สูตรสำหรับผิวคล้ำเสียดสี (รักแร้, ข้อพับ)

ปัญหาผิวคล้ำบริเวณที่เกิดการเสียดสี เช่น รักแร้ ขาหนีบ และข้อพับ เกิดจากการกระตุ้นการสร้างเม็ดสี การใช้สารไวท์เทนนิ่งที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดรอยคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้

สารไวท์เทนนิ่งที่แนะนำสำหรับใช้ในสูตรสำหรับบริเวณเหล่านี้ ได้แก่:

• Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol): เป็นสารยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการสร้างเม็ดสี มีประสิทธิภาพสูง ใช้ในผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้ (leave-on) ที่ความเข้มข้น 0.1-1% ละลายได้ในน้ำมัน
• Phenylethyl Resorcinol (e.q. SymWhite 377): ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ใช้ในผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้ที่ความเข้มข้น 0.1-1% สามารถละลายในน้ำมัน หรือเติมลงในเนื้อครีมในขั้นตอนสุดท้ายได้ ค่า pH ของสูตรสำเร็จรูปควรอยู่ที่ 4-5
• HR-White™ (4-Hexylresorcinol): เป็นสารยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Hydroquinone ใช้ที่ความเข้มข้น 0.1-1% ละลายได้ใน Glycol หรือ Dimethyl Isosorbide
• MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine): ทำงานโดยลดการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผ่านกลไก Alpha-MSH ใช้ที่ความเข้มข้น 0.5-2% ต้องละลายในน้ำมันหรือแอลกอฮอล์ โดยใช้ความร้อนช่วย (ประมาณ 80°C)
• Hydro-White™ (Hydroquinone-Replacer): ยับยั้งการขนส่งเม็ดสีไปยังผิวชั้นบน ใช้ที่ความเข้มข้น 1-2% ละลายได้ในน้ำ โดยใช้ความร้อนช่วย (60-80°C)
• MelaninTerminate™: ยับยั้งการสร้างเม็ดสีด้วยกลไกที่แตกต่าง (endothelin antagonist) ใช้ที่ความเข้มข้น 0.01-0.1% ละลายได้ในน้ำ และไม่ควรใช้ความร้อน

วิธีการเลือกใช้และการผสมในสูตร:

ท่านสามารถเลือกใช้สารไวท์เทนนิ่ง 1-2 ชนิด หรือผสมผสานกันเพื่อเสริมประสิทธิภาพได้ ควรเริ่มต้นจากความเข้มข้นต่ำก่อน โดยเฉพาะเมื่อทำสูตรสำหรับบริเวณที่บอบบาง เช่น รักแร้และข้อพับ

1. เตรียมเบส: เริ่มต้นจากการเตรียมเบสครีมหรือโลชั่นที่เหมาะสม ท่านสามารถศึกษาได้จากคู่มือการผสมสูตรพื้นฐานเพื่อทำเบสอิมัลชั่น
2. ผสมสารออกฤทธิ์: เติมสารไวท์เทนนิ่งที่เลือกใช้ตามคำแนะนำเฉพาะของสารแต่ละชนิด (เช่น ละลายในส่วนน้ำมัน ส่วนน้ำ หรือ Glycol ก่อนนำไปรวมกับเบสหลัก)
3. ปรับค่า pH: ตรวจสอบและปรับค่า pH ของสูตรสำเร็จรูปให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับสารออกฤทธิ์ที่ใช้ เนื่องจากความเสถียรอาจขึ้นอยู่กับค่า pH (เช่น Phenylethyl Resorcinol ต้องการ pH 4-5)
4. เติมสารช่วยคงสภาพ: พิจารณาเติมสารช่วยคงสภาพหรือสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Disodium EDTA หรือ ActiveProtec OX หากมีการแนะนำสำหรับสารออกฤทธิ์ชนิดนั้นๆ เพื่อช่วยรักษาความเสถียรและป้องกันการเปลี่ยนสี

ข้อควรระวังที่สำคัญ:

• ผิวบริเวณที่เกิดการเสียดสีอาจบอบบาง อาจเกิดการระคายเคืองได้ ควรทดสอบบนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้จริงเสมอ
• ลดการเสียดสีบริเวณดังกล่าวให้น้อยลง
• ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างสม่ำเสมอ
• ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของรอยคล้ำ โดยทั่วไปต้องใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจน

โปรดจัดการกับส่วนผสมด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามหลักการผลิตที่ดีเมื่อสร้างสูตรของท่าน