สูตรครีมสำหรับผิวผสมที่มีฝ้า กระ และริ้วรอย
คำถาม
ฉันได้พัฒนาสูตรครีมสำหรับผิวผสมที่มีปัญหาฝ้า กระ และริ้วรอย (ไม่มีสิว) อยากจะขอคำแนะนำและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรนี้ค่ะ นอกจากนี้ ฉันกำลังตัดสินใจเลือกระหว่างการใช้ Adenosine Complex หรือ Repair Activator อยากทราบว่าตัวไหนจะเหมาะสมกับสูตรและสภาพผิวนี้มากกว่ากันคะ?
สูตรครีมร่างปัจจุบันของฉันประกอบด้วย:
- Vitamin B3
- GlucoBright
- Tranexamic Acid
- White Cumin (Tetrahydrodiferuloylmethane) 5%
- Syn-Coll
- Q10 (Coenzyme Q10) 5% (ชนิดละลายน้ำ)
- Adenosine Complex
- Vitamin B5 (Panthenol) 5%
- Allantoin
- Betaine
- Calendula Extract
- Double Hyaluron Liquid
- Natto Gum
- MSH White (Undecylenoyl phenylalanine)
- Ethoxydiglycol 10%
- Light Cream Maker
สูตรนี้เหมาะสมกับผิวผสมหรือไม่คะ? ควรปรับความเข้มข้นหรือตัดส่วนผสมใดออกบ้างไหม? และระหว่าง Adenosine Complex กับ Repair Activator ตัวไหนจะดีกว่าสำหรับการลดริ้วรอยและฝ้าในสูตรประเภทนี้ หรือสามารถใช้ร่วมกันได้ไหมคะ?
คำตอบ
สูตรครีมสำหรับผิวผสมที่มีฝ้า กระ และริ้วรอย
คุณได้สอบถามเกี่ยวกับสูตรครีมสำหรับผิวผสมที่มีปัญหาฝ้า กระ และริ้วรอย โดยไม่มีสิว นี่คือการประเมินสูตรที่คุณให้มาพร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมโดยพิจารณาจากสภาพผิวของคุณและคุณสมบัติของส่วนผสมต่างๆ
สูตรเดิมของคุณมีส่วนผสมหลายชนิดที่ดีสำหรับผิวขาวและลดริ้วรอย เช่น Vitamin B3, GlucoBright, Tranexamic Acid, White Cumin, Syn-Coll, Q10 และ Adenosine Complex นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นหลายชนิด เช่น Vitamin B5, Allantoin, Betaine, Calendula Extract, Double Hyaluron Liquid และ Natto Gum
สำหรับผิวผสมซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีความมันในบางบริเวณ การใส่ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นมากเกินไปอาจไม่เหมาะสม เพราะอาจทำให้ผิวมันมากขึ้นได้ คำแนะนำจากคำตอบในกระทู้ให้ลดหรือตัดส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นบางชนิดออกจึงเป็นแนวทางที่ดีสำหรับสภาพผิวของคุณ
นอกจากนี้ ความเข้มข้นของส่วนผสมบางชนิดในสูตรเดิมของคุณดูเหมือนจะสูงกว่าที่แนะนำสำหรับการใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป:
- White Cumin (Tetrahydrodiferuloylmethane): 5% สูงกว่าช่วงที่แนะนำ 1-4% สำหรับ WhiteCumin™ 2x
- Vitamin B5 (Panthenol): 5% ค่อนข้างสูง และอาจทำให้ผลิตภัณฑ์รู้สึกเหนอะหนะได้
- Q10 (Coenzyme Q10): 5% สูงกว่าช่วงที่แนะนำอย่างมาก (0.1-1%) สำหรับชนิดที่ละลายน้ำได้
- Ethoxydiglycol: 10% มีแนวโน้มที่จะเกินข้อกำหนดของ อย. สำหรับผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้บนผิว (ปกติไม่เกิน 2.6%)
นี่คือข้อเสนอแนะสูตรที่ปรับปรุงแล้ว โดยคำนึงถึงสภาพผิว เป้าหมาย และอัตราการใช้ส่วนผสมที่แนะนำ:
ข้อเสนอแนะสูตรที่ปรับปรุง
สูตรนี้เน้นการจัดการปัญหาฝ้า กระ และริ้วรอย ในขณะที่ยังคงเหมาะสำหรับผิวผสม โดยการลดส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นส่วนเกินและปรับความเข้มข้นของส่วนผสมต่างๆ
ส่วนประกอบ A (ส่วนน้ำ)
- น้ำ: ปรับให้ครบ 100%
- Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): 5% (เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยปรับสมดุลความมันและให้ความกระจ่างใส)
- GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): 4%
- Tranexamic Acid (Trans-White™): 3%
- WhiteCumin™ 2x (Tetrahydrodiferuloylmethane): 2.5% (ปรับลดตามช่วงที่แนะนำ)
- Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5): 3%
- ATP-Max™ (Stabilized ATP Solution, 20% Adenosine Triphosphate): 7.5% (เพื่อให้ได้ Adenosine Triphosphate 1.5% ปรับตามความเข้มข้นของ Adenosine ที่ต้องการและผลิตภัณฑ์ที่ใช้)
- Phenoxyethanol (Extra Pure): 1%
ส่วนประกอบ B (ส่วนตัวทำละลายสำหรับ MSH White)
- MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine): 1%
- Ethoxydiglycol: 2.5% (ปรับลดเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด)
ส่วนประกอบ C (ส่วนอิมัลซิไฟเออร์และสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำ)
- Light Cream Maker™: 2%
- Coenzyme Q10 (10%, Encapsulate Powder, Water-Soluble): 1% (ปรับลดตามช่วงที่แนะนำ)
ส่วนผสมเพิ่มเติมทางเลือกเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น (พิจารณาเพิ่มหากต้องการและงบประมาณเพียงพอ):
- Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble): 1-3% (ลดการอักเสบ ช่วยควบคุมความมัน)
- Zinc PCA: 0.2-1% (ลดความมัน กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยสมานผิว)
- Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8): 1-3% (ปรับสมดุลความชุ่มชื้นผิว)
- Repair Activator™ WS (Bifida Ferment Lysate, Water Base): 5-10% (ช่วยซ่อมแซม DNA ที่เสียหาย ลดริ้วรอย)
วิธีการผสม
- ส่วนประกอบ A: รวมน้ำและส่วนผสมทั้งหมดในส่วน A คนให้เข้ากันจนละลายหมด
- ส่วนประกอบ B: รวม MSH White™ และ Ethoxydiglycol นำไปให้ความร้อนเล็กน้อย (ประมาณ 60-80°C) และคนจน MSH White™ ละลายใสหมด ปล่อยให้เย็นลงเล็กน้อย
- ส่วนประกอบ C: ในภาชนะแยกต่างหาก รวม Light Cream Maker™ และ Coenzyme Q10 (ชนิดละลายน้ำ) ผสมให้เข้ากันดี
- ค่อยๆ เติมส่วนประกอบ B ลงในส่วนประกอบ A ที่รวมกันแล้ว พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง
- ค่อยๆ เติมส่วนประกอบ C ลงในส่วน A+B ที่รวมกันแล้ว พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องจนเนื้อครีมก่อตัว เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ดีที่สุดเมื่อใช้ Light Cream Maker™ ให้ใช้เครื่อง Homogenizer หรือคน/ปั่นด้วยความเร็วสูงเป็นเวลาสองสามนาที หลีกเลี่ยงการปั่นด้วยความเร็วสูงเกิน 2500 รอบต่อนาที
- หากเพิ่มส่วนผสมเพิ่มเติมที่ละลายน้ำได้ (Licorice Extract, Zinc PCA, Rice Vitamin, Repair Activator) ให้เติมตอนนี้และคนให้เข้ากัน
- ตรวจสอบค่า pH และปรับหากจำเป็น (ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 4-7)
Adenosine Complex เทียบกับ Repair Activator
คุณถามว่าจะใช้ Adenosine Complex หรือ Repair Activator ดี ทั้งสองเป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมในการลดริ้วรอย:
- Adenosine Triphosphate (ATP): ให้พลังงานแก่เซลล์ผิว ส่งเสริมการซ่อมแซมและลดริ้วรอย ATP-Max™ เป็นชนิดน้ำที่เสถียรและใช้งานง่าย
- Repair Activator (Bifida Ferment Lysate): ช่วยให้ผิวซ่อมแซม DNA ที่เสียหายจากแสง UV ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดริ้วรอย
คุณสามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งตามความชอบหรืองบประมาณ หรือจะใช้ทั้งสองอย่างในสูตรของคุณเพื่อประโยชน์ในการลดริ้วรอยที่ครอบคลุมมากขึ้น ตามที่ได้แนะนำในคำตอบก่อนหน้า ในสูตรที่ปรับปรุงข้างต้น ได้ใส่ ATP-Max™ เป็นตัวอย่าง หากคุณเลือกใช้ Repair Activator แทนหรือเพิ่มเข้าไป ให้ใส่ในขั้นตอนที่ 6
สูตรที่ปรับปรุงนี้ให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผิวขาวและลดริ้วรอย ในขณะที่ยังคงคำนึงถึงความต้องการของผิวผสม อย่าลืมทำการทดสอบความเสถียรของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของคุณด้วย.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Light Cream Maker™

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Zinc PCA

Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)

MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)

Tranexamic Acid (Trans-White™)
