สูตรกันแดด: เน้นน้ำเยอะ, ซิลิโคนน้อย, สารกันแดดเฉพาะ

ถามโดย: preme9294 เมื่อ: December 13, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำกันแดดที่มีสารกันแดดดังนี้:

  • Zinc Oxide EasyDisperse™ 12%
  • Titanium Dioxide Nano EasyDisperse™ 6%
  • Vitamin E Acetate 0.1%
  • OMC 7%
  • Octocrylene 7%

ต้องการให้สูตรมีปริมาณน้ำมากที่สุด (เป็น O/W Emulsion) และใส่ซิลิโคน (โดยเฉพาะ Cyclomethicone) ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังสามารถขึ้นรูปและทาบนผิวได้ง่าย ไม่ต้องการใช้ LipidSoft™ Base เหมือนที่เคยลอง

ขอคำแนะนำดังนี้:

  1. ควรใส่ Cyclomethicone กี่เปอร์เซ็นต์?
  2. ควรใส่ตัวประสาน (Emulsifier) อะไรบ้าง อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ได้สูตรที่เป็น O/W Emulsion ที่มีปริมาณน้ำสูงและมีซิลิโคนน้อยที่สุด?

คำตอบ

คำตอบสำหรับคำถามของคุณ

1. รอยโลหะที่บีกเกอร์

รอยสีโลหะที่คุณเห็นรอบบีกเกอร์นั้น ไม่น่าจะเกิดจากการละลายของสแตนเลสสตีลจากใบพัดลงไปในเนื้อครีมโดยตรงค่ะ สแตนเลสสตีลมีความทนทานต่อสารเคมีในสูตรเครื่องสำอางทั่วไปสูงมาก อย่างที่คุณ cosmeceutical7 กล่าวไว้

สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าคือ:

  • การเสียดสี: เนื่องจากคุณทำในปริมาณน้อยในช่วงแรก ทำให้ใบพัดอาจกระแทกหรือเสียดสีกับผนังบีกเกอร์แก้วโดยตรง ซึ่งการเสียดสีนี้อาจทำให้เกิดการสึกหรอเล็กน้อยที่ใบพัด หรืออาจเป็นคราบจากใบพัดที่หลุดออกมาจากการเสียดสีอย่างรุนแรง
  • คุณภาพของใบพัด: แม้จะเป็นยี่ห้อ Zebra ซึ่งเป็นที่รู้จัก แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ใบพัดอาจไม่ได้เป็นสแตนเลสสตีลเกรดที่ทนทานสูงมาก หรือมีการเคลือบผิวบางอย่างที่หลุดลอกได้เมื่อมีการเสียดสี

วิธีแก้ไขครั้งต่อไป:

  • หากทำในปริมาณน้อยมากๆ อาจพิจารณาใช้การคนด้วยช้อนหรือไม้พายที่ทนทานแทนการใช้เครื่องปั่นในช่วงแรกที่ปริมาณเนื้อน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกหรือเสียดสีกับบีกเกอร์
  • ตรวจสอบใบพัดปั่นว่ามีร่องรอยการสึกหรอหรือการเปลี่ยนสีหรือไม่ หากมี อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนใบพัดหรือเครื่องปั่นที่เหมาะสมกับปริมาณและลักษณะของเนื้อสารที่ต้องการปั่น

2. การกันน้ำและการอุดตัน

กันแดดสูตรที่คุณทำมีส่วนผสมของ Zinc Oxide EasyDisperse™ และ Titanium Dioxide Nano EasyDisperse™ ซึ่งเป็น Physical Sunscreen ที่ถูกเคลือบผิวด้วยซิลิโคน (Dimethicone/Silica Treated สำหรับ Titanium Dioxide และ Triethoxycaprylylsilane สำหรับ Zinc Oxide) การเคลือบนี้ทำให้ผงกันแดดกระจายตัวได้ดีขึ้นและช่วยให้สูตร กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง ตามที่คุณ cosmeceutical7 อธิบาย

การที่ล้างออกยากเป็นเรื่องปกติของกันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้กันแดดติดทนบนผิวได้นานขึ้น แต่ก็เป็นข้อเสียที่อาจเพิ่มโอกาสในการอุดตันได้หากทำความสะอาดผิวไม่เพียงพอ

การใช้ Bioderma Micellar Water เช็ดออกก่อนล้างหน้าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการทำความสะอาดกันแดดประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม การเช็ดจนสำลีขาวไม่ได้หมายความว่าไม่มีสารตกค้างเหลืออยู่เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกันแดดที่กันน้ำได้ดี แนะนำให้ตามด้วยการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่สามารถทำความสะอาดกันแดดได้อย่างหมดจด (เช่น คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารทำความสะอาดที่ช่วยชะล้างน้ำมันและซิลิโคนได้ดี) เพื่อลดความเสี่ยงของการอุดตัน

3. การปนเปื้อนระหว่างผสม

การรักษาความสะอาดในกระบวนการผลิตเครื่องสำอางเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ การที่ส่วนผสมกระเด็นไปโดนนิ้วที่สัมผัสโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นการปนเปื้อนเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่เนื้อครีม แม้ว่าคุณจะใส่สารกันเสีย (Phenoxyethanol) แล้วก็ตาม สารกันเสียมีหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ แต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อทั้งหมดที่ปนเปื้อนเข้าไปทันที และประสิทธิภาพของสารกันเสียอาจลดลงได้หากมีการปนเปื้อนในปริมาณมาก

เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี ไม่แนะนำ ให้นำครีมใน Batch ที่มีการปนเปื้อนนี้มาใช้กับผิวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย การปนเปื้อนอาจนำไปสู่การเจริญเติบโตของเชื้อโรคในผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจทำให้ครีมเสียก่อนเวลาอันควร หรือก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้

4. การแยกชั้นของเนื้อครีม

การแยกชั้นเล็กน้อยหลังจากใส่กระปุก อาจเกิดจากอิมัลชันที่ยังไม่เสถียรเต็มที่ หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ/การเคลื่อนย้าย การที่เขย่าแล้วกลับมาเป็นเนื้อเดียวกันได้ แสดงว่าอิมัลชันยังพอคงตัวอยู่บ้าง

วิธีแก้ไขครั้งต่อไป:

  • เพิ่มปริมาณ Light Cream Maker (หรือ Emulsifier/Thickener ที่ใช้) ขึ้นเล็กน้อย ตามที่คุณ cosmeceutical7 แนะนำ เช่น เพิ่มจาก 1% เป็น 1.5% หรือตามคำแนะนำการใช้ของสารนั้นๆ เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรของอิมัลชัน
  • ตรวจสอบวิธีการผสมว่าได้ทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและปั่นจนเนื้อเข้ากันดีในแต่ละขั้นตอนหรือไม่
  • อุณหภูมิในการผสมและการเก็บรักษาก็มีผลต่อความเสถียรของอิมัลชัน ควรผสมที่อุณหภูมิที่เหมาะสมและเก็บรักษาในที่ที่อุณหภูมิคงที่

สำหรับครีมที่แยกชั้นเล็กน้อยแล้วเขย่ากลับมาเป็นเนื้อเดียวกันได้ หากไม่มีกลิ่นผิดปกติ สีเปลี่ยน หรือมีลักษณะบ่งชี้ถึงการปนเปื้อนของเชื้อโรค (เช่น มีรา หรือเมือก) ก็อาจยังพอใช้ได้ แต่ความเสถียรอาจไม่เท่ากับ Batch ที่ไม่แยกชั้น และควรสังเกตอาการแพ้หรือการเปลี่ยนแปลงของผิวเมื่อใช้

การปรับปรุงสูตรกันแดด (เน้นน้ำเยอะ ซิลิโคนน้อยที่สุด)

จากความต้องการของคุณที่ต้องการทำกันแดดที่มี Zinc Oxide EasyDisperse™ 12%, Titanium Dioxide Nano EasyDisperse™ 6%, Vitamin E Acetate 0.1%, OMC 7%, Octocrylene 7% โดยเน้นน้ำเยอะ ใช้ซิลิโคนให้น้อยที่สุด (แต่ยังคงใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ชนิด EasyDisperse™ ซึ่งมีการเคลือบซิลิโคนอยู่แล้ว) และไม่ใช้ LipidSoft™

ข้อควรทราบคือ Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™ (ID 248) แนะนำให้กระจายตัวใน Cyclomethicone (ID 171) ในอัตราส่วน 1:1 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหมายความว่าหากใช้ Zinc Oxide 12% อาจต้องใช้ Cyclomethicone ถึง 12% ซึ่งจะทำให้ปริมาณซิลิโคนในสูตรค่อนข้างสูง ขัดแย้งกับความต้องการ "ซิลิโคนน้อยที่สุด"

หากต้องการลดปริมาณซิลิโคนจริงๆ อาจต้องพิจารณาใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ชนิดที่ไม่ได้เคลือบซิลิโคน (Non-Coated) ซึ่งจะกระจายตัวยากกว่าและอาจทำให้เกิดความขาวบนผิวได้มากกว่า หรือใช้ Emollient ชนิดอื่นที่ไม่ใช่ซิลิโคนในการช่วยกระจายตัวแทน Cyclomethicone

อย่างไรก็ตาม หากยังต้องการใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ชนิด EasyDisperse™ ตามที่ระบุ และต้องการให้สูตรมีปริมาณน้ำมากที่สุด (เป็น O/W Emulsion) พร้อมซิลิโคน เพิ่มเติม ให้น้อยที่สุด (นอกเหนือจากการเคลือบและการกระจายตัวของ Zinc Oxide) สามารถปรับสูตรได้ดังนี้ โดยใช้ Emulsifier/Thickener ที่ช่วยสร้างเนื้อครีมแบบ O/W และเข้ากันได้ดีกับส่วนผสมต่างๆ

ตัวอย่างโครงสร้างสูตร (O/W Emulsion, High Water):

  • ส่วนน้ำ (Water Phase):

    • น้ำ (Water): ปรับให้ครบ 100%
    • Disodium EDTA (ID 184): 0.1-0.2% (ช่วยจับไอออนในน้ำ เพิ่มความเสถียร)
    • Emulsifier/Thickener: เลือกใช้ตัวที่สร้างเนื้อเจลหรือครีมในส่วนน้ำได้ดี และช่วยประสานน้ำกับน้ำมันได้
      • CreamMaker EG™ (ID 125247): 1.5-2.5% (เป็น Thickener และ Emulsifier ในตัว ใช้งานง่ายแบบ Cold Process)
      • หรือ Aristoflex AVC (ID 7446): 0.5-1.5% (เป็น Thickener สร้างเนื้อเจลในน้ำ ช่วยประสานน้ำมันได้ระดับหนึ่ง)
    • Phenoxyethanol (ID 155): 0.5-1.0% (สารกันเสีย)
  • ส่วนน้ำมัน/สารกันแดด (Oil Phase / UV Filters):

    • OMC (ID 523): 7%
    • Octocrylene (ID 268): 7%
    • Vitamin E Acetate (ID 65): 0.1% (ช่วยต้านอนุมูลอิสระในสูตร)
    • Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™ (ID 248): 12%
    • Titanium Dioxide 20erm EasyDisperse™ (Dimethicone/Silica Treated) (ID 236): 6%
    • Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone) (ID 171): 12% (ใช้สำหรับกระจาย Zinc Oxide ตามคำแนะนำของผู้ผลิต)
    • Emollient/Oil อื่นๆ (ที่ไม่ใช่ LipidSoft™ และไม่ใช่ซิลิโคน): อาจเพิ่ม 1-5% เพื่อช่วยในการกระจายตัวของ Titanium Dioxide และปรับเนื้อสัมผัส (เลือกใช้น้ำมันหรือ Ester ที่เข้ากันได้ดีกับ UV Filter และ Emulsifier ที่เลือก)

ขั้นตอนการผสม (ตัวอย่างการใช้ CreamMaker EG™):

  1. ในบีกเกอร์ที่ 1: ผสมน้ำ + Disodium EDTA + CreamMaker EG™ คนหรือปั่นให้เข้ากันจนขึ้นเนื้อเจล (CreamMaker EG™ สามารถกระจายตัวในน้ำเย็นได้)
  2. ในบีกเกอร์ที่ 2: ผสม OMC + Octocrylene + Vitamin E Acetate + Emollient/Oil อื่นๆ (ถ้าใช้) คนให้เข้ากัน
  3. ในภาชนะแยก: กระจาย Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™ ใน Cyclopentasiloxane ในอัตราส่วน 1:1 (เช่น Zinc Oxide 12g + Cyclopentasiloxane 12g) ปั่นให้กระจายตัวดี
  4. ในภาชนะแยก: กระจาย Titanium Dioxide 200nm EasyDisperse™ ใน Emollient/Oil อื่นๆ หรือในส่วนผสมจากข้อ 2 เล็กน้อย ปั่นให้กระจายตัวดี
  5. ค่อยๆ เติมส่วนผสมจากข้อ 2, 3, และ 4 ลงในส่วนน้ำ (บีกเกอร์ที่ 1) ทีละน้อย พร้อมปั่นด้วยความเร็วปานกลางจนเนื้อเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  6. เติม Phenoxyethanol ลงไป ปั่นให้เข้ากัน

หมายเหตุ:

  • สูตรนี้ยังคงมีซิลิโคนจาก Zinc Oxide EasyDisperse™, Titanium Dioxide EasyDisperse™ และ Cyclopentasiloxane ที่ใช้กระจาย Zinc Oxide ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ Physical Filter กระจายตัวได้ดีและมีประสิทธิภาพตามชนิด EasyDisperse™
  • หากต้องการซิลิโคนน้อยกว่านี้จริงๆ ต้องเปลี่ยนไปใช้ Physical Filter ชนิด Non-Coated และหาวิธีการกระจายตัวที่เหมาะสม (อาจต้องใช้เครื่องมือปั่นที่แรงขึ้นและใช้เวลานานขึ้น) หรือพิจารณาใช้ Chemical Filter เพียงอย่างเดียว
  • ปริมาณ Emulsifier/Thickener (CreamMaker EG™ หรือ Aristoflex AVC) สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้เล็กน้อยเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและความหนืดที่ต้องการ และช่วยให้สูตรเสถียรขึ้น
  • การทดลองทำในปริมาณน้อยๆ ก่อนทำ Batch ใหญ่เป็นสิ่งสำคัญเสมอ เพื่อทดสอบความเข้ากันได้และความเสถียรของสูตร

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจปัญหาที่พบและเป็นแนวทางในการปรับปรุงสูตรครั้งต่อไปนะคะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™
Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™
เครื่องสำอาง
Octocrylene
Octocrylene
เครื่องสำอาง
OMC (Octinoxate, Octyl methoxycinnamate, OM-Cinnamate)
OMC (Octinoxate, Octyl methoxycinnamate, OM-Cinnamate)
เครื่องสำอาง
Aristoflex AVC
Aristoflex AVC
เครื่องสำอาง
CreamMaker EG™ (e.q. Simulgel EG)
CreamMaker EG™ (e.q. Simulgel EG)
เครื่องสำอาง