วิธีผสม Vitamin E ในเบสเจลอโลเวร่า

โดยทั่วไป Vitamin E (Tocopheryl Acetate) เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน การผสมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันเข้ากับเบสเจลที่เป็นน้ำ เช่น เบสเจลอโลเวร่า สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดของ Vitamin E ที่ใช้และผลลัพธ์ที่ต้องการ

1. การใช้ Vitamin E ชนิดละลายในน้ำมัน (เช่น Vitamin E (Tocopheryl Acetate))

Vitamin E ชนิดนี้ (เช่น ผลิตภัณฑ์ Vitamin E (Tocopheryl Acetate)) จะไม่ละลายเข้ากับเบสเจลที่เป็นน้ำโดยตรง หากผสมลงไปตรงๆ แล้วคนให้เข้ากัน น้ำมันจะกระจายตัวเป็นหยดเล็กๆ ทำให้เจลที่ได้มีลักษณะขุ่น ไม่ใสเหมือนเดิม

• วิธีผสม: หากต้องการให้เจลใสและมีความคงตัวที่ดีขึ้น ควรใช้ สารช่วยละลาย (Solubilizer) เช่น Polysorbate 20 หรือ PEG-40 Hydrogenated Castor Oil โดยผสม Vitamin E เข้ากับสารช่วยละลายในอัตราส่วนที่เหมาะสมก่อน (อัตราส่วนขึ้นอยู่กับชนิดของสารช่วยละลายและปริมาณ Vitamin E ที่ใช้) จากนั้นจึงนำส่วนผสมนี้ไปคนให้เข้ากับเบสเจลอโลเวร่า (เช่น Aloe Vera Gel (Heavy) หรือ Aloe Vera Gel (Lite)) การใช้วิธีนี้จะช่วยให้ Vitamin E กระจายตัวในเนื้อเจลได้อย่างสม่ำเสมอและคงตัวได้ดีกว่า
• ข้อสังเกต: หากไม่ใช้สารช่วยละลายและผสม Vitamin E ชนิดน้ำมันลงในเบสเจลโดยตรง เจลจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่นตามที่ได้มีการกล่าวถึงในข้อความก่อนหน้า

2. การใช้ Vitamin E ชนิดละลายน้ำได้ (เช่น Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble)

มี Vitamin E บางชนิดที่ถูกปรับปรุงให้อยู่ในรูปที่สามารถละลายน้ำได้โดยตรง (เช่น ผลิตภัณฑ์ Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble ซึ่งมีส่วนประกอบของสารช่วยละลายอยู่แล้ว)

• วิธีผสม: Vitamin E ชนิดนี้สามารถเติมลงในเบสเจลอโลเวร่า (เช่น Aloe Vera Gel (Heavy) หรือ Aloe Vera Gel (Lite)) ได้โดยตรง แล้วคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน วิธีนี้สะดวกและมักจะได้เจลที่ยังคงความใสอยู่

สรุป: หากใช้ Vitamin E (Tocopheryl Acetate) ชนิดทั่วไปที่ละลายในน้ำมัน ควรใช้สารช่วยละลายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หรือยอมรับว่าเจลจะขุ่นหากผสมโดยตรง แต่ถ้าใช้ Vitamin E ชนิดละลายน้ำได้ การผสมจะง่ายและได้เจลที่ใสกว่า