การวิเคราะห์สูตรและการแนะนำ

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับสูตรเซรั่มที่มีค่า pH เป้าหมายประมาณ 3.5:

1. ความเข้ากันได้ของ Prebio-care และ Yeast Radiance ที่ pH 3.5

จากข้อมูลผลิตภัณฑ์:

• Prebio-care แนะนำให้ใช้ในสูตรที่มีค่า pH อยู่ในช่วง 4-10
• Yeast Radiance แนะนำให้ใช้ในสูตรที่มีค่า pH อยู่ในช่วง 4.0-6.5

การใส่ส่วนผสมทั้งสองนี้ในสูตรที่มีค่า pH เป้าหมายที่ 3.5 จะอยู่นอกช่วง pH ที่แนะนำสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าจะไม่เสื่อมสภาพทันที แต่ความเสถียรและประสิทธิภาพในระยะยาวอาจลดลงที่ pH ที่ต่ำกว่านี้ โดยทั่วไปแล้ว ควรปรับสูตรให้อยู่ในช่วง pH ที่แนะนำเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและอายุการเก็บรักษาที่ดีที่สุด

2. ผลของค่า pH 4 ต่อประสิทธิภาพของ Ampho-Glycolic

Ampho-Glycolic เป็น Glycolic Acid ที่จับคู่กับ Arginine ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดการระคายเคืองในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพไว้ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ระบุว่ามีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว Glycolic Acid โดยทั่วไปจะมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ค่า pH ต่ำ (ต่ำกว่า 4.0) ซึ่งจะมีปริมาณกรดอิสระในรูปที่สูงกว่า ทำให้ซึมเข้าสู่ผิวและผลัดเซลล์ผิวได้ดีขึ้น

แม้ว่า pH 3.5 จะใกล้เคียงกับช่วงที่เหมาะสมสำหรับกรดอิสระเพื่อการผลัดเซลล์ผิว แต่ pH 4.0 ก็ยังอยู่ในช่วงที่ Glycolic Acid สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนผสมที่ปล่อยสารออกฤทธิ์แบบควบคุมเวลาอย่าง Encapsulated Salicylic Acid อยู่ด้วย Ampho-Glycolic ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้ระคายเคืองน้อยกว่า Glycolic Acid ทั่วไปที่ pH ต่ำ ซึ่งบ่งชี้ว่าเหมาะสำหรับใช้ในสูตรที่เป็นกรด ที่ pH 4 Ampho-Glycolic ควรจะยังคงให้ประโยชน์ในการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าอาจจะน้อยกว่าที่ pH 3.5 เล็กน้อย แต่ก็น่าจะระคายเคืองน้อยกว่า Glycolic Acid ทั่วไปที่ pH เดียวกัน

3. สามารถผสมด้วย Hand Blender ได้หรือไม่

ได้ คุณสามารถใช้ Hand Blender ในการผสมสูตรนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการกระจายส่วนผสมที่เป็นผงในส่วนของน้ำ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังดังนี้:

• การเกิดฟองอากาศ: Hand Blender อาจทำให้เกิดฟองอากาศจำนวนมากในเนื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจกำจัดออกได้ยากและส่งผลต่อลักษณะของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป พยายามจุ่มหัวปั่นให้จมอยู่ในของเหลวตลอดเวลาและหลีกเลี่ยงการยกหัวปั่นขึ้นขณะปั่น
• ThixoGel: ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ ThixoGel ระบุว่าต้องใช้ความร้อน (ไม่เกิน 80°C) และการคนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ละลายหมดจดและได้เนื้อเจลที่ใสและข้น Hand Blender สามารถให้การคนได้ แต่คุณจะต้องให้ความร้อนกับส่วนของน้ำอย่างเหมาะสมก่อนเติม ThixoGel และปั่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ThixoGel ละลายหมดก่อนดำเนินการขั้นตอนต่อไป

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับส่วนผสมที่ต้องการสภาวะการผสมที่เฉพาะเจาะจงอย่าง ThixoGel การใช้เครื่องกวนแม่เหล็กพร้อมระบบทำความร้อนอาจช่วยให้ควบคุมการผสมและการให้ความร้อนได้ดีกว่า

4. เนื้อผลิตภัณฑ์จะซึมง่ายหรือไม่

จากส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ที่ใช้:

• ThixoGel (1%): จะทำหน้าที่เป็นสารก่อเจลหลัก สร้างเนื้อเจลแบบ Thixotropic ซึ่งหมายความว่าเซรั่มจะมีความข้นเมื่ออยู่นิ่ง แต่จะเหลวขึ้นและกระจายตัวได้ง่ายขึ้นเมื่อถูกแรงเฉือน (เช่น การทาลงบนผิว) ทำให้เกลี่ยง่าย
• HumecMax (5%): ในฐานะที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง HumecMax จะช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้รู้สึกชุ่มชื้นบนผิว ที่ความเข้มข้น 5% จะให้ความชุ่มชื้นอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อยหลังทา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสูตรโดยรวม
• Dimethyl Isosorbide (DMI) (3%): DMI เป็นสารช่วยนำพาและตัวทำละลาย สามารถช่วยให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และสามารถปรับปรุงความรู้สึกของสูตร มักจะทำให้รู้สึกเหนอะหนะน้อยลงและเกลี่ยง่ายขึ้น

โดยรวมแล้ว สูตรนี้น่าจะมีเนื้อสัมผัสแบบเจลที่เกลี่ยง่าย เนื่องจากลักษณะ Thixotropic ของ ThixoGel และการมีอยู่ของ DMI ควรจะซึมซาบได้ค่อนข้างดี ทำให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้นจาก HumecMax ความรู้สึกสุดท้ายจะเป็นความสมดุลระหว่างผลของการก่อเจล ความรู้สึกชุ่มชื้นจากสารให้ความชุ่มชื้น และการเกลี่ยที่ง่ายขึ้นจาก DMI ลักษณะ Thixotropic ของเจลควรช่วยให้เกลี่ยได้ง่ายในตอนแรก