สารปรอทและสเตียรอยด์ในเครื่องสำอาง: การตรวจหา ผลกระทบ และความปลอดภัย

ถามโดย: the_dawn_1999 เมื่อ: December 17, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ผมกังวลเกี่ยวกับสารปรอทและสเตียรอยด์ในเครื่องสำอาง โดยเฉพาะหลังจากที่เคยใช้ยาครีมผสมสเตียรอยด์ที่คลินิกรักษาสิวสั่งให้ใช้ในระยะเวลาจำกัด

จึงอยากสอบถามข้อมูลในประเด็นต่อไปนี้ครับ:

  • จะทราบได้อย่างไรว่าเครื่องสำอางที่ใช้อยู่มีสารปรอท หรือ สเตียรอยด์ ผสมอยู่หรือไม่
  • สารปรอท และสารสเตียรอยด์ มีประโยชน์และสรรพคุณอะไรบ้าง (ในบริบทที่เหมาะสม)
  • ทำไมเครื่องสำอางราคาถูกบางชนิดถึงชอบแอบนำสารเหล่านี้ไปผสม
  • จริงๆ แล้วสารปรอทหรือสเตียรอยด์สามารถผสมในเครื่องสำอางได้หรือไม่ แต่มีจำนวนปริมาณที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย
  • อาการผิวแพ้สาร หรือที่เรียกกันว่า ติดสาร ดังกล่าวเป็นอย่างไร
  • จะทราบได้อย่างไรว่าอาการผิวที่เริ่มแพ้ มีสาเหตุมาจากสารดังกล่าว

คำตอบ

สารปรอทและสเตียรอยด์ในเครื่องสำอาง

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่คุณกังวลเกี่ยวกับสารที่อาจเป็นอันตราย เช่น สารปรอทและสเตียรอยด์ในเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์ของคุณกับการใช้ยาที่แพทย์สั่ง

จะทราบได้อย่างไรว่าเครื่องสำอางมีสารปรอทหรือสเตียรอยด์ผสมอยู่?

การตรวจหาสารปรอทหรือสเตียรอยด์ในเครื่องสำอางโดยทั่วไปต้องอาศัยการทดสอบในห้องปฏิบัติการ เป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้บริโภคที่จะทราบว่าผลิตภัณฑ์มีสารเหล่านี้หรือไม่ เพียงแค่ดูหรือใช้งาน เนื่องจากมักถูกลักลอบใส่และไม่ได้ระบุไว้ในฉลากส่วนประกอบ การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีการจดแจ้งอย่างถูกต้องและจากแหล่งที่น่าเชื่อถือสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

ประโยชน์และสรรพคุณ (ในบริบททางการแพทย์/ควบคุม)

  • สารปรอท: ในอดีต สารประกอบปรอทบางชนิดเคยถูกนำมาใช้เพื่อทำให้ผิวขาวขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติยับยั้งการสร้างเม็ดสี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความเป็นพิษร้ายแรง การใช้ในเครื่องสำอางจึงถูกห้ามหรือจำกัดอย่างเข้มงวดในประเทศส่วนใหญ่แล้ว
  • สเตียรอยด์ (คอร์ติโคสเตียรอยด์): ในทางการแพทย์ คอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาเป็นยาต้านการอักเสบที่มีฤทธิ์แรง ใช้รักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น ผื่นแพ้ (eczema), สะเก็ดเงิน (psoriasis), และอาการแพ้รุนแรง ทำงานโดยการกดภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ รอยแดง และอาการคัน ดังที่คุณเคยมีประสบการณ์ แพทย์มักสั่งให้ใช้ในระยะสั้นภายใต้การดูแลของแพทย์

ทำไมเครื่องสำอางราคาถูกถึงชอบแอบนำไปผสม?

การลักลอบใส่สารปรอทหรือสเตียรอยด์ในเครื่องสำอาง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ราคาถูกหรือไม่ได้รับการควบคุม เป็นเพราะสารเหล่านี้สามารถให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นได้ชัด สารปรอทสามารถทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว และสเตียรอยด์สามารถลดการอักเสบและสิวได้อย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่รวดเร็วนี้อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขาย แม้ว่าจะมีความเสี่ยงร้ายแรงต่อสุขภาพในระยะยาวก็ตาม

จริงๆ แล้วสามารถผสมได้แต่มีปริมาณที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยหรือไม่?

  • สารปรอท: โดยทั่วไป สารปรอทและสารประกอบของปรอทถูกห้ามใช้ในเครื่องสำอางในประเทศส่วนใหญ่เนื่องจากความเป็นพิษ อาจมีข้อยกเว้นที่จำกัดมากสำหรับสารกันเสียบางชนิดในผลิตภัณฑ์รอบดวงตา แต่ก็มีการควบคุมอย่างเข้มงวดและไม่ใช่เพื่อทำให้ผิวขาวหรือใช้ทั่วไป
  • สเตียรอยด์: สเตียรอยด์จัดเป็นยา ไม่ใช่ส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เป็นยาที่มีฤทธิ์แรงซึ่งควรใช้ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เท่านั้น การใส่สเตียรอยด์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นสิ่งผิดกฎหมายและอันตราย

อาการผิวแพ้สาร หรือที่เรียกกันว่า ติดสาร ดังกล่าวเป็นอย่างไร?

การใช้เครื่องสำอางที่ลักลอบใส่สเตียรอยด์ในปริมาณสูงอาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า "การติดสเตียรอยด์แบบทา" (topical steroid addiction) หรือ "ภาวะถอนสเตียรอยด์แบบทา" (topical steroid withdrawal) เมื่อหยุดใช้ อาการอาจรวมถึง:

  • รอยแดงรุนแรง แสบร้อน และคัน (มักจะแย่กว่าอาการเดิม)
  • ผิวบางลง (atrophy)
  • ผิวไวต่อสิ่งต่างๆ มากขึ้น
  • มีสิวคล้ายสิวสเตียรอยด์ หรือสิวที่เป็นอยู่แย่ลง
  • มองเห็นเส้นเลือดฝอย (telangiectasias)
  • สีผิวเปลี่ยนแปลง
  • แผลหายช้า

พิษจากสารปรอทในเครื่องสำอางอาจทำให้สีผิวเปลี่ยน มีผื่น และรุนแรงกว่านั้นคือทำลายระบบประสาท ปัญหาไต และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ทั่วร่างกาย

จะทราบได้อย่างไรว่าอาการผิวที่เริ่มแพ้มีสาเหตุมาจากสารดังกล่าว?

หากคุณสงสัยว่าอาการแพ้ผิวหนังของคุณเกิดจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าให้ผลลัพธ์รวดเร็วหรือไม่ได้ระบุส่วนประกอบชัดเจน สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนัง แพทย์สามารถวินิจฉัยสาเหตุของอาการของคุณได้อย่างถูกต้อง พวกเขาจะพิจารณาประวัติการใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณและตรวจผิวหนังของคุณ ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ทำการทดสอบ สิ่งสำคัญคือต้องแยกความแตกต่างระหว่างอาการแพ้ที่เกิดจากสารที่ลักลอบใส่ กับอาการแพ้ที่เกิดจากยาที่แพทย์สั่งใช้อย่างถูกต้องภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากแนวทางการรักษาแตกต่างกันไป ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และยาที่คุณกำลังใช้อยู่เสมอ