สูตรแชมพูสมุนไพรไร้พาราเบน ซิลิโคน ซัลเฟต พร้อมการปรับค่า pH
คำถาม
อยากได้สูตรส่วนผสมแชมพูสมุนไพรค่ะ ปกติทำใช้เอง ใส่มะกรูดเป็นส่วนผสมหลักประมาณ 60 % ขิง 20 % อัญชัญ 15 % น้ำเปล่า 5%
อยากได้สูตรผสมที่ไม่มี:
- พาราเบน
- ซิลิโคน
- ซัลเฟต
ผสมแล้วได้ค่า ph ประมาณ 4.5-5.5 ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คำตอบ
สูตรแชมพูสมุนไพรไร้พาราเบน ซิลิโคน และซัลเฟต
การทำแชมพูสมุนไพรใช้เองโดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติอย่างมะกรูด ขิง และอัญชัน เป็นวิธีที่ดีในการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของสมุนไพรเหล่านี้ค่ะ สูตรที่คุณลูกค้าใช้อยู่ซึ่งมีสัดส่วนของวัตถุดิบธรรมชาติสูงมากนั้นเป็นแนวทางที่ดี แต่การจะพัฒนาให้เป็นแชมพูที่มีความคงตัว มีฟองที่เหมาะสม ทำความสะอาดได้ดี และมีค่า pH ที่แม่นยำในช่วง 4.5-5.5 มักจะต้องใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปจากการผสมวัตถุดิบสดในปริมาณสูงกับน้ำโดยตรงค่ะ
วัตถุดิบจากธรรมชาติมีความหลากหลายในองค์ประกอบและค่า pH ซึ่งทำให้การควบคุมความคงที่ของผลิตภัณฑ์และค่า pH ที่แน่นอนเป็นเรื่องท้าทาย เพื่อให้ได้แชมพูที่คงตัว มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของคุณลูกค้า (ไม่มีพาราเบน ซิลิโคน ซัลเฟต และมีค่า pH 4.5-5.5) แนะนำให้ใช้เบสแชมพูที่ไม่มีซัลเฟตและพาราเบนเป็นพื้นฐาน และนำสมุนไพรมาทำเป็นสารสกัดหรือน้ำสมุนไพรเข้มข้น แล้วจึงนำมาผสมในปริมาณที่เหมาะสมและควบคุมได้ค่ะ
นี่คือเบสแชมพูที่ไม่มีซัลเฟต พาราเบน และเหมาะสำหรับการนำไปพัฒนาสูตร:
- Sulfate Free No-Tear Shampoo Base (pH 6, Clear, Foaming) (รหัสสินค้า 1185): เบสนี้อ่อนโยนมาก ไม่มีซัลเฟตและพาราเบน มีค่า pH อยู่ในช่วง 6.5-7.5 ซึ่งสูงกว่าค่าที่คุณลูกค้าต้องการเล็กน้อย แต่สามารถปรับได้
- Sulfate-Free Foaming Base (pH 6, Clear, Foaming) (รหัสสินค้า 8020): เป็นอีกหนึ่งเบสที่ไม่มีซัลเฟตและพาราเบน มีค่า pH อยู่ในช่วง 5.5-7.5 ให้ฟองและการทำความสะอาดที่ดี
- Sulfate-Free No-Tear Foaming Base (pH 6, Clear, Foaming) (รหัสสินค้า 10040): คล้ายกับรหัส 1185 เป็นเบสอ่อนโยน ไม่มีซัลเฟตและพาราเบน มีค่า pH 5-7
เบสเหล่านี้จะช่วยให้แชมพูมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดและเกิดฟองโดยไม่มีซัลเฟต และโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีซิลิโคนด้วย แต่ควรตรวจสอบรายการส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งหากต้องการความมั่นใจ 100% ค่ะ
ในการนำสมุนไพรของคุณลูกค้า (มะกรูด ขิง อัญชัน) มาใช้ จะต้องเตรียมเป็นสารสกัดเข้มข้นหรือน้ำสมุนไพรที่ต้ม/สกัดอย่างดี จากนั้นนำสารสกัดนี้มาผสมกับเบสแชมพูในปริมาณที่เหมาะสม (เช่น 5-15% ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารสกัดและอัตราส่วนการใช้เบสที่แนะนำ) ส่วนที่เหลือจะเป็นเบสแชมพูและอาจมีน้ำสะอาดเพิ่มเติมหากเบสต้องเจือจางค่ะ
การปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วง 4.5-5.5 ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมกับหนังศีรษะและเส้นผม จะต้องใช้สารปรับค่า pH เนื่องจากเบสที่แนะนำมีค่า pH ประมาณ 6-7 คุณลูกค้าจะต้องใช้กรดอ่อนๆ เช่น Lactic Acid 88% (รหัสสินค้า 152) หรือ Citric Acid Anhydrous (รหัสสินค้า 146) เพื่อลดค่า pH ลงมาให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ ค่อยๆ เติมกรดทีละน้อยพร้อมคน และวัดค่า pH ด้วยเครื่องวัดหรือกระดาษวัดค่า pH จนกว่าจะได้ค่าที่ต้องการค่ะ
เนื่องจากมีการเติมส่วนผสมจากธรรมชาติและน้ำลงไป จึงจำเป็นต้องใช้สารกันเสียที่ไม่มีพาราเบน เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และยืดอายุการใช้งานของแชมพู สารกันเสียที่ไม่มีพาราเบนและเหมาะสำหรับใช้ในช่วง pH ที่ต้องการ ได้แก่:
- Mild Preserved CGZ™ (Preservative-Free, Wide-pH Range) (รหัสสินค้า 33415): ใช้ได้ดีในช่วง pH 4-9
- Mild Preserved™ COS (pH 2-8, Broad Spectrum, No-Odor) (รหัสสินค้า 33939): มีประสิทธิภาพในช่วง pH กว้าง 2-8
- NaturePreserve™ Ultra (Gluconolactone & Sodium Benzoate) (รหัสสินค้า 520): เป็นทางเลือกจากธรรมชาติ มักมีประสิทธิภาพที่ pH ต่ำกว่า 6 ซึ่งอยู่ในช่วงที่คุณลูกค้าต้องการ
แนวคิดพื้นฐานในการผสม:
แนวทางทั่วไปคือ:
- เลือกใช้เบสแชมพูที่ไม่มีซัลเฟต (เช่น Sulfate-Free Foaming Base).
- เตรียมสารสกัด/น้ำสมุนไพรเข้มข้นของคุณลูกค้า (มะกรูด ขิง อัญชัน).
- ผสมเบสแชมพูเข้ากับสารสกัด/น้ำสมุนไพร และน้ำสะอาดตามความเหมาะสม (ดูคำแนะนำการใช้เบส).
- เติมสารกันเสียที่ไม่มีพาราเบน (เช่น Mild Preserved CGZ™).
- วัดค่า pH.
- ค่อยๆ เติมสารปรับค่า pH (เช่น Lactic Acid 88%) พร้อมคน จนกว่าค่า pH จะอยู่ระหว่าง 4.5 ถึง 5.5.
- (เพิ่มเติม) สามารถเติมสารเพิ่มความข้น น้ำหอม หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่ต้องการได้
ตัวอย่าง (แนวคิด - สัดส่วนต้องทดลองปรับตามเบสและความเข้มข้นของสารสกัด):
- เบสแชมพู Sulfate-Free Foaming Base: 30-40%
- สารสกัด/น้ำสมุนไพรเข้มข้น: 5-15%
- น้ำสะอาด: 43-64% (ปรับตามเบสและความเข้มข้นของสารสกัด)
- สารกันเสียที่ไม่มีพาราเบน: 1-2% (ดูคำแนะนำจากผู้จำหน่าย)
- Lactic Acid 88% หรือ Citric Acid Anhydrous: ปริมาณตามที่ต้องการเพื่อปรับ pH
การทำสูตรจำเป็นต้องมีการทดลองเพื่อหาสัดส่วนที่ให้เนื้อสัมผัส ฟอง และความคงตัวที่ต้องการ และแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการทดสอบ Challenge Test สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพเพียงพอค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง
