การวิเคราะห์สูตรครีมลดฝ้า

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรนะคะ สูตรนี้มีส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพหลายตัวที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ลดฝ้าและปรับสีผิวให้กระจ่างใส เช่น Vitamin B3 (Niacinamide), Activated Resorcinol และ Kojic Acid Dipalmitate การผสมผสานส่วนผสมเหล่านี้ช่วยจัดการกับปัญหาเม็ดสีผิวผ่านกลไกที่หลากหลาย ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีในการรักษาฝ้าค่ะ

การประเมินสูตรและคำแนะนำ

1. ส่วนผสมออกฤทธิ์: ส่วนผสมออกฤทธิ์หลัก (Niacinamide, Activated Resorcinol, Kojic Acid Dipalmitate) ถูกเลือกมาอย่างดีสำหรับปัญหาฝ้า อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของ Kojic Acid Dipalmitate ที่ 3% ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับช่วงที่แนะนำทั่วไป (1-5%) และเมื่อรวมกับ Activated Resorcinol 1% (ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้) อาจเพิ่มความเสี่ยงในการระคายเคืองผิวได้ โดยเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย คุณอาจพิจารณาเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นของ Kojic Acid Dipalmitate ที่ต่ำลงเล็กน้อย (เช่น 1-2%) หากกังวลเรื่องการระคายเคือง หรือควรเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวลงในสูตรค่ะ

2. เนื้อผลิตภัณฑ์ (ครีม vs เจล): สูตรปัจจุบันของคุณมี Pro Polymer ซึ่งเป็นสารสร้างเนื้อเจล และมี Jojoba Oil แต่ ขาดสาร Emulsifier (สารประสานน้ำกับน้ำมัน) สาร Emulsifier มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างเนื้อครีมที่คงตัว ซึ่งเป็นอิมัลชันระหว่างเฟสน้ำและเฟสน้ำมัน หากไม่มีสาร Emulsifier เฟสน้ำมัน (Jojoba Oil) และเฟสน้ำ/เจล มีแนวโน้มที่จะแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป หากต้องการทำเป็นเนื้อครีมที่คงตัว คุณ ต้องเพิ่มสาร Emulsifier ชนิด O/W (oil-in-water) ที่เหมาะสม ลงในสูตรค่ะ

3. Active Protec: ในสูตรของคุณระบุว่าใช้ "Active Protec ox" แต่ลิงก์ที่คุณให้มาคือ "Active Protec UV" แม้ว่า Active Protec UV จะช่วยป้องกันรังสี UV และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ แต่คำอธิบายของ Activated Resorcinol ได้แนะนำให้ใช้ ActiveProtec™ OX ที่ความเข้มข้น 0.6% โดยเฉพาะ เพื่อช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีของ Activated Resorcinol การใช้ ActiveProtec™ OX จะเป็นประโยชน์มากกว่าหากเป้าหมายหลักของคุณคือการทำให้ Activated Resorcinol คงตัวและป้องกันการเปลี่ยนสีค่ะ

4. เปอร์เซ็นต์รวม: ผลรวมของเปอร์เซ็นต์ในสูตรของคุณคือ 101% คุณจะต้องปรับลดสัดส่วนของส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งลงเล็กน้อยเพื่อให้ผลรวมเท่ากับ 100% พอดีค่ะ

5. สารกันเสีย: สูตรมีสารกันเสีย 1% แต่ไม่ได้ระบุชนิดที่เฉพาะเจาะจง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารกันเสียที่คุณเลือกเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ และมีประสิทธิภาพในช่วง pH สุดท้ายของผลิตภัณฑ์ของคุณ

6. ค่า pH: ประสิทธิภาพและความคงตัวของส่วนผสมออกฤทธิ์ขึ้นอยู่กับค่า pH Activated Resorcinol ทำงานได้ดีที่สุดที่ pH ประมาณ 4.5-5.5 Niacinamide คงตัวที่ pH 3-8 (ดีที่สุด 4-7) Kojic Acid Dipalmitate คงตัวที่ pH 3-9 Active Protec OX ต้องการ pH สูงกว่า 4 คุณควรปรับค่า pH สุดท้ายของผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมด โดยทั่วไปควรอยู่ที่ประมาณ pH 4.5-5.5 หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว

วิธีการผสม (เพื่อทำเป็นเนื้อครีมที่คงตัว)

ในการสร้างเนื้อครีมที่คงตัว (อิมัลชัน) คุณจะต้องเพิ่มสาร Emulsifier และทำตามกระบวนการทำอิมัลชันมาตรฐาน นี่คือวิธีการทั่วไป:

1. เตรียมเฟสน้ำ (Water Phase): รวม น้ำ, Disodium EDTA, Niacinamide, Raffinose, Pro Polymer และ Active Protec (แนะนำเป็น OX เพื่อความคงตัว) ในบีกเกอร์ ให้ความร้อนเฟสนี้ตามอุณหภูมิที่กำหนดสำหรับสาร Emulsifier ที่คุณเลือกใช้ (โดยทั่วไปประมาณ 70-80°C)
2. เตรียมเฟสน้ำมัน (Oil Phase): ในบีกเกอร์แยกต่างหาก รวม Jojoba Oil, Activated Resorcinol, Kojic Acid Dipalmitate และ สาร Emulsifier ที่คุณเลือก ให้ความร้อนเฟสนี้ที่อุณหภูมิเดียวกับเฟสน้ำ (70-80°C) และคนเพื่อให้สารที่เป็นของแข็ง เช่น Kojic Acid Dipalmitate และ Activated Resorcinol ละลายจนหมด
3. การทำอิมัลชัน (Emulsification): ค่อยๆ เทเฟสน้ำมันที่ร้อนลงในเฟสน้ำที่ร้อน พร้อมกับกวนอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องกวนความเร็วสูง (เช่น เครื่องปั่นมือถือ หรือ homogenizer) เป็นเวลาหลายนาทีเพื่อให้เกิดอิมัลชัน หรืออาจเทเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมันก็ได้ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของสาร Emulsifier
4. การทำให้เย็น: ลดความเร็วในการกวนลง และกวนต่อไปเรื่อยๆ ขณะที่ส่วนผสมเย็นลงจนอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
5. เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: เมื่อเย็นลงแล้ว ให้เติมสารกันเสีย และส่วนผสมอื่นๆ ที่ไวต่อความร้อน หากยังไม่ได้เติมในขั้นตอนก่อนหน้า คนให้เข้ากัน
6. ปรับค่า pH: ตรวจสอบค่า pH ของครีม และปรับให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ (เช่น 4.5-5.5) โดยใช้สารละลายกรดหรือด่างที่เหมาะสม
7. ผสมขั้นสุดท้าย: กวนเบาๆ จนเนื้อครีมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

โปรดจำไว้ว่าวิธีการผสมที่เฉพาะเจาะจงอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของสาร Emulsifier และสารกันเสียที่ใช้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้จำหน่ายสำหรับส่วนผสมแต่ละตัวเสมอค่ะ

การเพิ่มสาร Emulsifier และพิจารณาใช้ ActiveProtec™ OX จะช่วยให้คุณสามารถสร้างครีมลดฝ้าจากสูตรของคุณที่มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ค่ะ