สอบถามเกี่ยวกับการใช้ Retinal (Retinaldehyde) ในสูตรครีม

ถามโดย: best_singnontad เมื่อ: July 13, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ Retinal (Retinaldehyde) ในสูตรครีมค่ะ:

  1. ห้ามทา Retinal ตอนกลางวัน ห้ามโดนแสง แสงแดด ทำให้ผิวไวต่อแสง และผิวบางลง ดำง่าย จริงไหมคะ
  2. ครีมที่ส่วนผสมของ Retinal ทำให้ผิวแห้งจริงไหมคะ
  3. ห้ามทา Retinal ร่วมกับ AHA, BHA หรือสารผลัดเซลล์ผิวชนิดอื่นๆ เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองมากเกินไป แม้จะเป็นคนละช่วงเวลากัน ควรเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่ง ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง จริงไหมคะ
  4. [คำถามข้อ 4 ไม่มีในประวัติการสนทนาที่ให้มา]
  5. หน้าซื้อขายจัดให้ Retinal อยู่ในหมวด anti-aging แต่เห็นว่าคนส่วนใหญ่ใช้เพื่อลดสิวอุดตัน และยังช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวได้ด้วย จริงหรือเปล่าคะ
  6. บางคนบอกว่า ทา Retinal อาจจะรู้สึกแสบร้อนบ้างเป็นธรรมดาที่สารออกฤทธิ์ อาจจะมีผิวลอกบ้าง ไม่ต้องตกใจ แต่ดิฉันไม่รู้สึกอะไรเลย 0.1% ที่ปรุงใช้ สงสัยว่าที่ไม่รู้สึกอะไร เพราะเปอร์เซ็นต์มันต่ำ แล้วตกลงมันจะได้ผลกับผิวดิฉันไหมคะ ในเมื่อเปอร์เซ็นต์ 0.1 ผิวดิฉันไม่รู้สึกระคายเคืองใดๆเลย ดิฉันสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ Retinal ให้สูงขึ้นทีละนิดๆได้ไหม เหมือนการค่อยๆเพิ่ม AHA ให้มีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นถ้าหากว่าผิวเรายังรับได้
  7. สารข้างล่างนี้ มีสารตัวใดที่มีโอกาสอุดตันผิวบ้างไหมคะ:
    • Vitamin B3 (Safe-B3™) 3%
    • N-Acetyl-D-glucosamine (GlucoBright™) 4%
    • FloraSolve 5%
    • LipidSoft Dry 15%
    • Satin Cream Maker™ 1%
    • สารกันเสีย 1.0%
    • Vitamin E Acetate 0.1% (ช่วยเพิ่มความเสถียรและยืดอายุให้กับ Vitamin A)
  8. LipidSoft Dry สินค้าจะเข้าเมื่อไหร่คะ

คำตอบ

หัวข้อ: กังวลเรื่องการใช้ Retinal (หรือเรียกว่า Retinaldehyde)

ขอบคุณสำหรับคำถามที่ละเอียดเกี่ยวกับการปรุงครีม Retinal ใช้เองนะคะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณใส่ใจและระมัดระวังในการใช้สารออกฤทธิ์ตัวนี้ จากคำถามของคุณและคำตอบของทีมงาน ขอสรุปข้อมูลดังนี้ค่ะ

  1. การทากลางวัน, ผิวไวต่อแสง, และผิวบางลง: เป็นความจริงที่การใช้ Retinal ในความเข้มข้นสูงอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้นและทำให้ผิวบางลงได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้ผลิตแนะนำความเข้มข้นสูงสุดไม่เกิน 0.1% สำหรับใช้ในเครื่องสำอาง แม้ว่าที่ความเข้มข้น 0.1% จะระคายเคืองน้อยกว่า Retinoid ชนิดที่แรงกว่าอย่าง Tretinoin แต่ก็ยังคงแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Retinal ในเวลากลางคืน และทาครีมกันแดดแบบ Broad-spectrum เป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องผิวค่ะ

  2. ครีม Retinal ทำให้ผิวแห้ง: อาการผิวแห้งอาจเกิดขึ้นได้หากผิวเกิดการระคายเคืองหรือลอก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ Retinal ในความเข้มข้นที่สูงเกินไปสำหรับผิวของคุณ หรือใช้บ่อยเกินไป โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เริ่มใช้ ที่ความเข้มข้น 0.1% ตามที่แนะนำ อาการผิวแห้งพบน้อยกว่า เว้นแต่คุณมีผิวที่บอบบางมาก หรือใช้ร่วมกับสารอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

  3. ห้ามทาร่วมกับ AHA/BHA หรือสารผลัดเซลล์ผิวอื่นๆ: โดยทั่วไปแล้ว ไม่แนะนำให้ใช้ Retinal ร่วมกับ AHA, BHA หรือสารผลัดเซลล์ผิวที่แรงอื่นๆ แม้ว่าจะทาคนละช่วงเวลากันก็ตาม การใช้สารเหล่านี้ร่วมกันอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคือง แดง และผิวแห้งมากเกินไป ควรเลือกใช้สารผลัดเซลล์ผิว/ช่วยผลัดเซลล์ผิวเพียงชนิดเดียว หรือหากต้องการใช้สลับกัน ควรทำด้วยความระมัดระวังและดูว่าผิวของคุณรับได้หรือไม่

  4. ผลต่อตับ: ความกังวลเกี่ยวกับผลต่อตับมักเกี่ยวข้องกับ Retinoid ชนิดรับประทาน (เช่น Isotretinoin) ซึ่งเป็นยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์และมีการดูดซึมเข้าสู่ระบบร่างกายสูง Retinoid ชนิดทาภายนอกอย่าง Retinal มีการดูดซึมเข้าสู่ระบบร่างกายน้อยมากเมื่อใช้ตามคำแนะนำในเครื่องสำอาง (ไม่เกิน 0.1%) ดังนั้น การใช้ Retinal แบบทาภายนอกโดยทั่วไปจึงไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาตับค่ะ

  5. ลดสิวอุดตัน/รอยแผลเป็นจากสิว นอกเหนือจาก Anti-aging: แม้ว่า Retinal จะเป็นสาร Anti-aging ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็สามารถใช้เพื่อลดสิวอุดตันและช่วยปรับปรุงสภาพผิว ซึ่งอาจช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิวได้ด้วยค่ะ Retinoid ทำงานโดยช่วยส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นปกติและป้องกันการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในด้าน Anti-aging และการรักษาสิว

  6. ไม่รู้สึกระคายเคืองที่ 0.1% / ประสิทธิภาพ / การเพิ่มความเข้มข้น: เป็นเรื่องปกติและมักจะเป็นผลดีที่คุณไม่รู้สึกแสบร้อน แดง หรือผิวลอกอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้ Retinal ที่ความเข้มข้น 0.1% Retinal ที่ใช้ในเครื่องสำอางที่ความเข้มข้น 0.1% ถูกพัฒนามาเพื่อให้มีประสิทธิภาพโดยมีการระคายเคืองน้อยถึงไม่มีเลย ซึ่งแตกต่างจาก Retinoid ชนิดที่ต้องสั่งโดยแพทย์อย่าง Tretinoin การที่ไม่รู้สึกระคายเคือง ไม่ได้ หมายความว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีประสิทธิภาพ ความเข้มข้น 0.1% ของ Retinal ถือเป็นความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ประโยชน์ตามที่ต้องการ (Anti-aging, ปรับปรุงสภาพผิว, ช่วยเรื่องสิวอุดตัน) การเพิ่มความเข้มข้นให้สูงกว่าที่ผู้ผลิตแนะนำที่ 0.1% โดยทั่วไปไม่แนะนำ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงของการระคายเคืองและผลข้างเคียงอย่างมาก โดยที่อาจไม่ได้ให้ประโยชน์เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนสำหรับการใช้ในเครื่องสำอางค่ะ ควรใช้ตามความเข้มข้นที่แนะนำ

  7. สารในสูตรมีโอกาสอุดตันผิวหรือไม่: จากคำตอบของทีมงาน สารประกอบในสูตรของคุณโดยทั่วไปไม่ถือว่าเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน (comedogenic) อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของผิวแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป และบางครั้งสารที่ปกติไม่ก่อให้เกิดการอุดตันก็อาจทำให้เกิดปัญหาสำหรับบางคนได้ค่ะ

  8. LipidSoft Dry สินค้าเข้าเมื่อไหร่: ตามข้อมูลจากทีมงาน คาดว่า LipidSoft Dry จะมีสินค้าเข้าประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนหน้าค่ะ

เป็นเรื่องที่ดีที่คุณใช้ Retinal เพื่อดูแลปัญหาขนคุด Retinoid เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสภาพผิวนี้ เนื่องจากช่วยปรับการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวภายในรูขุมขนให้เป็นปกติ อาการเหนียวเหนอะหนะที่คุณพบ น่าจะมาจากการที่ไม่ได้ใส่ LipidSoft Dry ซึ่งจะช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของครีมค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยคลายความกังวลของคุณนะคะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Dry
LipidSoft™ Dry
เครื่องสำอาง
Retinal (Retinaldehyde)
Retinal (Retinaldehyde)
เครื่องสำอาง