สอบถาม Cream Maker ที่เข้ากับ Water Capsule เพื่อให้ได้เนื้อหนัก และเปรียบเทียบ WaterLock กับ Water Capsule ด้านความชุ่มชื้น

ถามโดย: jn_andy เมื่อ: March 06, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

จากข้อมูลที่ว่า Rich Cream Maker ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Water Capsule ได้ มีคำถามเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ:

  1. จะใช้ cream maker ตัวไหนแทน Rich Cream Maker ที่สามารถใช้ร่วมกับ Water Capsule ได้ และยังคงให้เนื้อครีมที่หนักใกล้เคียงกับการทำครีมด้วย Rich Cream Maker
  2. การใช้ WaterLock จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ใกล้เคียงหรือแตกต่างกันอย่างไรกับการใช้ Water Capsule และหากนำ WaterLock ไปเพิ่มในครีมที่ใช้อยู่ซึ่งทำจาก Rich Cream Maker จะได้ผลลัพธ์ด้านความชุ่มชื้นเทียบเท่ากับการใช้ Water Capsule หรือไม่คะ

คำตอบ

จากข้อมูลการสนทนาที่ผ่านมา:

  • เกี่ยวกับการสร้างเนื้อครีมด้วย Pro Polymer (ID 234): ความเข้าใจของคุณถูกต้องค่ะ สำหรับการคนด้วยมือ ให้สร้างเนื้อเจลก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เติมส่วนของน้ำมันลงไปแล้วคนให้เข้ากัน แต่หากใช้เครื่องปั่น สามารถผสมทุกอย่างลงไปพร้อมกันแล้วปั่นได้เลยค่ะ การอุ่นสูตรเล็กน้อย (40-50°C) จะช่วยให้ Pro Polymer ละลายและสร้างเนื้อได้เร็วขึ้นเมื่อคนด้วยมือค่ะ
  • เกี่ยวกับ Water Capsule (ID 666) เทียบกับ Water-in-Oil EZ (ID 726): ความเข้าใจของคุณถูกต้องค่ะ Water Capsule จำเป็นต้องใช้ Cream Maker ตัวอื่นมาช่วยสร้างเนื้อสูตรหลัก เนื่องจากหน้าที่ของ Water Capsule คือการนำน้ำมันมาเคลือบเนื้อสูตรอีกที ในขณะที่ Water-in-Oil EZ สามารถสร้างเนื้อครีมได้ด้วยตัวเองค่ะ
  • เกี่ยวกับความเข้ากันได้ของ Water Capsule (ID 666) กับ Cream Maker: ตามที่ทีมงานได้แจ้งไว้ Rich Cream Maker (ID 646) ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Water Capsule ได้ค่ะ Cream Maker ที่เข้ากันได้ตามที่กล่าวถึงคือ Pro Polymer (ID 234) และ Easy Cream Maker (ID 533) ค่ะ
  • เกี่ยวกับการทำเนื้อครีมให้หนักใกล้เคียง Rich Cream Maker (ID 646) เมื่อใช้ Water Capsule (ID 666): เนื่องจาก Rich Cream Maker ไม่เข้ากัน คุณจะต้องใช้ Cream Maker ที่เข้ากันได้ (เช่น Pro Polymer หรือ Easy Cream Maker) และเลือกใช้ส่วนของน้ำมันที่มีความข้นหรือแข็งขึ้น (เช่น Shea Butter (ID 117)) ในสูตรเพื่อช่วยให้ได้เนื้อครีมที่หนักและเข้มข้นใกล้เคียงกันค่ะ
  • เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ WaterLock (ID 258) กับ Water Capsule (ID 666) ในด้านการกักเก็บความชุ่มชื้น: ทีมงานได้อธิบายว่า Water Capsule + Oil (โดยมีส่วนของน้ำมันประมาณ 5-15%) ให้ประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นและการกันน้ำได้ดีกว่าและยาวนานกว่า WaterLock อย่างชัดเจนค่ะ (โดยเฉพาะเมื่อ WaterLock อยู่ในเบสเจลน้ำ) ดังนั้น การเพิ่ม WaterLock ลงในสูตร Rich Cream Maker ที่ใช้อยู่ อาจไม่ให้ผลลัพธ์ด้านความชุ่มชื้นที่เทียบเท่ากับการใช้ Water Capsule ค่ะ

สรุปคือ หากคุณต้องการประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้นและการกันน้ำที่เหนือกว่าของ Water Capsule คุณจะต้องเปลี่ยนจาก Rich Cream Maker ไปใช้ Cream Maker ที่เข้ากันได้ (เช่น Pro Polymer หรือ Easy Cream Maker) และปรับส่วนของน้ำมันในสูตร (เช่น การใช้ Shea Butter) เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่หนักตามต้องการค่ะ การเพิ่ม WaterLock ในสูตรเดิมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ แต่จะไม่เทียบเท่ากับการใช้ Water Capsule + Oil ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Shea Butter (Refined , Deodorised)
Shea Butter (Refined , Deodorised)
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
เครื่องสำอาง
Easy Cream Maker™
Easy Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Luxury Cream Maker™
Luxury Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Water-Capsule™ (Water-in-Oil Cream)
Water-Capsule™ (Water-in-Oil Cream)
เครื่องสำอาง
Soft Cream Maker™
Soft Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)
Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)
เครื่องสำอาง