การประเมินสูตรและวิธีการผสม

จากการรายการส่วนผสมที่คุณให้มาและคำตอบจากเจ้าหน้าที่ นี่คือการประเมินสูตรของคุณสำหรับการลดรอยคล้ำและริ้วรอยรอบดวงตาและตีนกา

ประสิทธิภาพ

การผสมผสานของส่วนผสมออกฤทธิ์ในสูตรของคุณนั้นเลือกมาอย่างดีและมีศักยภาพในการจัดการกับทั้งริ้วรอยและรอยคล้ำ:

• Matrixyl™ 3000 และ Argireline® เป็นเปปไทด์ที่รู้จักกันดีในคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย Matrixyl 3000 ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนเพื่อลดริ้วรอยและปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว ในขณะที่ Argireline ทำงานโดยการลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก
• Apple Stem Cell Extract ถูกรวมไว้เพื่อศักยภาพในการบำรุงเซลล์ผิวและช่วยชะลอเวลาของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ชนิดผงยังมีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวกระจ่างใสโดยไม่ระคายเคือง
• Vitamin B3 (Niacinamide) และ N-Acetyl-DGlucosamine ทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับรอยดำคล้ำและจุดด่างดำ Vitamin B3 ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ซึ่งเป็นประโยชน์ในการลดรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากการไหลเวียนไม่ดี และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว N-Acetyl-DGlucosamine ยังช่วยส่งเสริมความชุ่มชื้นของผิวโดยการกระตุ้นการผลิต Hyaluronic Acid
• Activated Resorcinol™ เป็นสารที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี ช่วยลดจุดด่างดำและปรับสีผิวโดยรวม
• Vitamin E (Tocopheryl Acetate) ให้ประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
• LipidSoft ทำหน้าที่เป็น Emollient ช่วยให้ผิวนุ่มและช่วยให้ผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายบนผิว LipidSoft Palm โดยเฉพาะให้ความชุ่มชื้นได้ดี แต่สามารถอุดตันรูขุมขนได้สำหรับบางสภาพผิว
• Satin Mousse™ น่าจะช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความรู้สึกของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
• สารกันเสีย มีความสำคัญต่อความคงตัวของผลิตภัณฑ์และป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

ดังที่เจ้าหน้าที่กล่าวถึง ประสิทธิภาพที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของแต่ละบุคคล

คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ให้พิจารณาลดความเข้มข้นของเปปไทด์บางตัวหรือ Apple Stem Cell Extract และเพิ่ม Liquid DMAE 10% เป็นแนวทางที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเห็นผลได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการยกกระชับผิว DMAE เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติในการกระชับผิวและทำงานได้ดีเมื่อใช้ร่วมกับเปปไทด์และวิตามิน อย่างไรก็ตาม ควรระลึกไว้ว่า DMAE โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูงถึง 10% อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้สำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบางหรือแพ้ง่าย

วิธีการผสม

เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงการปรับปรุงที่จำเป็นในวิธีการผสมของคุณอย่างถูกต้อง

• ขั้นตอนเริ่มต้นของคุณในการเตรียมส่วน A (ละลายส่วนผสมที่ละลายน้ำได้และเติม Satin Mousse) และส่วน B (ผสมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน เช่น Vitamin E, Activated Resorcinol และ LipidSoft) นั้นเหมาะสมสำหรับการแยกเฟสน้ำและเฟสน้ำมัน
• ขั้นตอนสำคัญในการสร้างครีมหรือโลชั่นที่คงตัว (อิมัลชัน) คือการค่อยๆ เติมเฟสภายในลงในเฟสภายนอกในขณะที่คนอย่างต่อเนื่อง ในสูตรนี้ เฟสน้ำ (ส่วน A) เป็นเฟสภายนอก และเฟสน้ำมัน (ส่วน B) เป็นเฟสภายใน
• ดังนั้น การแก้ไขของเจ้าหน้าที่ที่ให้ ค่อยๆ เติมส่วน B ลงในส่วน A ในขณะที่คน เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการสร้างอิมัลชันที่เหมาะสมและได้เนื้อครีมที่คงตัว การเติมส่วน A ลงในส่วน B มีแนวโน้มที่จะทำให้ส่วนผสมไม่คงตัว
• การเติมสารกันเสียในขั้นตอนสุดท้าย หลังจากที่อิมัลชันก่อตัวแล้ว ก็เป็นแนวปฏิบัติมาตรฐานเช่นกัน

โดยสรุป สูตรของคุณมีการผสมผสานที่ดีของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่มุ่งเป้าไปที่ทั้งริ้วรอยและรอยคล้ำ วิธีการผสมที่ถูกต้องตามที่เจ้าหน้าที่แก้ไขมีความสำคัญต่อการสร้างผลิตภัณฑ์ที่คงตัว และคำแนะนำในการเพิ่ม Liquid DMAE เป็นแนวทางที่เป็นไปได้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการยกกระชับ โดยคำนึงถึงข้อควรระวังเรื่องความไวต่อผิวที่อาจเกิดขึ้น.