สอบถามเกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบน้ำหอม: การใช้งาน, การเจือจาง และการติดฉลาก
คำถาม
รบกวนสอบถามดังนี้ครับ:
- องค์ประกอบนำ้หอมบางตัวที่มีลักษณะเป็นผงผลึก เช่น Coumarin เราสามารถจะนำมา Blend กับกลิ่นอื่นได้โดยตรงเลยไหม (เคยเห็นในบอร์ดฝรั่งเค้าเอามา Diluted กับ DPG ก่อน) รบกวนแนะนำวิธีใช้งานด้วย.
- Methyl Benzoate กับ Methyl Benzoate 1% in DPG ใช้งานต่างกันอย่างไร (ราคาเท่ากัน).
- ในฉลากส่วนผสมของนำ้หอมหลายๆยี่ห้อ นอกจากมี Perfume แล้ว จะมีพวก Benzyl Benzoate กับ Benzyl Salicylate แตกออกมาอีก (จริงๆมีพวก Linalool, Eugenol ด้วย) อยากทราบว่าส่วนผสมพวกนี้ทำหน้าที่อะไร และถ้าเราจะผลิตเพื่อจำหน่ายจริงๆจำเป็นต้องใส่หรือไม่.
คำตอบ
การใช้วัตถุดิบน้ำหอม
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับวัตถุดิบน้ำหอม:
1. การใช้วัตถุดิบที่เป็นผลึก เช่น Coumarin
สำหรับวัตถุดิบน้ำหอมที่เป็นผลึก เช่น Coumarin ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการเจือจางก่อนนำไปผสมโดยตรงกับน้ำมันหอมอื่นๆ เนื่องจาก:
- การละลาย: วัตถุดิบที่เป็นผลึกจำเป็นต้องละลายเพื่อให้กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งส่วนผสมน้ำหอม
- การใช้งาน: การทำงานกับผงปริมาณน้อยอาจทำได้ยากในการตวงให้แม่นยำและผสมให้เข้ากันอย่างราบรื่น
- ความเข้มข้น: วัตถุดิบเหล่านี้มักมีความเข้มข้นสูง การเจือจางจะช่วยให้ควบคุมความเข้มข้นในการผสมขั้นสุดท้ายได้ง่ายขึ้น
การเจือจางด้วยตัวทำละลาย เช่น DPG (Dipropylene Glycol) หรือแอลกอฮอล์สำหรับน้ำหอม เป็นวิธีปฏิบัติมาตรฐาน การเจือจางที่พบบ่อยคือ 10% หรือ 20% ใน DPG แต่การเจือจางที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับวัตถุดิบเฉพาะและการละลายของมัน
2. Methyl Benzoate กับ Methyl Benzoate 1% in DPG แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างอยู่ที่ความเข้มข้นและความสะดวกในการใช้งาน:
- Methyl Benzoate: นี่คือรูปแบบบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นของวัตถุดิบ ใช้เมื่อคุณต้องการความเข้มข้นสูงในสูตรน้ำหอมของคุณ หรือเมื่อคุณต้องการสร้างการเจือจางเฉพาะของคุณเอง
- Methyl Benzoate 1% in DPG: นี่คือสารละลายที่เจือจางไว้ล่วงหน้าซึ่งมี Methyl Benzoate 1% ใน Dipropylene Glycol รูปแบบนี้ง่ายต่อการตวงและใช้งานมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการ Methyl Benzoate ในปริมาณน้อยมากในสูตรของคุณ สะดวกสำหรับผู้เริ่มต้นหรือสำหรับการเพิ่มปริมาณเล็กน้อย
แม้ว่าราคาต่อปริมาตรหรือน้ำหนักอาจเท่ากัน แต่คุณจะได้รับปริมาณสารออกฤทธิ์ในสารละลาย 1% น้อยกว่าอย่างมาก เลือกรุ่นบริสุทธิ์เพื่อความยืดหยุ่นและความคุ้มค่าเมื่อใช้ปริมาณมาก และเลือกรุ่นที่เจือจางเพื่อความสะดวกเมื่อใช้ปริมาณน้อย
3. บทบาทของ Benzyl Benzoate, Benzyl Salicylate, Linalool และ Eugenol ในน้ำหอม
วัตถุดิบเช่น Benzyl Benzoate, Benzyl Salicylate, Linalool และ Eugenol มีบทบาทหลายอย่างในสูตรน้ำหอม:
- ส่วนประกอบของกลิ่น: แต่ละตัวมีส่วนช่วยให้กลิ่นเฉพาะตัวแก่ส่วนผสมน้ำหอมโดยรวม
- ตัวทำละลาย/ตัวพา: บางตัว เช่น Benzyl Benzoate สามารถทำหน้าที่เป็นตัวทำละลาย ช่วยละลายวัตถุดิบน้ำหอมอื่นๆ ที่ละลายได้ยาก
- สารตรึงกลิ่น (Fixatives): สามารถช่วย 'ตรึง' หรือยืดอายุความหอมบนผิวโดยลดอัตราการระเหยของส่วนประกอบที่ระเหยง่ายกว่า
- การติดฉลากสารก่อภูมิแพ้: หลายตัวเป็นส่วนประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในน้ำมันหอมระเหย หรือเป็นสารเคมีน้ำหอมทั่วไปที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้ กฎระเบียบในหลายภูมิภาคกำหนดให้สารเคมีเหล่านี้ต้องระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์หากมีอยู่เกินความเข้มข้นที่กำหนด แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสม 'Perfume' หรือ 'Fragrance' ก็ตาม นี่คือเพื่อความปลอดภัยและความโปร่งใสสำหรับผู้บริโภค
การที่คุณ จำเป็น ต้องใส่หรือไม่ในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของกลิ่นที่คุณต้องการและข้อกำหนดด้านกฎระเบียบในตลาดที่คุณวางแผนจะจำหน่าย หากส่วนผสมน้ำหอมที่คุณเลือกมีส่วนประกอบเหล่านี้อยู่ตามธรรมชาติ (เช่น จากน้ำมันหอมระเหย) หรือหากคุณเพิ่มเข้าไปเพื่อกลิ่นหรือคุณสมบัติในการทำงาน คุณอาจต้องระบุไว้บนฉลากตามข้อกำหนด
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Linalool (FEMA-2635)

Methyl Benzoate (FEMA-2683)

Methyl Benzoate 1% in DPG

Benzyl Benzoate (FEMA-2138)

Benzyl Salicylate

Eugenol (FEMA-2467)
