คำแนะนำการคิดค้นสูตรครีมกันแดดที่กันน้ำได้สูง

คุณกำลังต้องการพัฒนาสูตรครีมกันแดด SPF 50+ PA++++ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและกิจกรรมทางน้ำ ที่มีความคงทนสูง กันน้ำและกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามเฉพาะของคุณและคำแนะนำเพิ่มเติม:

1. Polymethylsilsesquioxane 4.5microns กับ QuikBlur™ ตัวใดให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุดในการอำพรางรูขุมขน

ทั้ง Polymethylsilsesquioxane 4.5microns และ QuikBlur™ ถูกใช้เพื่อให้ผลแบบ Soft-Focus หรือช่วยเบลอผิว ซึ่งช่วยลดการมองเห็นรูขุมขนและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

• Polymethylsilsesquioxane 4.5microns: เป็นส่วนผสมในรูปแบบผง ทำงานโดยการหักเหแสงเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ Soft-Focus และช่วยซ่อนริ้วรอยบนผิว อีกทั้งยังทำให้เนื้อสูตรนุ่มลื่น (silky & slip) ผงนี้ยังสามารถช่วยดูดซับความมันได้
• QuikBlur™: เป็น Polymethylsilsesquioxane ในรูปแบบของเหลวที่กระจายตัวแล้ว ถูกออกแบบมาให้ผสมในสูตรได้ง่ายและให้ผลการเบลอผิวได้ทันที ให้ความรู้สึกนุ่ม ลื่น ไม่เหนอะหนะ และสามารถกระจายตัวในน้ำได้

สำหรับการสร้างลุคที่เป็นธรรมชาติและเบลอผิว พร้อมทั้งความง่ายในการใช้งานในสูตรต่างๆ QuikBlur™ อาจจะมีความได้เปรียบเล็กน้อยเนื่องจากเป็นของเหลวและถูกออกแบบมาเพื่อการเบลอที่ง่ายและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม Polymethylsilsesquioxane 4.5microns ก็มีประสิทธิภาพและอยู่ในสูตรปัจจุบันของคุณแล้ว หากคุณพอใจกับเนื้อสัมผัสและผลการเบลอจากผง 4.5microns ก็สามารถใช้ต่อไปได้ แต่หากต้องการสำรวจตัวเลือกที่เป็นของเหลวที่กระจายตัวง่ายกว่าและให้การเบลอทันที QuikBlur™ เป็นทางเลือกที่ดีที่น่าพิจารณา แม้ว่าอาจจะทำให้เนื้อสัมผัสของสูตรเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแบบผง

2. WaterGuard™ Ultra กับ Silicone Film (Long-Wear, Hard, Cyclopentasiloxane Base) ตัวใดมีประสิทธิภาพในการติดทนและกันน้ำกันเหงื่อได้สูงกว่ากัน สำหรับเพื่อว่ายน้ำ

สำหรับการติดทนและกันน้ำกันเหงื่อในระดับสูง โดยเฉพาะสำหรับกิจกรรมอย่างการว่ายน้ำ การเปรียบเทียบระหว่าง WaterGuard™ Ultra และ Silicone Film (Very Long-Wear, Hard, Cyclopentasiloxane Base) เป็นสิ่งสำคัญ

• WaterGuard™ Ultra (Gloss Film): ส่วนผสมนี้ถูกอธิบายว่าเป็นพอลิเมอร์ที่ "กันน้ำได้ดีเยี่ยม" และสร้างฟิล์มที่ทนทาน มีการระบุว่าสามารถติดทนได้หลายวันหากไม่ล้างออก และถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการกันน้ำสูง เช่น Body Paint
• Silicone Film (Very Long-Wear, Hard, Cyclopentasiloxane Base): เป็นสารสร้างฟิล์มซิลิโคน ที่ให้การติดทน "ยาวนานเป็นพิเศษ" และกันน้ำได้ นิยมใช้ในเครื่องสำอางที่ติดทน เช่น รองพื้น

จากคำอธิบายที่เน้นย้ำถึงการ "กันน้ำได้ดีเยี่ยม" และความทนทานเมื่อสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานาน WaterGuard™ Ultra ดูเหมือนจะให้ระดับการกันน้ำที่สูงกว่าและเหมาะสมกับกิจกรรมอย่างการว่ายน้ำโดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับ Silicone Film (Very Long-Wear) ที่เน้นความติดทนของเครื่องสำอางเป็นหลัก สูตรปัจจุบันของคุณมี WaterGuard™ Ultra 5% สำหรับการกันน้ำสูงสุดสำหรับการว่ายน้ำ คุณอาจพิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของ WaterGuard™ Ultra เนื่องจากคำอธิบายแนะนำอัตราการใช้ที่สูงขึ้น (10-100%) สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการกันน้ำสูงมาก

คำแนะนำอื่นๆ

สูตรปัจจุบันของคุณมีการผสมผสานส่วนผสมที่ดีสำหรับครีมกันแดดที่ทนทานและให้การปกป้องสูง:

• สารกันแดด: คุณใช้สารกันแดดทั้งแบบเคมี (SPF Protect Ultra™ II), แบบกายภาพ (Zinc Oxide 35nm Liquid) และแบบไฮบริด (Bisoctrizole) ซึ่งให้การปกป้องครอบคลุมทั้ง UVA/UVB
• สารเสริมประสิทธิภาพ: PMMA Booster ช่วยเพิ่มค่า SPF/PA
• สารสร้างฟิล์ม: WaterGuard™ Ultra ช่วยเรื่องการกันน้ำ
• สารประสานและสารเพิ่มความคงตัว: SiliSolve Plus™ เป็นอิมัลซิไฟเออร์แบบ W/O/Silicone ที่เหมาะสม และ Magnesium Sulfate ช่วยเพิ่มความคงตัวให้กับอิมัลชันประเภทนี้
• เนื้อสัมผัส: ซิลิโคน (Cyclomethicone/Cyclopentasiloxane, Dimethicone, Polymethylsilsesquioxane) และ Isohexadecane ช่วยปรับเนื้อสัมผัส ให้ความลื่น ความนุ่ม และไม่เหนอะหนะ
• สารต้านอนุมูลอิสระ: Ethyl Ferulate ให้คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดรอยแดงที่เกิดจาก UV
• สารกันเสีย: Mild Preserved Eco™ เป็นทางเลือกที่ไม่มีสารกันเสีย

เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรของคุณได้ค่า SPF 50+ PA++++ และมีการกันน้ำ/กันเหงื่อสูงสำหรับการว่ายน้ำ ให้พิจารณาดังนี้:

1. ปรับความเข้มข้นของสารสร้างฟิล์ม: ดังที่กล่าวไป การเพิ่มความเข้มข้นของ WaterGuard™ Ultra อาจจำเป็นเพื่อให้ได้ระดับการกันน้ำที่ต้องการสำหรับการว่ายน้ำ อ้างอิงอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการกันน้ำสูงมาก
2. การทดสอบ In-vivo: ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการนำสูตรสำเร็จรูปไปทดสอบค่า SPF และการกันน้ำแบบ In-vivo นี่เป็นวิธีเดียวที่จะยืนยันได้ว่าสูตรของคุณได้ตามค่า SPF 50+ PA++++ ที่ต้องการ และให้ระดับการกันน้ำที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ (เช่น กันน้ำได้ 40 หรือ 80 นาที) ความเข้มข้นของสารกันแดดและสารสร้างฟิล์มจะมีผลโดยตรงต่อผลการทดสอบเหล่านี้
3. การปรับเนื้อสัมผัส: การเพิ่มสารสร้างฟิล์มอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัส คุณอาจต้องปรับระดับของซิลิโคนหรือสารบำรุงผิว เช่น Isohexadecane เพื่อรักษาเนื้อสัมผัสที่ต้องการ
4. การทดสอบความคงตัว: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสูตรยังคงมีความคงตัวเมื่อเวลาผ่านไปและภายใต้สภาวะอุณหภูมิที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปรับความเข้มข้นของส่วนผสม

ด้วยการพิจารณาบทบาทของส่วนผสมที่ช่วยสร้างฟิล์มอย่างรอบคอบ และทำการทดสอบที่เหมาะสม คุณจะสามารถพัฒนาสูตรครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณในด้านการปกป้องสูงและการกันน้ำสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและกิจกรรมทางน้ำได้