การตรวจสอบสูตรแฮร์โทนิค

นี่คือการวิเคราะห์สูตรแฮร์โทนิคที่คุณเสนอและขั้นตอนการผสม พร้อมคำตอบสำหรับคำถามของคุณ

1. ขั้นตอนการผสม

ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอมานั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่สามารถปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้นเพื่อให้ส่วนผสมบางชนิดละลายและคงตัวได้ดีขึ้น

• ขั้นตอน A (การอุ่น Lavender Water กับ Dandruff-Clear™): การอุ่น Lavender Water (ได้ถึง 80°C) เหมาะสมสำหรับการละลาย Dandruff-Clear™ (ซึ่งละลายได้ดีเมื่อใช้ความร้อนระหว่าง 60-80°C) ขั้นตอนนี้ถูกต้อง
• ขั้นตอน B (การผสมส่วนผสม 3-8 หลังลดอุณหภูมิ แล้วปรับ pH): การผสมส่วนผสม 3-8 ทั้งหมดในคราวเดียวหลังลดอุณหภูมิอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากส่วนผสมแต่ละชนิดมีความสามารถในการละลายและช่วง pH ที่ต้องการแตกต่างกัน
  • Sebum-Reg™ (Capryloyl Glycine) ต้องละลายในน้ำหรือเอทานอลที่มี pH สูงกว่า 7 โดยอาจใช้ความร้อนช่วย (70°C) ก่อนที่จะปรับ pH ของสูตรทั้งหมดลงมาที่ 4-6 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด การเติมลงในส่วนผสมที่เย็นแล้วปรับ pH อาจไม่ทำให้ละลายได้หมด
  • N-Acetyl Cysteine และ Vitamin B6 ไวต่อความร้อนและแสง Vitamin B6 ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C ควรเติมหลังจากส่วนผสมเย็นลงเพียงพอแล้ว
  • Calcium Pantothenate, Pure Keratin™, Ectoine, และ Pure MSM™ สามารถทนความร้อนได้สูงกว่า และสามารถเติมหลังจากส่วนผสม Lavender Water/Dandruff-Clear™ เย็นลงแล้ว
  • Melatonin Forte™ ควรเติมในขั้นตอนสุดท้าย และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปควรได้รับการปกป้องจากการสัมผัสอากาศ
  • Laurocapram ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 60°C

ขั้นตอนการผสมที่แนะนำให้ปรับปรุง:

1. ในบีกเกอร์ ให้ความร้อน Lavender Water ถึง 60-80°C เติม Dandruff-Clear™ และคนจนละลายหมด ลดอุณหภูมิส่วนผสมนี้ให้ต่ำกว่า 40°C
2. ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก ตักส่วนผสม Lavender Water ที่เย็นแล้วออกมาเล็กน้อย เติม Sebum-Reg™ และปรับ pH ของส่วนเล็กๆ นี้ให้สูงกว่า 7 (โดยใช้สารปรับ pH ที่เหมาะสม เช่น Triethanolamine ซึ่งไม่ได้อยู่ในสูตรปัจจุบันของคุณ หรืออาจลองละลาย Sebum-Reg™ ใน Ethyl Alcohol ก่อนหากละลายได้ดี) คนและให้ความร้อนส่วนเล็กๆ นี้เบาๆ ถึงประมาณ 70°C หากจำเป็นเพื่อให้ Sebum-Reg™ ละลายหมด ปล่อยให้ส่วนเล็กๆ นี้เย็นลง
3. เติม Calcium Pantothenate, Pure Keratin™, Ectoine, และ Pure MSM™ ลงในส่วนผสมหลักของ Lavender Water/Dandruff-Clear™ ที่เย็นแล้ว (จากขั้นตอนที่ 1) คนจนละลาย
4. เติม Biotin Express™, N-Acetyl Cysteine, และ Vitamin B6 ลงในส่วนผสมหลัก คนเบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟองอากาศ เก็บให้ห่างจากแสงในขั้นตอนนี้
5. เติม Laurocapram และ Hydrolyzed Silk Protein ลงในส่วนผสมหลัก คนจนละลาย
6. เติม Ethyl Alcohol ลงในส่วนผสมหลักและคน
7. เติมส่วนผสม Sebum-Reg™ ที่ละลายแล้ว (จากขั้นตอนที่ 2) ลงในส่วนผสมหลัก
8. ตรวจสอบและปรับ pH สุดท้ายของสูตรทั้งหมดให้อยู่ในช่วง 4-6 ช่วงนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับประสิทธิภาพของ Sebum-Reg™ และเหมาะสมสำหรับส่วนผสมอื่นๆ ส่วนใหญ่ N-Acetyl Cysteine และ Vitamin B6 มีความเป็นกรดจะช่วยลด pH ได้ Calcium Pantothenate มีความเป็นด่างเล็กน้อย
9. ในขั้นตอนสุดท้าย เติม Melatonin Forte™ และคนสั้นๆ ให้กระจายตัว
10. หากเป็นไปได้ ให้บรรจุผลิตภัณฑ์ในภาชนะที่ป้องกันอากาศเข้า เนื่องจาก Melatonin Forte™ ไวต่ออากาศ

2. ส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์

จากคำอธิบายผลิตภัณฑ์ ส่วนผสมส่วนใหญ่อธิบายว่าไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นอ่อน/กลิ่นหอม (เช่น Lavender Water และ Ethyl Alcohol) อย่างไรก็ตาม มีส่วนผสมสองชนิดที่อาจเป็นแหล่งของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจมีกลิ่นกำมะถัน:

• Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane): MSM เป็นสารประกอบที่มีกำมะถัน และบางครั้งอาจมีกลิ่นกำมะถันที่สังเกตได้ โดยเฉพาะในรูปแบบผง
• N-Acetyl Cysteine: แม้ว่าคำอธิบายจะไม่ได้กล่าวถึงกลิ่น แต่สารประกอบ Cysteine เป็นที่ทราบกันว่าบางครั้งอาจมีกลิ่นกำมะถัน

การรวมกันของส่วนผสมสองชนิดนี้อาจทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่น่าใช้ และอาจกลบกลิ่นหอมของ Lavender Water

3. ความเหนอะหนะ

• Calcium Pantothenate 3.00%: Calcium Pantothenate เป็นรูปแบบหนึ่งของ Vitamin B5 ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น ลดรอยแดง และลดการระคายเคือง ที่ความเข้มข้น 3% ในสูตรโทนิค ไม่น่าจะทำให้เกิดความเหนอะหนะอย่างมีนัยสำคัญ
• ส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัส:
  • Biotin Express™: คำอธิบายระบุว่าเป็น "ของเหลวใส ข้นเล็กน้อย สีเหลืองอ่อน" แม้ความเข้มข้นจะเพียง 1% ความหนืดของมันเองอาจมีส่วนทำให้รู้สึกหนักขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่น่าจะทำให้เกิดความเหนอะหนะมากในโทนิคแบบสเปรย์
  • Vitamin B6: ในฐานะอิเล็กโทรไลต์ อาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสหรือความหนืดของสูตรได้ แต่โดยทั่วไปแล้วไม่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดความเหนอะหนะโดยตรงในรูปแบบโทนิค

โดยรวมแล้ว ไม่คาดว่าจะเกิดความเหนอะหนะอย่างมีนัยสำคัญจากสูตรนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี Ethyl Alcohol อยู่ด้วย

4. ความจำเป็นในการเพิ่มสารกันเสีย

ใช่ ขอแนะนำอย่างยิ่งให้เพิ่มระบบสารกันเสียแบบ Broad-spectrum เข้าไปในสูตรนี้

• Lavender Water มี Phenoxyethanol 0.8% ซึ่งช่วยในการกันเสียได้บ้าง อย่างไรก็ตาม สูตรของคุณใช้ Lavender Water ที่ 60% พอดี ไม่ใช่ มากกว่า 60% ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ระบุว่าไม่จำเป็นต้องเติมสารกันเสียเพิ่มเติม
• Hydrolyzed Silk Protein เป็นโปรตีนธรรมชาติในรูปแบบผงที่ไม่มีสารกันเสีย และระบุว่าเป็นสารที่เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตได้ง่าย การรวมส่วนผสมนี้เข้าไปจะเพิ่มความเสี่ยงของการปนเปื้อนจุลินทรีย์อย่างมาก
• แม้ว่า Dandruff-Clear™ จะมีคุณสมบัติต้านจุลชีพ แต่หน้าที่หลักในสูตรนี้คือการต้านรังแค/ต้านสิวที่ความเข้มข้น 0.1% ไม่ใช่เป็นสารกันเสียที่ครอบคลุมสำหรับสูตรทั้งหมด
• Ethyl Alcohol ที่ 15.9% มีฤทธิ์ในการกันเสียได้บ้าง แต่ก็อาจไม่เพียงพอด้วยตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีน้ำและโปรตีนอยู่ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้

เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีความคงตัวและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนผสมของโปรตีน การเพิ่มระบบสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

5. Ethyl Alcohol เพียงพอที่จะช่วยให้เนื้อบางเบาหรือไม่

ใช่ Ethyl Alcohol ที่ 15.9% ถือเป็นความเข้มข้นที่สูงพอสมควรในสูตรโทนิค จะทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายสำหรับส่วนผสมบางชนิด และที่สำคัญกว่านั้นคือจะระเหยอย่างรวดเร็วเมื่อทา ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกบางเบา ไม่เหนอะหนะ และช่วยให้โทนิคแห้งเร็วบนหนังศีรษะ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบาตามต้องการ