สูตรครีม Urea และความเสถียรสำหรับส้นเท้าแตก

ถามโดย: poohdislers เมื่อ: December 19, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

สูตรครีม Urea สำหรับส้นเท้าแตก

ต้องการสูตรครีม Urea แบบง่ายๆ สำหรับทาส้นเท้าแตก โดยมีส่วนประกอบดังนี้:

  1. Urea 20% - 30% (หมายเหตุ: Urea ความเข้มข้นเกิน 20% ห้ามใช้กับผิวหน้า)
  2. Propylene Glycol 5-10%
  3. Emollient เช่น LipidSoft, LipidSoft Lite, LipidSoft Palm 10%
  4. Light Cream Maker หรือ Pro Polymer 1-1.5%
  5. ปรับ pH ด้วย Natural PHA (Gluconolactone) ซึ่งจะช่วยผลัดเซลล์ผิว และควบคุม pH ให้คงที่ (ใช้ในอัตราที่ช่วยปรับให้ pH ของสูตรอยู่ในช่วง 4-5)
  6. น้ำ ส่วนที่เหลือ

โปรดอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสูตรนี้ รวมถึงชนิดของน้ำมัน/Emollient ที่เหมาะสม และจำเป็นต้องมีการเติมสารเพื่อช่วยควบคุมค่า pH หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ Urea ในความเข้มข้นสูง

คำตอบ

สูตรครีมทาส้นเท้าแตก

จากสูตรพื้นฐานที่แนะนำสำหรับส้นเท้าแตก ส่วนประกอบและบทบาทของแต่ละตัวมีดังนี้ค่ะ

  • Urea (20-30%): ส่วนประกอบหลักที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและผลัดเซลล์ผิวที่แห้งหนาบริเวณส้นเท้า ความเข้มข้นที่สูงกว่า 20% จะช่วยในการสลายเคราติน (keratolytic) ทำให้ผิวที่แข็งนุ่มลงและหลุดลอกได้ง่ายขึ้น
  • Propylene Glycol (5-10%): ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (humectant) ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ นอกจากนี้ยังช่วยละลายส่วนผสมอื่นๆ ด้วยค่ะ
  • Emollient (เช่น LipidSoft, LipidSoft Lite, LipidSoft Palm) (10%): สารกลุ่มนี้ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น สำหรับครีมทาส้นเท้า สามารถเลือกใช้ LipidSoft Palm ซึ่งให้ความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะสำหรับผิวแห้ง หรือ LipidSoft Lite ซึ่งมีเนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบในเนื้อสัมผัสค่ะ LipidSoft ชนิดอื่นๆ เช่น LipidSoft C1215 ก็ช่วยให้ความนุ่มลื่นได้เช่นกัน
  • Light Cream Maker™ หรือ Pro Polymer™ (1-1.5%): เป็นสารประสานเนื้อ (emulsifier) และสารเพิ่มความหนืด ช่วยสร้างเนื้อครีมและทำให้ส่วนของน้ำกับน้ำมันเข้ากันได้ดี
  • Natural PHA (Gluconolactone): ใช้สำหรับปรับและควบคุมค่า pH ของสูตร Urea มีคุณสมบัติที่ทำให้ค่า pH สูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะในอุณหภูมิที่สูงขึ้น Gluconolactone จะช่วยคงค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (4-5.5) เพื่อความคงตัวของ Urea และยังมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วยค่ะ
  • น้ำ (ส่วนที่เหลือ): เป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อครีม

เกี่ยวกับน้ำมันที่เหมาะสม:

ในสูตรแนะนำให้ใช้ Emollient ในกลุ่ม LipidSoft ซึ่ง LipidSoft Palm เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวแห้งมาก เนื่องจากให้ความชุ่มชื้นได้ดี ส่วน LipidSoft Lite จะให้เนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า ไม่เหนอะหนะ และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ซึ่งอาจเป็นที่นิยมมากกว่าสำหรับครีมทาเท้าค่ะ นอกจากนี้ LipidSoft C1215 ก็เป็นอีกชนิดที่ให้ความนุ่มลื่นได้

เกี่ยวกับการเติมสารชะลอการเปลี่ยนค่า pH:

ใช่ค่ะ จำเป็นต้องมีการเติมสารเพื่อช่วยควบคุมค่า pH เมื่อใช้ Urea โดยเฉพาะในความเข้มข้นสูง (เกิน 5%) เนื่องจาก Urea สามารถสลายตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ค่า pH ของสูตรสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความคงตัวและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ Natural PHA (Gluconolactone) เป็นสารที่แนะนำในสูตรนี้และในรายละเอียดสินค้า เพื่อช่วยควบคุมค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (4-5.5) สำหรับความคงตัวของ Urea และยังช่วยเสริมฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวบริเวณส้นเท้าแตกได้ด้วยค่ะ โดยแนะนำให้ใช้ Gluconolactone ในอัตราส่วนประมาณ 15% ของปริมาณ Urea ที่ใช้ (เช่น ถ้าใช้ Urea 10% ควรใช้ Gluconolactone ประมาณ 1.5%)

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ C1215 (C12-15 alkyl benzoate)
LipidSoft™ C1215 (C12-15 alkyl benzoate)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Palm (Ethylhexyl palmitate)
LipidSoft™ Palm (Ethylhexyl palmitate)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
เครื่องสำอาง
Natural PHA (Gluconolactone)
Natural PHA (Gluconolactone)
เครื่องสำอาง