สูตรครีมสำหรับผิวแพ้ระคายเคือง: ลดรอยแดง ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว

ถามโดย: kowklong1606 เมื่อ: May 21, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ดิฉันได้พัฒนาสูตรครีมสำหรับผิวของตัวเอง ซึ่งมีอาการแพ้ ระคายเคือง แดง และแห้งลอกอย่างมาก (โดยเฉพาะบริเวณแก้ม) ในขณะที่ทีโซนมีความมัน หลังจากใช้ครีมที่มีสารปรอท สูตรของดิฉันประกอบด้วย:

  • Aloe Vera Extract (สารสกัดว่านหางจระเข้)
  • Vitamin B12 (3%)
  • Licochalcone A
  • Ceramide Complex
  • Pro-Vitamin B5 (D-Panthenol)
  • Shea Butter
  • Jojoba Oil
  • Double Hyaluron Liquid (ใช้ 4% ของผลิตภัณฑ์ที่มี HA 5% ทำให้ได้ HA ออกฤทธิ์ 0.2%)
  • สารกันเสีย

ดิฉันมีคำถามเกี่ยวกับสูตรนี้ดังนี้ค่ะ:

  1. สูตรนี้จะช่วยให้หน้าหายแดงไหมคะ?
  2. หากใส่ Glycerin 3% เนื้อครีมจะมันมากไปไหมคะ เมื่อพิจารณาจากสภาพผิวผสมของดิฉัน?
  3. ควรเพิ่มสารอื่นใดอีกหรือไม่เพื่อช่วยลดอาการแดง หรือส่วนผสมที่มีอยู่เพียงพอแล้วคะ?

คำตอบ

การพิจารณาสูตรเพื่อลดรอยแดงและการระคายเคือง

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรและให้รายละเอียดเกี่ยวกับสภาพผิวของคุณหลังจากการใช้ครีมที่มีสารปรอทนะคะ เข้าใจว่าคุณกำลังประสบปัญหาการระคายเคือง รอยแดง และผิวแห้งลอกเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ในขณะที่ทีโซนมีความมัน สูตรที่คุณพัฒนาขึ้นมา พร้อมกับการปรับเปลี่ยนตามคำแนะนำที่ได้รับ ดูเหมือนจะเหมาะสมอย่างยิ่งในการช่วยปลอบประโลมผิวและสนับสนุนการฟื้นฟูผิวของคุณค่ะ

มาตอบคำถามของคุณนะคะ:

สูตรนี้จะช่วยให้หน้าหายแดงไหมคะ?

ได้ค่ะ ส่วนประกอบหลักในสูตรของคุณมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมและลดการอักเสบ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลดรอยแดงและการระคายเคือง:

  • Aloe Vera Extract (สารสกัดว่านหางจระเข้): มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองจากการแพ้ และปลอบประโลมผิว โดยเฉพาะผิวที่ถูกแดดเผา
  • Vitamin B12: มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบและการระคายเคืองผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และลดปฏิกิริยาการแพ้ของผิว
  • Licochalcone A: สารสกัดจากชะเอมเทศ มีคุณสมบัติเด่นในการลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดง และลดการระคายเคือง
  • Ceramide Complex: จำเป็นอย่างยิ่งในการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ เกราะป้องกันผิวที่เสียหายเป็นสาเหตุหลักของผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง และรอยแดง การเพิ่มความเข้มข้นของ Ceramide Complex ตามคำแนะนำ จะช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิวและลดรอยแดงได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยการเสริมสร้างชั้นปกป้องผิวให้แข็งแรงขึ้น
  • Pro-Vitamin B5 (D-Panthenol): ช่วยลดการอักเสบ รอยแดง อาการคัน และเร่งการสมานแผลและการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่

ส่วนประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อลดการตอบสนองการอักเสบและซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวที่เสียหาย ซึ่งจะช่วยลดรอยแดงที่รุนแรงที่คุณกำลังประสบอยู่ได้ค่ะ

เนื้อครีมจะมันมากไหมคะ ถ้าใส่กลีเซอลีน ในสูตรอีก 3 %?

เมื่อพิจารณาจากสภาพผิวผสมของคุณ (ทีโซนมัน แก้มแห้ง) และการมีน้ำมันบำรุงผิวอย่าง Shea Butter และ Jojoba Oil ในสูตร การเพิ่ม Glycerin อีก 3% อาจทำให้เนื้อครีมรู้สึกหนักขึ้นและอาจมันเกินไป โดยเฉพาะบริเวณทีโซน Glycerin เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้รู้สึกชุ่มชื้น แต่เมื่อใช้ร่วมกับสารให้ความนุ่มลื่นและน้ำมันอื่นๆ อาจเพิ่มความเข้มข้นโดยรวมและอาจทำให้รู้สึกมันมากขึ้นได้ เมื่อคำนึงถึงสภาพผิวปัจจุบันของคุณและความกังวลเรื่องความมัน อาจจะดีที่สุดที่จะงด Glycerin หรือลองใช้ในปริมาณที่น้อยมากๆ หากจำเป็น โดยเน้นไปที่ส่วนประกอบที่ช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวอย่าง Ceramide Complex และน้ำมันที่มีอยู่เพื่อความชุ่มชื้นแทนค่ะ

หรือจะให้เพิ่มสารอื่นที่ช่วยลดอาการแดง บอกเพิ่มได้เลยค่ะ

สูตรปัจจุบันของคุณมีส่วนประกอบที่ดีหลายอย่างในการลดรอยแดงและการระคายเคืองอยู่แล้ว ตามคำแนะนำที่ได้รับ การเพิ่มความเข้มข้นของ Ceramide Complex เป็น 10% เป็นขั้นตอนที่แนะนำอย่างยิ่งค่ะ เซราไมด์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวที่เสียหาย ซึ่งมักเป็นสาเหตุหลักของรอยแดงและผิวแพ้ง่ายที่คงอยู่หลังจากการระคายเคือง การเน้นที่ความเข้มข้นที่สูงขึ้นของส่วนประกอบหลักนี้มีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการเพิ่มส่วนประกอบใหม่ๆ หลายตัว ซึ่งอาจทำให้ผิวที่บอบบางของคุณทำงานหนักเกินไปหรือระคายเคืองเพิ่มเติมได้ การผสมผสานระหว่าง Ceramide Complex ที่เพิ่มขึ้น กับคุณสมบัติการปลอบประโลมของ Aloe Vera, Vitamin B12, Licochalcone A และ Pro-Vitamin B5 ถือเป็นแนวทางที่แข็งแกร่งในการจัดการกับรอยแดงและสนับสนุนการฟื้นฟูผิวค่ะ

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับ Double Hyaluron Liquid 4% เท่ากับ 0.2% ใช่หรือไม่ หากผลิตภัณฑ์ Double Hyaluron Liquid ที่คุณใช้มี Hyaluronic Acid เข้มข้น 5% การใช้ 4% ของของเหลวนี้ในสูตรของคุณจะได้ Hyaluronic Acid ที่ออกฤทธิ์ 0.2% (4% ของ 5% = 0.2%) แม้ว่า Hyaluronic Acid จะให้ความชุ่มชื้น แต่คำแนะนำก่อนหน้านี้แนะนำให้งดใช้เนื่องจากอาจทำให้ทีโซนของคุณมันเกินไป คุณสามารถพิจารณาตามความชอบในเนื้อสัมผัสและการตอบสนองของผิวคุณได้ค่ะ

นอกจากนี้ ตามที่ระบุไว้ในคำตอบก่อนหน้านี้ Vitamin B12 ที่ความเข้มข้น 3% มีแนวโน้มที่จะทำให้ครีมของคุณมีสีชมพูอ่อนๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ

สุดท้าย แม้ว่าสูตรของคุณจะมีสารกันเสีย แต่คำแนะนำในการพิจารณาหลีกเลี่ยงสารกันเสียในช่วงที่ผิวบอบบางอย่างยิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา หากคุณทำครีมเพื่อใช้ในระยะสั้นและสามารถรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวดในระหว่างการเตรียมเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ค่ะ

โดยรวมแล้ว สูตรของคุณเป็นพื้นฐานที่ดีในการดูแลผิวที่ระคายเคือง การเน้นที่การเพิ่ม Ceramide Complex และการพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการใส่ Glycerin และ Hyaluron ตามการตอบสนองของผิวและเนื้อสัมผัสที่ต้องการ ดูเหมือนจะเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Clear - Deodorized)
Jojoba Oil (Clear - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Ultra Soft)
Shea Butter (Ultra Soft)
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Hi-LiconeA™ Licorice Extract (Licochalcone A 20%)
Hi-LiconeA™ Licorice Extract (Licochalcone A 20%)
เครื่องสำอาง
Vitamin B12 (Cyanocobalamin 1%) วิตามิน B12
Vitamin B12 (Cyanocobalamin 1%) วิตามิน B12
เครื่องสำอาง
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
เครื่องสำอาง
Ceramide Complex (Water/Oil Dispersible Powder)
Ceramide Complex (Water/Oil Dispersible Powder)
เครื่องสำอาง
Cera-Flux V (Water Dispersible Ceramide Complex, 3 Types)
Cera-Flux V (Water Dispersible Ceramide Complex, 3 Types)
เครื่องสำอาง
Cera-Flux VX (Water Dispersible Ceramide Complex, 5 Types)
Cera-Flux VX (Water Dispersible Ceramide Complex, 5 Types)
เครื่องสำอาง