สอบถามการทำสูตร: Tranexamic Acid ในกันแดด, สารสกัดผิวใส, ครีมบำรุงหลายปัญหา, และกลยุทธ์การใช้ส่วนผสม
ถามโดย: orjira.p
เมื่อ: May 11, 2015
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการทำสูตรเครื่องสำอางหลายข้อ ดังนี้ค่ะ:
- Tranexamic acid สามารถใส่ในสูตรกันแดดได้หรือไม่คะ และมีปัญหาในการใช้ร่วมกับ SPF Ultra Protect และ Mattesilica หรือเปล่าคะ
- ในกลุ่มสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ ระหว่าง French Pink Bark Extract 95 กับ Centella Asiatica Extract (Madecassoside) ตัวไหนเหมาะสมกว่ากันคะ (ทราบว่า Centella เน้นลดริ้วรอยมากกว่า) และสารสกัดทั้งสองตัวมีผลทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์สีเข้มขึ้นมากน้อยแค่ไหนคะ
- สำหรับครีมที่เน้นลดริ้วรอย ผิวกระชับ ลดสิวอุดตัน ผิวขาวใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และต้องการให้เหมาะกับทุกสภาพผิว ควรใช้ส่วนผสมหลักตัวใดบ้างคะ
- การใช้ส่วนผสมหลักตัวเดียวกันในครีมกลางวันและครีมกันแดด (หรือครีมกลางคืน) ในอัตราส่วนเท่ากัน มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างคะ
- สามารถแบ่งปริมาณความเข้มข้นรวมของส่วนผสมที่แนะนำให้ใช้ ทาเป็นสองครั้งต่อวัน (เช่น ครึ่งหนึ่งตอนเช้า ครึ่งหนึ่งตอนกลางคืน) ได้หรือไม่คะ และการทำแบบนี้จะให้ผลดีกว่าการทาความเข้มข้นสูงเพียงครั้งเดียวหรือไม่คะ
คำตอบ
สรุปประเด็นการสนทนาเกี่ยวกับส่วนผสมและการผสมสูตรเครื่องสำอาง มีดังนี้:
- Tranexamic acid ในสูตรกันแดด: Tranexamic acid สามารถใส่ในสูตรกันแดดได้ ไม่มีปัญหาในการใช้ร่วมกับ SPF Ultra Protect และ Mattesilica
- สารสกัดธรรมชาติเพื่อผิวขาวกระจ่างใส/ลดจุดด่างดำ: ในกลุ่มสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ French Pink Bark Extract 95 ดูจะมีชื่อเสียงด้านนี้มากกว่า Centella Asiatica Extract (Madecassoside) ซึ่งเน้นไปทางลดริ้วรอยมากกว่า อย่างไรก็ตาม สารสกัดทั้งสองตัวมีสีเข้ม อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์สีเข้มขึ้นได้
- คำแนะนำสำหรับปัญหาผิวต่างๆ: สำหรับครีมที่เน้นลดริ้วรอย ผิวกระชับ ลดสิวอุดตัน ผิวขาวใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และเหมาะกับทุกสภาพผิว มีการแนะนำ Active Resveratrol™ (ซึ่งอาจเป็นสารสังเคราะห์) นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึง French Pink Bark และ Alpha Arbutin (ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์) ในบริบทของการปรับผิวให้กระจ่างใส
- การใช้ส่วนผสมหลักซ้ำกันในครีมกลางวัน/กลางคืน: การใช้ส่วนผสมหลักตัวเดียวกันในครีมกลางวันและครีมกันแดด (หรือครีมกลางคืน) ในอัตราส่วนเท่ากัน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากเป็นสารที่ระคายเคือง อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น หากเป็นสารบำรุงผิว อาจมีขีดจำกัดในการทำงานของผิว การใช้ปริมาณมากขึ้นอาจไม่ได้ให้ผลดีเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน
- การแบ่งความเข้มข้นของส่วนผสม: สามารถแบ่งปริมาณความเข้มข้นรวมของส่วนผสมที่แนะนำให้ใช้ ทาเป็นสองครั้งต่อวัน (เช่น ครึ่งหนึ่งตอนเช้า ครึ่งหนึ่งตอนกลางคืน) ได้ ซึ่งการทาในความเข้มข้นต่ำแต่ทาบ่อยครั้งกว่า อาจให้ประโยชน์มากกว่าการทาความเข้มข้นสูงเพียงครั้งเดียว