วิธีผสมเซรั่มเนื้อซิลิโคนด้วย Warp Cream Maker™ - ป้องกันการแยกชั้น
คำถาม
ต้องการทำเซรั่มเนื้อซิลิโคน โดยใช้ส่วนผสมและสัดส่วนดังนี้ค่ะ:
- ส่วนที่ 1: ส่วนซิลิโคน (Silicone Phase)
- Warp Cream Maker™: 7%
- Cyclomethicone: 50%
- ส่วนที่ 2: ส่วนน้ำ (Water Phase)
- N-Acetyl-D Glucosamine: 4%
- Vitamin B3: 4%
- Methylsulfonylmethane (MSM): 5%
- น้ำ: 21%
- ส่วนผสมที่เติมหลังรวมเนื้อ (Post-Emulsification Phase)
- Phenoxyethanol: 1%
- Ceramide Complex: 10%
- AminoSilk™: 3%
ลองทำแล้วเนื้อไม่เข้ากัน/แยกชั้น ไม่ทราบว่ามีวิธีการผสมที่ถูกต้องเพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่เนียนและคงตัวหรือไม่คะ?
คำตอบ
วิธีการผสมเซรั่ม (เนื้อซิลิโคน)
การผสมเซรั่มเนื้อซิลิโคนแบบนี้ต้องแบ่งส่วนผสมออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ และมีขั้นตอนการเติมส่วนผสมที่สำคัญ เพื่อให้เนื้อเข้ากันได้ดี ไม่แยกชั้นค่ะ
ส่วนที่ 1: ส่วนซิลิโคน (Silicone Phase)
ส่วนนี้ประกอบด้วย:
- Warp Cream Maker™ 7%
- Cyclomethicone 50%
ขั้นตอน:
- นำ Warp Cream Maker™ และ Cyclomethicone มารวมกันในภาชนะ
- อุ่นส่วนผสมนี้และคนให้เข้ากัน อาจจะยังเห็น Warp Cream Maker™ เป็นตะกอนเล็กน้อยบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องกังวลค่ะ
ส่วนที่ 2: ส่วนน้ำ (Water Phase)
ส่วนนี้ประกอบด้วย:
- N-Acetyl-D Glucosamine 4%
- Vitamin B3 4%
- Methylsulfonylmethane (MSM) 5%
- น้ำ 21%
ขั้นตอน:
- นำ N-Acetyl-D Glucosamine, Vitamin B3, Methylsulfonylmethane (MSM) และน้ำ มารวมกันในอีกภาชนะหนึ่ง
- คนส่วนผสมในส่วนน้ำให้ละลายเข้ากันดี (การที่แก้วเกาะเหงื่อแสดงว่าส่วนผสมเย็นจัด ซึ่งดีต่อการรักษาคุณภาพของสารบางตัว แต่ต้องระวังเรื่องการละลายของส่วนผสมผง)
ขั้นตอนการรวมส่วนผสม (Emulsification)
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำให้เนื้อเข้ากันค่ะ
- นำส่วนน้ำ (ส่วนที่ 2) ที่เตรียมไว้ ค่อยๆ เทลงในส่วนซิลิโคน (ส่วนที่ 1) ที่อุ่นเตรียมไว้ ทีละน้อย
- ขณะที่เทส่วนน้ำลงไป ต้องคนส่วนผสมตลอดเวลา ในตอนแรกอาจจะดูเหมือนไม่เข้ากัน แต่ให้คนต่อไปเรื่อยๆ เนื้อซิลิโคนจะค่อยๆ ดูดซับน้ำเข้าไป และส่วนผสมจะเริ่มข้นขึ้น
- เติมส่วนน้ำทีละน้อยและคนอย่างต่อเนื่องจนส่วนน้ำทั้งหมดเข้ากับส่วนซิลิโคนจนได้เนื้อเซรั่ม/ครีมที่เนียนเข้ากันดี
ขั้นตอนการเติมส่วนผสมสุดท้าย (Post-Emulsification)
เมื่อได้เนื้อเซรั่มตามที่ต้องการแล้ว ค่อยเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนหรือส่วนผสมผงที่ต้องการการกระจายตัวในเนื้อครีม
ส่วนผสมที่ต้องเติมในขั้นตอนนี้:
- Phenoxyethanol 1%
- Ceramide Complex 10%
- AminoSilk™ 3%
ขั้นตอน:
- เติม Phenoxyethanol ลงในเนื้อเซรั่มที่ได้ คนให้เข้ากัน
- เติม Ceramide Complex ลงไป คนให้กระจายตัวเข้ากับเนื้อเซรั่ม
- เติม AminoSilk™ ลงไป คนให้กระจายตัวเข้ากับเนื้อเซรั่มจนเนียนเข้ากันทั้งหมด
สาเหตุที่วิธีเดิมอาจไม่สำเร็จ:
- การเติม AminoSilk™ และ Ceramide Complex ในส่วนซิลิโคนตั้งแต่แรก: ส่วนผสมเหล่านี้ (โดยเฉพาะ AminoSilk™ ที่เป็นผง) ควรถูกเติมหลังจากได้เนื้อครีมแล้ว เพื่อให้กระจายตัวได้ดีในเนื้อ แทนที่จะผสมในซิลิโคนตั้งแต่ต้น ซึ่งอาจรบกวนการทำงานของ Warp Cream Maker™ ในการสร้างอิมัลชัน
- การเทส่วนน้ำลงในส่วนซิลิโคนเร็วเกินไป: Warp Cream Maker™ ต้องการเวลาและแรงคนในการค่อยๆ ดึงส่วนน้ำเข้าไปในส่วนซิลิโคน การเทส่วนน้ำลงไปทั้งหมดในครั้งเดียวทำให้ Emulsifier ไม่สามารถจับส่วนผสมทั้งสองเข้าด้วยกันได้ทัน ทำให้เกิดการแยกชั้น
การทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการค่อยๆ เติมส่วนน้ำลงในส่วนซิลิโคนพร้อมกับการคนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ Warp Cream Maker™ ทำหน้าที่เป็น Emulsifier ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้เนื้อเซรั่มที่เนียน ไม่แยกชั้นค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)

Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)

AminoSilk™ (Lauroyl lysine)
