สูตรเซรั่มรักษาสิว ควบคุมความมัน และปรับผิวให้กระจ่างใส

ถามโดย: nuaom5562 เมื่อ: September 22, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการพัฒนาสูตรเซรั่มเพื่อแก้ปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน ลดความมัน ผิวหมองคล้ำ รอยดำ รอยแดง

ควรใช้ส่วนผสมอะไรบ้างสำหรับเซรั่มประเภทนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี 3 (Niacinamide)?

โดยทั่วไปแล้วจะเห็นผลจากการใช้เซรั่มดังกล่าวในระยะเวลาประมาณเท่าใด?

คำตอบ

แนะนำส่วนผสมสำหรับเซรั่มรักษาสิว ควบคุมความมัน และปรับผิวให้กระจ่างใส

สำหรับคำถามเกี่ยวกับการให้บริษัทผสมส่วนผสมให้ ทางบริษัทไม่มีบริการผสมสูตรเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายค่ะ เราเน้นการจำหน่ายวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อให้ลูกค้านำไปพัฒนาสูตรของตนเองค่ะ

สำหรับเซรั่มที่เน้นปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน ลดความมัน เพิ่มความขาวใส ลดรอยดำ รอยแดง ขอแนะนำส่วนผสมเหล่านี้ค่ะ

  • Salicylic Acid (BHA): มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวและซึมเข้าสู่รูขุมขนเพื่อช่วยขจัดสิ่งอุดตันและสิวเสี้ยน นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนผิวได้ดี
  • สารสกัดจากชะเอมเทศ (Licorice Extract): สารสกัดจากชะเอมเทศมีหลายชนิดค่ะ
    • ชนิดที่มี Licochalcone A สูง จะช่วยลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดงจากสิว ลดการระคายเคือง และช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า
    • ชนิดที่มี Glabridin สูง มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยดำ และลดการระคายเคือง
  • วิตามินบี 3 (Niacinamide): เป็นวิตามินที่มีประโยชน์หลากหลาย ช่วยลดรอยแดงและรอยดำ เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และยังช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้าได้ดี เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว
  • วิตามินซี (Vitamin C): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำและรอยดำจากสิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีวิตามินซีหลายรูปแบบที่มีความเสถียรและเหมาะสำหรับใช้ในเซรั่ม เช่น Ascorbyl Glucoside, Ethyl Ascorbic Acid หรือ Sodium Ascorbyl Phosphate
  • Alpha Arbutin: มีชื่อเสียงในด้านการปรับสีผิวให้กระจ่างใส โดยช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน มีประสิทธิภาพในการลดเลือนจุดด่างดำและช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น
  • วิตามินอี (Vitamin E): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย และทำงานเสริมกับวิตามินซีได้ดี

การนำส่วนผสมเหล่านี้มารวมกัน เช่น Salicylic Acid, วิตามินบี 3 (Niacinamide), วิตามินซีชนิดที่เสถียร, Alpha Arbutin, และสารสกัดจากชะเอมเทศชนิดที่เหมาะสม จะช่วยสร้างเซรั่มที่มีประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาผิวที่คุณกล่าวมาได้

สำหรับระยะเวลาเห็นผลนั้น แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว สูตรที่ใช้ และความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ โดยทั่วไปแล้ว การใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์ (ประมาณ 8 สัปดาห์ขึ้นไป) จึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในเรื่องสีผิวและความกระจ่างใส ส่วนผลในเรื่องความมันและสิวที่กำลังเห่ออาจเห็นผลได้เร็วกว่าค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
เครื่องสำอาง
Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
เครื่องสำอาง