สูตรวิตามินซีเซรั่ม: ความเข้ากันได้, เนื้อสัมผัส, และการทาบำรุงต่อ
คำถาม
กำลังพัฒนาเซรั่มเนื้อบางเบาด้วยสูตรดังนี้ค่ะ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของส่วนผสม โดยเฉพาะเรื่องการประสาน Cyclomethicone กับ Light Cream Maker และกังวลว่าเปอร์เซ็นต์ Vitamin E อาจทำให้เนื้อหนักเกินไป นอกจากนี้ อยากทราบว่าหลังจากทาเซรั่มนี้แล้ว ต้องรอประมาณกี่นาทีก่อนทาครีมตัวอื่นต่อคะ สูตรของดิฉันมีดังนี้ค่ะ
- Stabilized Vitamin C 25%
- Vitamin B3 3%
- Propylene Glycol 3%
- Cyclomethicone 2%
- Light Cream Maker 1%
- Vitamin E 1%
- ส่วนผสมอื่นๆ (น้ำ ฯลฯ)
คำตอบ
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรวิตามินซีเซรั่ม
สำหรับสูตรวิตามินซีเซรั่มที่คุณต้องการทำ และคำถามเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของส่วนผสมและวิธีการทาครีมตัวอื่นต่อ มีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ
ความเข้ากันได้ของส่วนผสมและการปรับปรุง
ส่วนผสมส่วนใหญ่ที่คุณระบุมาสามารถเข้ากันได้ในสูตรเซรั่ม อย่างไรก็ตาม มีบางประเด็นที่ควรพิจารณาตามเปอร์เซ็นต์ที่คุณเสนอและเนื้อสัมผัสที่ต้องการ:
- Stabilized Vitamin C (25%): ความเข้มข้น 25% ค่อนข้างสูง วิตามินซีรูปแบบเสถียรทั่วไป เช่น Ascorbyl Glucoside (AA-2G) มักมีอัตราการใช้ที่แนะนำสูงสุดประมาณ 10% ส่วน Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum เป็นเบสสำเร็จรูปที่มี L-Ascorbic Acid 15% ซึ่งไม่เหมาะกับการเติมส่วนผสมอื่นจำนวนมาก คุณควรตรวจสอบอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ "Stabilized Vit C" ที่คุณใช้โดยเฉพาะ เนื่องจาก 25% อาจสูงเกินไป หรืออาจต้องใช้วิตามินซีรูปแบบอื่นหรือเบสที่แตกต่างออกไป
- Vitamin E (1%): แม้ว่าจะเข้ากันได้ แต่ Vitamin E 1% โดยเฉพาะชนิดที่ละลายในน้ำมัน เช่น Tocopheryl Acetate หรือ dl-alpha tocopherol อาจทำให้รู้สึกหนักหรือเหนียวเหนอะหนะได้ ดังที่ระบุในรายละเอียดผลิตภัณฑ์และข้อความตอบกลับในฟอรั่ม หากคุณต้องการเซรั่มที่บางเบามาก อาจพิจารณาลดเปอร์เซ็นต์ลง หรือใช้ Vitamin E ชนิดที่ละลายน้ำได้ หากมีและเหมาะสมกับสูตรของคุณ หากใช้ชนิดที่ละลายในน้ำมันในเซรั่มที่มีเบสเป็นน้ำเป็นหลัก อาจต้องใช้สารช่วยละลาย (solubilizer) เช่น Flora Solve Clear เพื่อช่วยให้เข้ากันได้ดี
- Vitamin B3 (3%) และ Propylene Glycol (3%): ส่วนผสมเหล่านี้เข้ากันได้ดีและเปอร์เซ็นต์อยู่ในช่วงการใช้งานปกติสำหรับคุณสมบัติของมัน (ประโยชน์ต่อผิวสำหรับ Vitamin B3, ตัวทำละลาย/สารให้ความชุ่มชื้นสำหรับ Propylene Glycol)
- Cyclomethicone (2%) และ Light Cream Maker (1%): การผสมผสานนี้เป็นจุดหลักที่อาจมีความท้าทาย ดังที่กล่าวถึงในข้อความตอบกลับในฟอรั่ม Light Cream Maker™ เป็นสารประสานเนื้อครีมที่ สามารถ ประสานซิลิโคนอย่าง Cyclomethicone ได้ถึงประมาณ 10% แต่ Light Cream Maker 1% อาจน้อยเกินไปสำหรับการประสาน Cyclomethicone 2% ให้เข้ากันอย่างเสถียรและได้เนื้อสัมผัสที่เรียบเนียน โดยเฉพาะหากคุณต้องการความรู้สึกนุ่มลื่นจากซิลิโคน สำหรับการประสานซิลิโคนที่ดีขึ้น หรือต้องการความรู้สึกนุ่มลื่นที่ชัดเจนขึ้น สารประสานเนื้อครีมที่ออกแบบมาสำหรับระบบ Water-in-Silicone โดยเฉพาะ เช่น Warp Cream Maker™ หรือ Warp Cream Maker™ XL มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แม้ว่าอาจต้องใช้เทคนิคการผสมที่แตกต่างออกไปและอาจทำให้เนื้อสัมผัสสุดท้ายเปลี่ยนไปอย่างมาก
คำแนะนำ: ควรลองทำสูตรตามที่เสนอมาก่อนเป็นอันดับแรก สังเกตเนื้อสัมผัสและความคงตัว โดยเฉพาะการเข้ากันของ Cyclomethicone หากพบปัญหาในการประสานเนื้อ หรือเนื้อสัมผัสหนักเกินไป (อาจเกิดจาก Vitamin E หรือระบบสารประสานเนื้อ) ให้พิจารณาปรับสูตรตามข้อแนะนำข้างต้น เช่น ลองใช้สารประสานเนื้อสำหรับซิลิโคนโดยเฉพาะ หรือปรับเปอร์เซ็นต์/ชนิดของ Vitamin E และเน้นย้ำว่าควรตรวจสอบอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำสำหรับ Stabilized Vit C ที่คุณใช้
ระยะเวลารอคอยก่อนทาครีมตัวอื่น
หลังจากทาเซรั่ม โดยเฉพาะเซรั่มที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างวิตามินซี ควรปล่อยให้เซรั่ม ซึมเข้าสู่ผิวจนเต็มที่ ก่อนที่จะทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชั้นถัดไป (เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือครีมกันแดด)
โดยทั่วไปแล้ว การรอประมาณ 1 ถึง 5 นาที ก็เพียงพอ คุณจะรู้ว่าพร้อมแล้วเมื่อเซรั่มไม่รู้สึกเปียกหรือเหนียวเหนอะหนะบนผิวอีกต่อไป การปล่อยให้เซรั่มซึมจะช่วยให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชั้นทำปฏิกิริยาเชิงลบต่อกัน (เช่น การเป็นขุย หรือประสิทธิภาพลดลง)
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Propylene Glycol

Light Cream Maker™

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)

Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)

Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)

Vitamin E (Tocopheryl Acetate) Water-Soluble
