส ฉันจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้เซรั่มที่ใสด้วยสูตรนี้คะ?

ส่วนประกอบของ Base อัตราส่วน
Purified Water 44.80%
Ethoxydiglycol (ทำละลาย) 20.00%
Propylene Glycol (ลื่นผิว) 10.00%
Glycerin (ลื่นผิว) 3.00%
Laureth-23 (ประสานน้ำ น้ำมัน) 3.00%
Triethanolamine (ปรับ pH) 1.00%
d-Alpha Tocopherol (Natural Vitamin E) 1.00%
Phenoxyethanol (สารกันเสีย) 1.00%
Ferulic Acid (ต้านอนุมูลอิสระ) 0.50%
Panthenol (Vitamin B5 ให้ความชุ่มชื้น) 0.50%
Hyaluronic Acid Standard (ให้ความชุ่มชื้น) 0.10%
Hyaluronic Acid Nano (ให้ความชุ่มชื้น) 0.10%
ส่วนประกอบของ อัตราส่วน
L-ascorbic acid Ultra-Fine 15.00%

คำตอบ

วิธีทำเซรั่ม C E Ferulic ให้ใส

เซรั่ม C E Ferulic ที่มีลักษณะขุ่นคล้ายน้ำนมที่คุณพบ อาจเกิดจากส่วนผสมบางอย่างละลายไม่หมดหรือไม่กระจายตัวในเบสที่เป็นน้ำอย่างเหมาะสม จากสูตรที่คุณให้มา สาเหตุหลักมักมาจาก d-Alpha Tocopherol (วิตามินอี) และ Ferulic Acid

นี่คือเหตุผลและวิธีที่คุณสามารถลองทำเพื่อให้ได้เซรั่มที่ใสขึ้น:

ทำความเข้าใจส่วนผสม

  • L-ascorbic acid (Ultra-Fine): เป็นวิตามินซีที่ละลายในน้ำได้ดี โดยเฉพาะเกรด Ultra-Fine แต่ต้องการค่า pH ต่ำ (2.0-4.0) เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าละลายหมดในส่วนของน้ำ
  • Ferulic Acid: ส่วนผสมนี้ ไม่ละลายในน้ำ ตามคำอธิบายผลิตภัณฑ์ ระบุว่าละลายได้ในตัวทำละลาย เช่น Ethoxydiglycol หรือเอทานอล ในสูตรของคุณ Ethoxydiglycol คือตัวทำละลายสำหรับ Ferulic Acid หาก Ferulic Acid ละลายไม่หมด จะทำให้เซรั่มขุ่นได้
  • d-Alpha Tocopherol (Natural Vitamin E): เป็นวิตามินอีที่ ละลายในน้ำมัน Laureth-23 ในสูตรของคุณทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์/โซลูบิไลเซอร์ เพื่อช่วยนำพาส่วนของน้ำมันนี้เข้ากับเบสน้ำ Laureth-23 สามารถช่วยสร้างสารละลายที่ใส (ไมโครอิมัลชัน) หรืออิมัลชันที่ละเอียดมากและคงตัวได้ แต่การทำให้ใสจริง ๆ ด้วยน้ำมัน 1% อาจต้องใช้เทคนิคการผสมที่ละเอียดอ่อนและปริมาณโซลูบิไลเซอร์ที่เพียงพอ คำอธิบายผลิตภัณฑ์ของ Laureth-23 แนะนำให้ใช้ความร้อน 60-70°C ในขณะที่ d-Alpha Tocopherol ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 50°C ความขัดแย้งด้านอุณหภูมินี้เป็นความท้าทายหลัก

ขั้นตอนที่ควรลองเพื่อให้ได้เซรั่มใส

  1. เตรียมส่วนของน้ำ: ผสม Purified Water, Propylene Glycol, Glycerin, Panthenol, Hyaluronic Acid Standard และ Hyaluronic Acid Nano คนให้ผงทั้งหมด (Panthenol, Hyaluronic Acids) ละลายหมด
  2. ละลาย Ferulic Acid: ในภาชนะแยกต่างหาก ละลาย Pure-Ferulic Acid ใน Ethoxydiglycol คนให้เข้ากันอย่างทั่วถึงจน ใสสนิท ไม่มีอนุภาคหลงเหลืออยู่ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาและการคนอย่างละเอียด
  3. เตรียมส่วนของน้ำมัน/โซลูบิไลเซอร์: ในภาชนะที่สาม ผสม d-Alpha Tocopherol และ Laureth-23 ค่อย ๆ ให้ความร้อนส่วนผสมนี้ โดยให้ ต่ำกว่า 50°C เท่าที่จำเป็นเพื่อให้ Laureth-23 ละลายและผสมกับวิตามินอี คนให้เข้ากันดีเพื่อให้แน่ใจว่าวิตามินอีกระจายตัวได้ดีด้วย Laureth-23 หลีกเลี่ยงความร้อนสูงเพื่อรักษาวิตามินอี
  4. รวมส่วนผสม: ค่อย ๆ เติมส่วนผสมของ Ferulic Acid/Ethoxydiglycol ที่ละลายแล้วลงในส่วนของน้ำ (Water Phase) พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง จากนั้น ค่อย ๆ เติมส่วนผสมของวิตามin E/Laureth-23 ที่อุ่นแล้วลงในส่วนผสมของน้ำ/ไกลคอล พร้อมกับคนอย่างรวดเร็ว
  5. เติม L-ascorbic acid: เมื่อเบสหลักผสมเข้ากันและดูใสที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในขั้นตอนนี้ ค่อย ๆ เติมผง L-ascorbic acid Ultra-Fine ลงไปพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะละลายหมด
  6. ปรับค่า pH: สุดท้าย ค่อย ๆ เติม Triethanolamine ทีละหยดเพื่อปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ (โดยทั่วไปคือ 2.5-3.5 สำหรับเซรั่ม L-AA) สังเกตความใสขณะปรับค่า pH บางครั้งการเปลี่ยนแปลงค่า pH อาจส่งผลต่อการละลายได้
  7. การคนอย่างละเอียด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการคนอย่างทั่วถึงและต่อเนื่องตลอดกระบวนการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมส่วนผสมและละลายผง การใช้เครื่องคนแบบแม่เหล็ก (magnetic stirrer) จะช่วยได้มาก

ความท้าทายที่อาจพบและทางเลือกอื่น

แม้จะผสมอย่างระมัดระวัง การทำให้เซรั่มใสเหมือนคริสตัลด้วยสูตรนี้เป๊ะ ๆ อาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากลักษณะของ d-Alpha Tocopherol และข้อกำหนดด้านอุณหภูมิของ Laureth-23 Laureth-23 อาจกำลังสร้างอิมัลชันที่ละเอียดมากจนดูขุ่นคล้ายน้ำนม

หากความใสเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ลองพิจารณาทางเลือกเหล่านี้:

  • สำหรับวิตามินอี: ใช้ Vitamin E อนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ เช่น Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble โปรดทราบว่า Tocopheryl Acetate เป็นอนุพันธ์และอาจไม่ได้ให้ประโยชน์เหมือนกับ d-Alpha Tocopherol ทุกประการ แต่จะละลายในส่วนของน้ำได้ง่าย ช่วยให้เซรั่มใสขึ้น
  • สำหรับ Ferulic Acid: พิจารณาใช้ Micromul™ Ferulic Acid (Microemulsion Ferulic Acid) ซึ่งออกแบบมาให้ละลายน้ำได้และผสมเข้ากับสูตรที่เป็นน้ำได้ง่าย ทำให้ได้ของเหลวที่ใส

การให้ความสำคัญกับการละลาย Ferulic Acid ในส่วนของไกลคอลให้หมด และการทำให้วิตามินอีกระจายตัวได้ดีด้วย Laureth-23 ก่อนนำส่วนผสมทั้งหมดมารวมกัน น่าจะช่วยปรับปรุงความใสของเซรั่มของคุณได้.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C E Ferulic
Vitamin C E Ferulic
เครื่องสำอาง
Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
เครื่องสำอาง
Laureth-23
Laureth-23
เครื่องสำอาง
Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble
Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble
เครื่องสำอาง
Micromul™ Ferulic Acid (Microemulsion Ferulic Acid)
Micromul™ Ferulic Acid (Microemulsion Ferulic Acid)
เครื่องสำอาง