การทำสเปรย์บำรุงผิวจากสูตรที่คุณมี

ใช่ค่ะ ทั้งสองสูตรที่คุณให้มาสามารถนำมาทำเป็นสเปรย์บำรุงผิวคล้ายน้ำแร่ได้ เนื่องจากส่วนประกอบแอคทีฟทั้งหมดที่คุณระบุมานั้นละลายน้ำได้ และสูตรของคุณมีส่วนประกอบของน้ำในปริมาณสูง

อย่างไรก็ตาม สูตรเหล่านี้ไม่ใช่แค่น้ำแร่ธรรมดา แต่มีส่วนประกอบแอคทีฟหลายชนิดที่มุ่งเน้นให้ประโยชน์เฉพาะกับผิว:

• Safe-B3™ (วิตามินบี 3, Niacinamide): มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยเรื่องรอยดำ เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันผิว และควบคุมความมัน
• GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): ทำงานร่วมกับ Niacinamide เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ กระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติเพื่อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
• Licorice Extract: ช่วยลดการอักเสบของผิว รอยแดงจากสิว การระคายเคือง และควบคุมความมันบนผิว (มีในสูตรแรก)
• WaterLock (Polyquaternium-51): ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นโดยช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวชั้นนอก (มีในสูตรแรก)
• WhiteCumin™ 2x (Tetrahydrocurcuminoids): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงและช่วยให้ผิวกระจ่างใส (มีในสูตรแรก)
• Trans-White™ (Tranexamic Acid): ใช้เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดเลือนฝ้า (มีในสูตรที่สอง)

เนื่องจากส่วนประกอบเหล่านี้ละลายในน้ำได้ทั้งหมด คุณสามารถผสมส่วนประกอบเหล่านี้ลงในส่วนของน้ำได้โดยตรงตามเปอร์เซ็นต์ที่คุณระบุไว้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผงทั้งหมดละลายจนหมดก่อนที่จะนำไปบรรจุในขวดสเปรย์ ของเหลวที่ได้ควรมีความหนืดต่ำพอที่จะพ่นออกมาเป็นละอองละเอียดได้

สูตรแรกที่มี WaterLock อาจให้ความรู้สึกที่เคลือบผิวเล็กน้อยหรือไม่เหมือนน้ำเปล่าซะทีเดียวเมื่อเทียบกับน้ำแร่บริสุทธิ์หรือสูตรที่สอง เนื่องจากคุณสมบัติการสร้างฟิล์มของ WaterLock ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น สูตรที่สองน่าจะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับน้ำแร่มากกว่าในแง่ของเนื้อสัมผัส ในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์จาก Trans-White™, Safe-B3™ และ GlucoBright™

ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากเพื่อให้สูตรเหล่านี้สามารถทำเป็นสเปรย์ได้ เพียงแค่ต้องแน่ใจว่าส่วนประกอบทั้งหมดละลายในน้ำจนหมดค่ะ