นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับคำถามของคุณเกี่ยวกับส่วนผสมเครื่องสำอาง:

การเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์

สำหรับ Retinal, Activated Resorcinol S (ชนิดละลายน้ำ), Pro Niacin (Myristyl Nicotinate) และ MSH White (Undecylenoyl phenylalanine) สามารถใช้ Phospholipid ที่ความเข้มข้น 3% เป็นสารช่วยนำพา (penetration enhancer) เพื่อช่วยนำพาส่วนผสมเหล่านี้เข้าสู่ผิวและเพิ่มประสิทธิภาพได้ Phospholipid เช่น Hydrogenated Lecithin สามารถสร้างไลโปโซมที่ช่วยในการดูดซึมของส่วนประกอบทั้งที่ละลายน้ำและละลายในน้ำมัน

การผสมผง L-Ascorbic Acid กับน้ำโดยตรง

คุณสามารถผสมผง L-Ascorbic Acid (เช่น เกรด Fine หรือ Ultra-Fine) กับน้ำบริสุทธิ์สูงโดยตรงเพื่อใช้ในระยะสั้น เช่น 3 วันได้ อย่างไรก็ตาม L-Ascorbic Acid ไม่เสถียรมากเมื่อละลายในน้ำ และการดูดซึมเข้าสู่ผิวจะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสูตรที่ใช้เบสอื่น เพื่อความเสถียรที่ดีขึ้น สูตรควรมีค่า pH ต่ำ (เหมาะสมที่สุดคือระหว่าง 2.0-4.0 แต่ อย. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ทาบนผิวมี pH อย่างน้อย 3.5) และควรใส่ Disodium EDTA เพื่อช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพที่เกิดจากไอออนของโลหะ

ความพร้อมจำหน่ายของ Magnesium Ascorbyl Phosphate

ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนนำ Magnesium Ascorbyl Phosphate เข้ามาจำหน่าย สาเหตุหลักมาจากความยุ่งยากในการปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เสถียร (pH 7-9) ระหว่างการผสม ซึ่งอาจทำให้คุณภาพเสื่อมลงหากดำเนินการไม่ถูกต้อง Ascorbyl Glucoside (AA2G) ถือเป็นทางเลือกที่มีความเสถียรมากกว่า แม้ว่าจะยังคงต้องมีการปรับค่า pH อย่างระมัดระวัง (pH 6.5-6.8) และมีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อนกว่าอนุพันธ์วิตามินซีรูปแบบอื่น

RETINAT™ (สารสกัดจากปลาดาว) สำหรับสิวอุดตัน

RETINAT™ (สารสกัดจากปลาดาว) มีคุณสมบัติเด่นด้านการต่อต้านริ้วรอย เช่น การลดเลือนริ้วรอย การเพิ่มความยืดหยุ่น ความกระชับ และความชุ่มชื้นของผิว ซึ่งคล้ายคลึงกับผลของ Retinol และ Retinal แต่ไม่มีอาการระคายเคือง จากข้อมูลที่มีอยู่ RETINAT™ ไม่ได้ระบุหรือแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพเฉพาะในการรักษาสิวอุดตัน แม้ว่า Retinal จะเป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินเอที่สามารถช่วยเรื่องสิวและสิวอุดตันได้ แต่คุณสมบัติของ RETINAT™ ที่อธิบายไว้เน้นไปที่การต่อต้านริ้วรอยและการปรับปรุงสภาพผิว