การทบทวนกระบวนการทำครีมซิลิโคนของคุณ

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรและขั้นตอนการทำนะครับ/คะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณได้ทดลองทำครีมเบสซิลิโคนโดยใช้ Warp Cream Maker จากขั้นตอนที่คุณให้มาและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ นี่คือการทบทวนและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงกระบวนการของคุณครับ/ค่ะ:

การทบทวนรายการส่วนผสม

รายการส่วนผสมของคุณดูเหมาะสมสำหรับการทำอิมัลชันแบบซิลิโคนในน้ำ (W/Si) หรือน้ำในซิลิโคน (W/Si) โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย เปอร์เซ็นต์รวมกันได้ 100% ซึ่งถูกต้อง สารกันเสีย จำเป็นต้อง รวมอยู่ในเปอร์เซ็นต์รวมของสูตรทั้งหมดของคุณ เพื่อให้แน่ใจในความเสถียรและความปลอดภัยครับ/ค่ะ

• Nanowhite (5%): หากเป็นสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้ ควรใส่ในส่วนของน้ำ อย่างไรก็ตาม สารออกฤทธิ์หลายชนิดไวต่อความร้อนครับ/ค่ะ
• Hyaluronic Acid (0.1%): เป็นความเข้มข้นที่ดีสำหรับการให้ความชุ่มชื้น ตามที่ระบุในรายละเอียดผลิตภัณฑ์และโดยเจ้าหน้าที่ การละลายผง Hyaluronic Acid ต้องใช้เวลาและมักจะต้องแช่เย็นเพื่อให้ละลายและขึ้นเจลอย่างสมบูรณ์ ควรใส่ในส่วนของน้ำครับ/ค่ะ
• Azelaic Acid (10%): รูปแบบของเหลว (เช่น Liquid Azelaic™) ละลายน้ำได้ อย่างไรก็ตาม สารนี้และสารออกฤทธิ์อื่นๆ อีกหลายชนิด (เช่น Copper Peptide และ Nanowhite) ไวต่อความร้อน และควรใส่ หลังจาก อิมัลชันก่อตัวและเย็นลงแล้วครับ/ค่ะ
• Copper Peptide (3%): หากใช้ในรูปแบบสารละลาย 3% อยู่ในช่วงที่แนะนำ Copper Peptide ไวต่อความร้อน และควรใส่ หลังจาก อิมัลชันก่อตัวและเย็นลงแล้วครับ/ค่ะ
• Silicone Gel Base (5%) และ Cyclomethicone (20%): ส่วนนี้เป็นส่วนของซิลิโคน Cyclomethicone (เช่น Cyclopentasiloxane) เป็นเบสที่นิยมใช้ในเจลและอิมัลชันซิลิโคนครับ/ค่ะ
• Water (51.9%): ส่วนประกอบหลักของส่วนของน้ำครับ/ค่ะ
• Warp Cream Maker (5%): เป็นสารประสานเนื้อ (emulsifier) ชนิดน้ำในซิลิโคน ช่วยรวมส่วนของน้ำและส่วนของซิลิโคนเข้าด้วยกันครับ/ค่ะ

ขั้นตอนการทำสูตรที่แนะนำ

จากลักษณะของส่วนผสมและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ นี่คือกระบวนการที่ปรับปรุงแล้วครับ/ค่ะ:

1. เตรียมส่วนของน้ำ: ผสมน้ำกับ Hyaluronic Acid คนให้เข้ากันดี แล้วนำไปแช่เย็นเป็นเวลาหลายชั่วโมง (หรือข้ามคืน) จนกว่า Hyaluronic Acid จะละลายและขึ้นเจลเป็นเนื้อเดียวกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าละลายหมดก่อนดำเนินการต่อครับ/ค่ะ
2. เตรียมส่วนของซิลิโคน: ผสม Cyclomethicone, Silicone Gel Base และ Warp Cream Maker เข้าด้วยกัน ค่อยๆ อุ่นส่วนผสมนี้ (ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ไม่ต้องต้ม) เพื่อช่วยให้ Warp Cream Maker ละลายเข้ากับส่วนของซิลิโคนได้อย่างสมบูรณ์ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลา 10-15 นาทีพร้อมกับการคนครับ/ค่ะ
3. การทำอิมัลชัน: ขั้นตอนนี้สำคัญมากสำหรับ Warp Cream Maker ทั้งส่วนของน้ำและส่วนของซิลิโคนควรมีอุณหภูมิใกล้เคียงกัน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 70-80°C ก่อนนำมาผสมกัน (แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะกล่าวถึงการอุ่นส่วนซิลิโคน แต่การทำอิมัลชัน W/Si แบบดั้งเดิมมักใช้ความร้อนกับทั้งสองส่วน) การใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง (อย่างน้อย 1000 รอบต่อนาที) เป็นสิ่งจำเป็น ขณะที่ปั่นส่วนของซิลิโคน ให้ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง เป็นหยดๆ หรือเป็นสายเล็กๆ ปั่นด้วยความเร็วสูงต่อไปจนกว่าอิมัลชันจะก่อตัวและเป็นเนื้อเดียวกันครับ/ค่ะ
4. การทำให้เย็น: ปั่นต่อไปในขณะที่อิมัลชันกำลังเย็นลง ซึ่งจะช่วยให้เนื้อครีมมีความเสถียรครับ/ค่ะ
5. เติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนและสารกันเสีย: เมื่ออิมัลชันเย็นลงต่ำกว่า 40°C แล้ว ให้เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนของคุณ ได้แก่ Azelaic Acid, Copper Peptide, Nanowhite (หากไวต่อความร้อน) และสารกันเสียของคุณ ผสมให้เข้ากันดีจนกระจายตัวสม่ำเสมอครับ/ค่ะ
6. การปรับค่าสุดท้าย (ถ้าจำเป็น): ตรวจสอบค่า pH หากจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับ Azelaic Acid (5-11) และ Copper Peptide (4.5-7.4) ปรับค่า pH หากจำเป็น แม้ว่าการเติมสารเหล่านี้ในขั้นตอนสุดท้ายจะช่วยรักษาความเสถียรของพวกมันได้ครับ/ค่ะ
7. การจัดเก็บ: ปั่นต่อไปจนเย็นสนิท การนำไปแช่เย็นข้ามคืนสามารถช่วยให้เนื้อสัมผัสเซ็ตตัวได้ดียิ่งขึ้นตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวไว้ แต่เนื้อครีมก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้วเมื่ออิมัลชันมีความเสถียรและเติมส่วนผสมต่างๆ ครบถ้วนครับ/ค่ะ

เกี่ยวกับสารกันเสีย

ใช่ครับ/ค่ะ สารกันเสีย จำเป็นต้อง รวมอยู่ในสูตรของคุณและคำนวณเป็นส่วนหนึ่งของ 100% ทั้งหมด พวกมันจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสูตรที่มีน้ำและส่วนผสมอย่าง Hyaluronic Acid ซึ่งสามารถเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายหากไม่มีสารกันเสีย ใส่สารกันเสียในอัตราที่แนะนำสำหรับชนิดที่คุณเลือกในขั้นตอนการทำให้เย็นขั้นสุดท้าย (ขั้นตอนที่ 5) ครับ/ค่ะ

ขั้นตอนเริ่มต้นของคุณเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และการนำคำแนะนำของเจ้าหน้าที่มารวมกับเทคนิคการทำอิมัลชันที่ถูกต้องสำหรับ Warp Cream Maker และการเติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนในขั้นตอนที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ/ค่ะ