สูตรสกินแคร์ DIY สำหรับผิวเป็นสิวง่าย ผสมวิตามินซี, บี3, พิเทร่า และ Repair Activator

Subject: แนะนำสูตรสกินแคร์ DIY สำหรับผิวผสม เป็นสิวง่าย

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่ติดต่อเข้ามานะคะ ยินดีด้วยค่ะที่ใช้ชุด Vitamin C E Ferulic แล้วได้ผลดี และสนใจที่จะลองทำสกินแคร์ DIY อื่นๆ ที่ปรับให้เข้ากับสภาพผิวของคุณ (ผิวผสม, มันช่วงทีโซน, เป็นสิวอุดตันง่าย, มีรอยแดงรอยดำจากสิว) และส่วนผสมที่คุณสนใจ (Pitera, Perfect-C, Repair Activator)

สำหรับคำถามเรื่องการใช้ Vitamin C (โดยเฉพาะ L-Ascorbic Acid เหมือนในชุดที่คุณใช้) และ Vitamin B3 (Niacinamide) ร่วมกัน: ตามที่ทีมงานได้แจ้งไป โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้คนละช่วงเวลาของวัน เพื่อเลี่ยงการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น หรือประสิทธิภาพที่ลดลง แม้ว่าสูตรสมัยใหม่อาจช่วยลดปัญหานี้ได้ วิธีที่ง่ายคือใช้ Vitamin C ในตอนเช้า และ Vitamin B3 ในตอนเย็นค่ะ

จากสภาพผิว ปัญหาผิว และส่วนผสมที่คุณสนใจ ทีมงานขอเสนอแนวทางการใช้สกินแคร์ DIY แบบหลายขั้นตอน ดังนี้ค่ะ ซึ่งแต่ละสูตรค่อนข้างผสมได้ไม่ยากค่ะ:

ขั้นตอนที่ 1: โทนเนอร์สำหรับลดสิวอุดตัน (ใช้เป็นครั้งคราว)
ใช้โทนเนอร์นี้ต่อเนื่อง 2-5 วัน เมื่อสังเกตว่ามีสิวอุดตันขึ้น จากนั้นลดความถี่ในการใช้ หรือหยุดใช้จนกว่าจะจำเป็นต้องใช้อีกครั้งค่ะ

• Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate) (ID 357): 95%
• Salicylic Acid EZ (ID 766): 5%
• วิธีผสม: รวม Pitera และ Salicylic Acid EZ เข้าด้วยกัน คนหรือเขย่าเบาๆ จน Salicylic Acid EZ ละลายหมด

ขั้นตอนที่ 2: เซรั่มตอนเช้า (สารต้านอนุมูลอิสระ & ผิวสว่างใส)
เซรั่มเบสน้ำมันนี้เน้น Vitamin C (Perfect-C) และ Vitamin E เพื่อการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ใช้ในปริมาณน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวมันค่ะ

• Perfect-C TransDerm (Ascorbyl Tetraisopalmitate) (ID 499): 10%
• Vitamin E Acetate (ID 109): 1%
• Squalane (ID 116): 89%
• วิธีผสม: รวมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน และคนให้เข้ากันดี

ขั้นตอนที่ 3: เซรั่มตอนเย็น (ฟื้นฟูผิว, กระชับรูขุมขน, ลดรอยแดงรอยดำ)
เซรั่มเบสน้ำนี้รวม Repair Activator, Vitamin B3 และ Vitamin B5 เพื่อช่วยฟื้นฟูผิว จัดการปัญหารูขุมขน รอยแดง และรอยดำจากสิว

• Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) (ID 259): 10%
• Safe-B3 (Niacinamide) (ID 74): 5%
• Panthenol (Vitamin B5) (ID 111): 2%
• Hyaluronic Acid Solution (1%) (ID 124): 20%
• Propanediol 1,3 (ID 887): 5%
• Mild Preservative (ID 227): 1%
• น้ำกลั่น (Distilled Water): ส่วนที่เหลือให้ครบ 100% (ประมาณ 57%)
• วิธีผสม: ในภาชนะที่สะอาด รวม น้ำกลั่น, Propanediol 1,3, Panthenol, Safe-B3, Repair Activator, Hyaluronic Acid Solution (1%) และ Mild Preservative เข้าด้วยกัน คนให้เข้ากันอย่างทั่วถึงจนส่วนผสมทั้งหมดละลายและเซรั่มเข้ากันดี การอุ่นเบาๆ (เช่น ในอ่างน้ำอุ่น) อาจช่วยให้ส่วนผสมที่เป็นผง เช่น Safe-B3 ละลายเร็วขึ้น แต่ไม่จำเป็นหากคุณคนอย่างอดทนค่ะ

ขั้นตอนที่ 4: มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา (ให้ความชุ่มชื้น & เสริมเกราะป้องกันผิว)
ครีมเนื้อบางเบาที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว โดยไม่รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะบริเวณที่ผิวมัน สูตรนี้จำเป็นต้องใช้ความร้อนและการผสมพื้นฐานเพื่อทำให้เกิดอิมัลชันค่ะ

• น้ำกลั่น (Distilled Water): ส่วนที่เหลือให้ครบ 100% (ประมาณ 70%)
• Propanediol 1,3 (ID 887): 5%
• Panthenol (Vitamin B5) (ID 111): 2%
• Isononyl Isononanoate (ID 100): 5%
• Squalane (ID 116): 3%
• Ceramide Complex (ID 255): 3%
• Satin Cream Maker (ID 247): 5%
• Mild Preservative (ID 227): 1%
• วิธีผสม:
  1. ส่วนน้ำ: รวม น้ำกลั่น, Propanediol 1,3, และ Panthenol ในภาชนะทนความร้อน อุ่นให้ได้อุณหภูมิ 70-75°C
  2. ส่วนน้ำมัน: รวม Isononyl Isononanoate, Squalane, Ceramide Complex, และ Satin Cream Maker ในภาชนะทนความร้อนอีกใบ อุ่นให้ได้อุณหภูมิ 70-75°C
  3. การทำอิมัลชัน: เทส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำ พร้อมกับผสมอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องปั่นมือ (stick blender) หรือตะกร้อ จนได้เนื้อครีมที่เนียนเข้ากัน
  4. การทำให้เย็น: เปลี่ยนเป็นการคนช้าลง และคนต่อไปขณะที่ครีมเย็นตัวลง
  5. การใส่สารกันเสีย: เมื่อครีมเย็นลงต่ำกว่า 40°C ใส่ Mild Preservative และคนให้เข้ากันดี

แนวทางนี้ช่วยให้คุณสามารถดูแลปัญหาผิวที่หลากหลายด้วยผลิตภัณฑ์ที่เน้นเฉพาะทาง คล้ายกับขั้นตอนที่คุณใช้อยู่ปัจจุบัน แต่เปลี่ยนมาใช้สูตร DIY ที่มีส่วนผสมที่คุณสนใจ คุณสามารถปรับความเข้มข้นเล็กน้อย หรือเปลี่ยนส่วนผสมได้เมื่อคุณคุ้นเคยกับการทำ DIY มากขึ้นค่ะ ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้าเสมอค่ะ

หากต้องการปรับเปลี่ยนหรือมีคำถามเพิ่มเติม แจ้งได้เลยนะคะ!