วิธีทำให้น้ำหอม 10 มล. ติดทนนานขึ้น
คำถาม
ฉันได้ทำน้ำหอมปริมาณ 10 มล. โดยใช้หัวน้ำหอม (Bescents J, Bescents V, Romance Rose) และ Ethyl Alcohol เป็นส่วนประกอบ
กลิ่นถูกใจมาก แต่กลิ่นไม่ติดทนนานเลยค่ะ มีวิธีปรับสูตรอย่างไรบ้างเพื่อให้น้ำหอมติดทนนานขึ้นคะ?
คำตอบ
วิธีทำให้น้ำหอมติดทนนานขึ้น
คุณได้สร้างสรรค์น้ำหอมที่มีกลิ่นถูกใจ แต่กลิ่นไม่ติดทนนาน นี่เป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับน้ำหอมที่ทำเอง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมและชนิดของเบสหรือตัวทำละลายที่ใช้
จากสูตรของคุณและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ นี่คือวิธีปรับปรุงความติดทนนานของน้ำหอมปริมาณ 10 มล. ของคุณ:
เพิ่มความเข้มข้นของหัวน้ำหอม: เจ้าหน้าที่แนะนำให้เพิ่มสัดส่วนของหัวน้ำหอมในสูตรของคุณ โดยทั่วไปแล้ว ความเข้มข้นของสารประกอบน้ำหอมที่สูงขึ้นจะส่งผลให้กลิ่นติดทนนานขึ้น คุณอาจลองเพิ่มปริมาณ Bescents J (jasmine), Bescents V (vanilla) และ Romance Rose เล็กน้อย ในขณะที่ลดปริมาณตัวทำละลายลงตามสัดส่วน เพื่อให้ปริมาตรรวมยังคงเป็น 10 มล.
ใช้ Dipropylene Glycol: การแทนที่ Ethyl Alcohol บางส่วนด้วย Dipropylene glycol เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงความติดทนนาน Ethyl Alcohol ระเหยเร็ว ซึ่งพากลิ่นไปด้วย Dipropylene glycol เป็นตัวทำละลายที่ระเหยช้ากว่า ซึ่งช่วยชะลออัตราการระเหยของหัวน้ำหอม ทำหน้าที่เป็นสารตรึงกลิ่น (fixative) เจ้าหน้าที่แนะนำให้ใช้ Dipropylene glycol ประมาณ 10% ของสูตร การใช้ Dipropylene glycol ไม่ควรเปลี่ยนโปรไฟล์กลิ่นหลักของหัวน้ำหอมอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเพียงตัวพาและสารตรึงกลิ่น
พิจารณาใช้สารตรึงกลิ่นชนิดอื่น: เจ้าหน้าที่ยังแนะนำให้ลองใช้ Last Fix เป็นทางเลือกแทน Flora Fix หากกลิ่นยังไม่ติดทนนานเท่าที่ต้องการ สารตรึงกลิ่นเป็นส่วนผสมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยยืดอายุกลิ่นของน้ำหอม โดยการลดอัตราการระเหยของส่วนประกอบน้ำหอมที่ระเหยง่ายกว่า
ด้วยการปรับความเข้มข้นของหัวน้ำหอม การใช้ตัวทำละลายที่ระเหยช้ากว่าอย่าง Dipropylene glycol และอาจทดลองกับสารตรึงกลิ่นชนิดต่างๆ คุณควรจะสามารถสร้างสรรค์น้ำหอมที่ติดทนนานขึ้นบนผิวได้
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Dipropylene glycol

Pure-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 90%)

ถุงฟอยด์ 22x30ซม.

Jasmine Petal

Jasmine Fresh

Rose Blossom

Vanilla Cookie House
