รีวิวสูตรโทนเนอร์: ทำความสะอาดและผลัดเซลล์ผิว

นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับสูตรโทนเนอร์ที่เน้นการทำความสะอาดและผลัดเซลล์ผิว โดยมีส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพหลายชนิด เรามาทบทวนส่วนประกอบแต่ละตัวและเสนอแนะการปรับปรุงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดกันครับ

• Papaya Enzyme (Papain): เอนไซม์นี้ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจอ่อนโยนกว่า AHA/BHA สำหรับบางคน อย่างไรก็ตาม Papain มีความเสถียรในสูตรของเหลวที่ไวต่อค่า pH (เหมาะสมที่สุดคือ 5.5-7.0) และความร้อน ประสิทธิภาพของมันจะลดลงเมื่อละลายในน้ำเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อความเสถียรที่ดีขึ้นในโทนเนอร์ คุณอาจต้องเพิ่ม Disodium EDTA (0.1-0.2%) และพิจารณาเก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในตู้เย็น หรืออีกทางเลือกหนึ่ง Papain มักจะมีความเสถียรมากกว่าในรูปแบบผง
• Encapsulated Salicylic Acid (Liquid, Timed-Release, Wash-Off): ข้อควรทราบที่สำคัญ: คำอธิบายสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ระบุว่าออกแบบมาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ ล้างออกเท่านั้น (เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า) สำหรับโทนเนอร์ซึ่งโดยทั่วไปจะทาทิ้งไว้บนผิว คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ Salicylic Acid ที่ออกแบบมาสำหรับ ทาทิ้งไว้ (leave-on) โดยเฉพาะ การใช้ชนิดที่ต้องล้างออกในผลิตภัณฑ์ที่ทาทิ้งไว้อาจไม่ได้ให้ประโยชน์หรือความเสถียรตามที่ต้องการ
• Licorice Extract (Licochalcone A 1%): เป็นส่วนประกอบที่ดีเยี่ยมในการช่วยลดการอักเสบและลดความมัน ซึ่งสามารถช่วยปลอบประโลมผิวและควบคุมความมันได้ดี เสริมการทำงานของส่วนประกอบที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
• L-Carnitine: ส่วนประกอบนี้ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้น และช่วยควบคุมการผลิตซีบัม (sebum) ทำงานได้ดีในรูปแบบโทนเนอร์
• Zinc PCA: มีคุณสมบัติในการลดความมัน ช่วยเร่งการสมานแผล (เช่น รอยแผลเป็นจากสิว) และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโทนเนอร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดรูขุมขน
• Mild Preserved Eco™: ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียทางเลือกที่อ่อนโยนสำหรับสูตรนี้

ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง:

1. เปลี่ยนชนิดของ Salicylic Acid: เปลี่ยน Encapsulated Salicylic Acid ชนิด Wash-Off เป็นผลิตภัณฑ์ Salicylic Acid ที่ออกแบบมาสำหรับใช้แบบทาทิ้งไว้ (leave-on) ตรวจสอบคำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับคำว่า "Leave-On" หรือความเหมาะสมสำหรับเซรั่ม/โทนเนอร์
2. พิจารณาความเสถียรของ Papain: หากยังต้องการใช้ Papain ให้เพิ่ม Disodium EDTA 0.1-0.2% เพื่อช่วยให้เอนไซม์มีความเสถียรมากขึ้น โปรดทราบว่าประสิทธิภาพของมันอาจยังคงลดลงเมื่อเวลาผ่านไปในรูปแบบของเหลว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วงที่เหมาะสม (5.5-7.0) หากให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของ Papain แม้ว่าค่า pH ที่ต่ำกว่าเล็กน้อยอาจดีกว่าสำหรับส่วนประกอบอื่นๆ
3. ปรับค่า pH: ตั้งเป้าหมายให้ค่า pH ของสูตรสำเร็จรูปอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 6.0 ช่วงนี้จะช่วยให้ Zinc PCA, L-Carnitine, Licorice Extract และ BHA ชนิดที่ใช้แบบทาทิ้งไว้ส่วนใหญ่ทำงานได้ดีและละลายได้เหมาะสม คุณอาจต้องใช้สารปรับค่า pH (เช่น กรดซิตริก หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์) เพื่อให้ได้ค่า pH ในช่วงนี้
4. น้ำ: การใช้น้ำบริสุทธิ์หรือน้ำกลั่นถูกต้องแล้วครับ

ด้วยการปรับเปลี่ยนชนิดของ Salicylic Acid และพิจารณาถึงความต้องการด้านความเสถียรของ Papain รวมถึงช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับสารออกฤทธิ์อื่นๆ คุณจะสามารถสร้างโทนเนอร์ที่ช่วยทำความสะอาดและผลัดเซลล์ผิวที่มีประสิทธิภาพและมีความเสถียรมากขึ้นได้ครับ