สูตรสำหรับดูแลผิวหลังทำ Derma Roller

สวัสดีครับ สำหรับสูตรที่คุณเสนอมาที่ใช้น้ำ (95%), Live Yeast Cell Derivative (LYCD) (2%), Copper Peptide (GHK-Cu) (2%), และ Epidermal Growth Factor (EGF) (1%) เพื่อช่วยสมานแผลหลังทำ Derma Roller นั้น ส่วนผสมที่คุณเลือกมาถือว่าดีเยี่ยมสำหรับการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวครับ

จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่พบ:

• Live Yeast Cell Derivative (Saccharomyces Lysate Extract): มักใช้เพื่อต่อต้านริ้วรอยและฟื้นฟูผิว ความเข้มข้น 2% ที่คุณเสนอมาอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์อย่าง Dermal Respiratory Factor
• Copper Peptide (GHK-Cu): มีคุณสมบัติเด่นในการสมานแผลและปรับโครงสร้างผิว ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูแลผิวหลังทำ Derma Roller ความเข้มข้น 2% ที่คุณเสนอมาอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์อย่าง Copper Peptide (GHK-Cu, Copper Tripeptide-1) (1000ppm Solution)
• Epidermal Growth Factor (EGF): เป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพสูงในการเร่งการเติบโตของเซลล์และซ่อมแซมผิว ซึ่งเป็นประโยชน์ในการสมานผิวที่เสียหาย ความเข้มข้น 1% ที่คุณเสนอมาอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์อย่าง Epidermal Growth Factor (EGF, Recombinant)

แม้ว่าส่วนผสมและความเข้มข้นจะเหมาะสม แต่มีสองจุดสำคัญที่คุณต้องพิจารณาเพื่อความเสถียรและความปลอดภัยของสูตรอย่างง่ายนี้:

1. ความเข้ากันได้ของค่า pH: โดยทั่วไป Copper Peptide จะมีความเสถียรสูงสุดในช่วง pH 4.5-7.4 ในขณะที่ EGF จะมีความเสถียรสูงสุดในช่วง pH 3-5 การนำมารวมกันในเบสน้ำอย่างง่ายโดยไม่มีการปรับค่า pH อาจทำให้ความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งหรือทั้งคู่ลดลง คุณจะต้องปรับค่า pH อย่างระมัดระวังให้อยู่ในช่วงที่ทั้งสองส่วนผสมยังคงมีความเสถียรพอสมควร ซึ่งอาจเป็นช่วงที่ทับซ้อนกันแคบๆ ประมาณ pH 4.5-5.0
2. สารกันเสีย: สูตรที่มีเบสเป็นน้ำเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตั้งใจจะใช้กับผิวที่มีรอยจากการทำ Derma Roller จะเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของแบคทีเรียได้ง่าย จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องเพิ่มระบบสารกันเสีย (preservative) ที่ครอบคลุม (broad-spectrum) ลงในสูตรของคุณ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

สรุปคือ ส่วนผสมที่คุณเลือกมามีความเหมาะสมและใช้ในความเข้มข้นที่แนะนำ อย่างไรก็ตาม สูตรอย่างง่ายที่คุณเสนอมา (แค่น้ำกับสารออกฤทธิ์) ยังไม่เสถียรและไม่ปลอดภัย เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องค่า pH ที่เข้ากันไม่ได้ และการขาดสารกันเสีย คุณจำเป็นต้องเพิ่มสารกันเสียและปรับค่า pH อย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เสถียรและปลอดภัยครับ