วิเคราะห์สูตร Estee Lauder Micro Essence และส่วนผสมหลัก

ถามโดย: cosmeceutical7 เมื่อ: April 05, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

จากการวิเคราะห์ที่ให้มา ส่วนผสมออกฤทธิ์หลักในสูตร Estee Lauder Micro Essence มีอะไรบ้าง และทำงานอย่างไร?

โปรดอธิบายบทบาทและหน้าที่ของส่วนผสมต่อไปนี้โดยละเอียด:

  • Bifida Ferment Lysate
  • Lactobacillus Ferment
  • Acetyl Hexapeptide-8
  • N-Acetyl Glucosamine
  • Betaine
  • Trehalose
  • Sodium Hyaluronate
  • Anthemis Nobilis (น้ำคาโมมายล์) / Alpha Bisabolol
  • Caffeine

นอกจากนี้:

  • Bifida Ferment Lysate แตกต่างจาก Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera) ของ SK-II อย่างไร?
  • บทบาทที่เป็นไปได้ของคาเฟอีนในสูตรนี้คืออะไร เมื่อพิจารณาถึงประสิทธิภาพที่ยังเป็นที่ถกเถียงสำหรับริ้วรอย/อาการบวม?

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตร Estee Lauder Micro Essence

สูตร Estee Lauder Micro Essence ดูเหมือนจะเป็นเอสเซนส์บำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งเน้นการฟื้นฟูผิว ความชุ่มชื้น และการต่อต้านริ้วรอย โดยมีเจตนาชัดเจนที่จะแข่งขันกับผลิตภัณฑ์อย่าง SK-II Facial Treatment Essence ส่วนผสมหลักที่ถูกเน้นในสูตรและการสนทนา ได้แก่:

  • Bifida Ferment Lysate (Repair Activator): เป็นส่วนผสมที่โดดเด่น ถูกระบุว่าเป็น "Repair Activator" จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ Bifida Ferment Lysate ได้มาจากการหมักแบคทีเรีย Bifido งานวิจัยชี้ว่าสามารถช่วยซ่อมแซม DNA ของผิวที่เสียหายจากแสง UV เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวโดยการเพิ่มการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ของเกราะป้องกันและเปปไทด์ต้านจุลชีพ และให้ผลในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ถูกวางตำแหน่งเป็นส่วนผสมหลักสำหรับการซ่อมแซมและเสริมสร้างผิว
  • Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera): แม้จะไม่ได้อยู่ในสูตรของ Estee แต่เป็นส่วนสำคัญในการเปรียบเทียบกับ SK-II Galactomyces Ferment Filtrate คือสารสกัดจากการหมักยีสต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการบำรุงและฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื้น มักถูกเรียกด้วยชื่อทางการค้าว่า Pitera
  • Lactobacillus Ferment: ส่วนผสมนี้ได้มาจากการหมักแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลคติก มีการแนะนำว่าช่วยสนับสนุนสุขภาพผิวโดยการกระตุ้นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการยึดเกาะของเซลล์ (Tight Junctions) ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนโดยการกระตุ้นเอนไซม์ที่สลายพันธะของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สนับสนุนการเจริญเติบโตของผิวชั้นนอก และกระตุ้นการสร้างเปปไทด์ต้านจุลชีพ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
  • Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline): รู้จักกันในชื่อ Argireline เปปไทด์นี้ถูกใส่เพื่อคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอย โดยเฉพาะความสามารถในการลดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของริ้วรอย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา มักใช้ในเซรั่มและครีมลดริ้วรอย
  • N-Acetyl Glucosamine (GlucoBright™): ส่วนผสมนี้ทำงานร่วมกับวิตามินบี 3 (Niacinamide) เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ รวมถึงกระตุ้นการผลิต Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวอ่อนนุ่มและชุ่มชื้น และอาจช่วยลดริ้วรอยได้ ยังให้ประโยชน์ในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
  • Betaine (Natural Betaine): สกัดจากต้น Sugar Beet Betaine เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว และสามารถลดการระคายเคืองที่เกิดจากส่วนผสมอื่นๆ ให้ความชุ่มชื้นที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • Trehalose (TreMoisture™): ไดแซ็กคาไรด์ตามธรรมชาติ Trehalose ทำหน้าที่เป็นสาร Humectant ดึงดูดและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันโดยการทำให้โปรตีนและไขมันในชั้นนอกของผิวคงตัว ยังให้การปกป้องจากการขาดน้ำและความเครียดจากอนุมูลอิสระ และอาจสนับสนุนการสมานแผล
  • Sodium Hyaluronate (Super-HYA™): เป็นรูปแบบหนึ่งของ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสาร Humectant ที่มีประสิทธิภาพสูง ดึงดูดและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ให้ความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูอิ่มฟู Sodium Acetylated Hyaluronate (เช่น Super-HYA™) มีข้อดีคือสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าเนื่องจากมีคุณสมบัติทั้งชอบน้ำมันและชอบน้ำ
  • Anthemis Nobilis (Chamomile Water) / Alpha Bisabolol: คาโมมายล์เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติในการปลอบประโลมและลดการระคายเคือง Alpha Bisabolol เป็นส่วนประกอบสำคัญในคาโมมายล์ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเพื่อให้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและลดการระคายเคืองที่มีประสิทธิภาพ น้ำคาโมมายล์เองก็ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ และช่วยให้ผิวรู้สึกสงบสบาย
  • Caffeine (Encapsulated Caffeine, Energy-Blend™): คาเฟอีนถูกใส่เพื่อประโยชน์เฉพาะที่หลายประการ รวมถึงคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และปกป้องผิวจากแสงแดด ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งเป็นเหตุผลที่มักใช้ในผลิตภัณฑ์ลดอาการบวม (เช่น รอบดวงตา) และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม การสนทนาที่คุณให้มาแสดงให้เห็นถึงความสงสัยเกี่ยวกับผลในการลดริ้วรอย และการทดสอบภายในของ MySkinRecipes ก็ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญทางสถิติในการลดอาการบวมใต้ตา

การเปรียบเทียบ: Bifida Ferment Lysate กับ Galactomyces Ferment Filtrate

การที่สูตรเน้น Bifida Ferment Lysate แสดงให้เห็นถึงแนวทางของ Estee Lauder ในการซ่อมแซมและเสริมสร้างผิว ซึ่งแตกต่างจาก SK-II ที่เน้นคุณสมบัติในการฟื้นฟูและให้ความชุ่มชื้นของ Galactomyces Ferment Filtrate ทั้งสองเป็นสารสกัดจากการหมักที่มีองค์ประกอบและกลไกการทำงานที่เสนอต่างกัน ดังที่คุณได้กล่าวไว้ การเปรียบเทียบประสิทธิภาพโดยรวมโดยตรงและเป็นอิสระนั้นทำได้ยากเนื่องจากขาดงานวิจัยที่ไม่ลำเอียง อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่มีอยู่:

  • Bifida Ferment Lysate: มุ่งเน้นการสนับสนุนกระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติของผิว โดยเฉพาะการซ่อมแซม DNA หลังจากการสัมผัสแสง UV และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวจากปัจจัยกดดันจากสิ่งแวดล้อม
  • Galactomyces Ferment Filtrate: มุ่งเน้นการปรับสภาพผิวโดยรวม ให้ความชุ่มชื้น และฟื้นฟู ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น

สูตรของ Estee มีการผสมผสานส่วนผสมต่างๆ (สารให้ความชุ่มชื้น สารลดการระคายเคือง เปปไทด์ต่อต้านริ้วรอย สารให้ความกระจ่างใส) ควบคู่ไปกับ Bifida Ferment Lysate และ Lactobacillus Ferment ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวทางที่หลากหลายในการดูแลสุขภาพผิว โดยมุ่งหวังที่จะให้ประโยชน์ที่ครอบคลุมนอกเหนือจากสารสกัดจากการหมักเพียงอย่างเดียว

บทบาทของคาเฟอีน

ข้อสังเกตของคุณเกี่ยวกับการมีคาเฟอีนน่าสนใจ แม้ว่างานวิจัยบางชิ้นจะชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และปกป้องผิวจากแสงแดด แต่ประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยหรืออาการบวมใต้ตายังคงเป็นที่ถกเถียง ดังที่คำตอบของเจ้าหน้าที่ที่คุณแบ่งปันก็ระบุไว้ อาจถูกใส่เพื่อคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ หรือประโยชน์ที่อาจมี (แม้จะยังไม่ได้รับการพิสูจน์สำหรับริ้วรอย/อาการบวม) หรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสมรวม (เช่น Energy-Blend™ ที่รวมคาเฟอีนกับ Adenosine และวิตามินบี 3 เพื่อผลในการกระตุ้น)

โดยสรุป สูตร Estee Lauder Micro Essence เป็นการผสมผสานที่ซับซ้อนซึ่งใช้เทคโนโลยีการหมัก (Bifida และ Lactobacillus ferments) เพื่อการซ่อมแซมผิวและสนับสนุนเกราะป้องกัน ควบคู่ไปกับส่วนผสมออกฤทธิ์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น Acetyl Hexapeptide-8, N-Acetyl Glucosamine, Betaine, Trehalose และ Hyaluronic Acid เพื่อให้ความชุ่มชื้น ต่อต้านริ้วรอย และทำให้ผิวกระจ่างใส การมีคาเฟอีนเพิ่มประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้ว่าบทบาทเฉพาะในการลดริ้วรอยหรืออาการบวมจะยังไม่ชัดเจนนักจากข้อมูลที่มีอยู่และการทดสอบภายใน.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Natural Betaine (Crystal)
Natural Betaine (Crystal)
เครื่องสำอาง
TreMoisture™ (Trehalose)
TreMoisture™ (Trehalose)
เครื่องสำอาง
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
เครื่องสำอาง
Chamomile Water (Anthemis Nobilis)
Chamomile Water (Anthemis Nobilis)
เครื่องสำอาง
Bisabolol (Alpha Bisabolol, Bisabolol RAC)
Bisabolol (Alpha Bisabolol, Bisabolol RAC)
เครื่องสำอาง
Encapsulated Caffeine (50% Caffeine Active)
Encapsulated Caffeine (50% Caffeine Active)
เครื่องสำอาง
Lactobacillus Ferment Lysate
Lactobacillus Ferment Lysate
เครื่องสำอาง
Energy-Blend™ (Caffeine+Adenosine+Vitamin B3)
Energy-Blend™ (Caffeine+Adenosine+Vitamin B3)
เครื่องสำอาง
Super-HYA™ (Sodium Acetylated Hyaluronate, AcHA)
Super-HYA™ (Sodium Acetylated Hyaluronate, AcHA)
เครื่องสำอาง
MYFerment™ Exfo (Lactobacillus Ferment Lysate)
MYFerment™ Exfo (Lactobacillus Ferment Lysate)
เครื่องสำอาง