วิธีแก้ไขปัญหา Vitamin C แยกชั้นใน Butylene Glycol
คำถาม
สวัสดีครับ รบกวนสอบถามครับ
เจอปัญหาการแยกชั้นกันของส่วนผสมครับ:
- ผสม Butylene Glycol กับ Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
พอตั้งทิ้งไว้แล้วมันแยกชั้นกันครับ เวลาจะใช้ต้องคอยเขย่าให้มันเข้ากัน มีวิธีแก้ปัญหานี้มั้ยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
คำตอบ
วิธีแก้ไขปัญหาการแยกชั้นของ Butylene Glycol และ Vitamin C (L-Ascorbic Acid)
ปัญหาการแยกชั้นเมื่อผสม Butylene Glycol กับผง L-ascorbic acid เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยครับ สาเหตุเกิดจาก L-ascorbic acid มีข้อจำกัดในการละลายใน Butylene Glycol แม้ว่า Butylene Glycol จะช่วยในการกระจายตัวและเพิ่มความเสถียรในสูตรที่ไม่มีน้ำได้ แต่ก็ไม่ใช่ตัวทำละลายที่แรงพอที่จะทำให้ L-ascorbic acid ในปริมาณสูงละลายได้อย่างสมบูรณ์ตลอดเวลา ทำให้เมื่อตั้งทิ้งไว้ ผง Vitamin C ที่ไม่ละลายหรือแขวนลอยอยู่จะค่อยๆ ตกตะกอนลงมาครับ
มีแนวทางแก้ไขปัญหานี้ได้หลายวิธีครับ:
- ใช้ตัวทำละลายร่วม (Co-solvent): การเติมตัวทำละลายร่วมที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการละลายของ L-ascorbic acid เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพครับ Ethoxydiglycol เป็นตัวเลือกที่นิยมใช้สำหรับวัตถุประสงค์นี้ Ethoxydiglycol เข้ากันได้ดีกับ Glycol อย่าง Butylene Glycol และช่วยเพิ่มการละลายและความเสถียรของ L-ascorbic acid ในส่วนผสมได้อย่างมาก
- ใช้สารช่วยแขวนลอย (Suspending Agent): หากต้องการใช้ Vitamin C ในปริมาณสูง หรือต้องการใช้ Butylene Glycol เป็นหลัก สามารถเติมสารที่ช่วยเพิ่มความหนืดหรือสร้างโครงสร้างเจลเล็กน้อยในเนื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยแขวนลอยอนุภาคผง Vitamin C ไม่ให้ตกตะกอนได้ครับ
- ลดความเข้มข้นของ Vitamin C: การลดปริมาณ L-ascorbic acid ลงให้อยู่ในระดับที่ Butylene Glycol สามารถละลายหรือแขวนลอยได้อย่างเสถียรก็สามารถช่วยแก้ปัญหาได้เช่นกัน แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะหากต้องการใช้ Vitamin C ในความเข้มข้นสูง
จากปัญหาที่คุณพบ การใช้ตัวทำละลายร่วมอย่าง Ethoxydiglycol เป็นแนวทางที่แนะนำครับ Ethoxydiglycol ทำหน้าที่เป็นทั้งตัวทำละลายและตัวนำพา ช่วยเพิ่มการละลายของสารต่างๆ รวมถึง L-ascorbic acid และช่วยให้สารเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในสูตรได้ดีขึ้น Ethoxydiglycol สามารถละลายได้ในน้ำ เอทานอล และ Glycol ต่างๆ เช่น Butylene Glycol จึงเหมาะสำหรับส่วนผสมของคุณครับ
ข้อควรจำคือ ควรตรวจสอบอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Ethoxydiglycol ในผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on ซึ่งโดยทั่วไปไม่เกิน 2.6% ตามข้อกำหนดปัจจุบัน (โปรดตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุดก่อนนำไปใช้จริง)
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง
