สูตร Shower Oil สำหรับผิวแห้ง
คำถาม
อยากได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับคนผิวแห้งมากๆ มีลักษณะใส มีกลิ่นหอม ใช้แล้วผิวมีความชุ่มชื้น ไม่ทราบว่าตามสูตรนี้:
Oil Soap™ 20%
Vitamin E Acetate 1%
Jojoba Oil 38%
Olive Oil 38%
Envy Me (compare to Gucci) 3%
จะสามารถทำได้ไหมคะ ควรปรับปรุงตรงไหนรบกวนแจ้งทีนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
คำตอบ
หัวข้อ: คำแนะนำการทำ Shower oil
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่สอบถามเกี่ยวกับการทำ Shower oil สำหรับผิวแห้งมากนะคะ สูตรที่คุณเสนอมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสามารถนำไปพัฒนาเป็น Shower oil ที่ให้ความชุ่มชื้นได้ค่ะ
นี่คือการวิเคราะห์สูตรของคุณและข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมค่ะ:
- ความเหมาะสมสำหรับผิวแห้ง: การใช้น้ำมัน Jojoba Oil (38%) และ Olive Oil (38%) ในสัดส่วนที่สูง รวมเป็น 76% ของสูตร ถือว่าดีเยี่ยมสำหรับผิวที่แห้งมากค่ะ น้ำมันเหล่านี้มีคุณสมบัติเป็น Emollient และให้ความชุ่มชื้น ซึ่งจะช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มและชุ่มชื้นหลังอาบน้ำ
- Oil Soap™ (MIPA Laureth Sulfate) 20%: ส่วนผสมนี้ทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) และ Emulsifier มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้น้ำมันผสมเข้ากับน้ำขณะล้างออก ทำให้ผลิตภัณฑ์ล้างออกได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงทิ้งชั้นความชุ่มชื้นไว้บนผิว สัดส่วน 20% ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้
- Vitamin E Acetate 1%: เป็นส่วนผสมที่ดีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องน้ำมันจากการเสื่อมสภาพ และมีคุณสมบัติบำรุงผิว
- น้ำหอม (Envy Me) 3%: ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมตามที่คุณต้องการ
เกี่ยวกับคุณสมบัติที่คุณต้องการ:
- ความชุ่มชื้น: ปริมาณน้ำมันที่สูงจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแน่นอนค่ะ
- กลิ่นหอม: การใส่น้ำหอม 3% จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอมชัดเจน
- ลักษณะใส: การทำให้ผลิตภัณฑ์ใสอย่างสม่ำเสมอขึ้นอยู่กับเกรดของส่วนผสมที่ใช้ และความเสถียรของ Emulsion ที่เกิดจากสารลดแรงตึงผิวและน้ำมัน แม้ว่าจะทำได้ แต่ก็อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการผสม และอาจต้องปรับสัดส่วนของสารลดแรงตึงผิวหรือพิจารณาเพิ่ม Co-emulsifier เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความเสถียร ใสคงที่ และไม่แยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไปหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง/ข้อควรพิจารณา:
- ความเสถียรและความใส: สัดส่วนของ Oil Soap™ ต่อปริมาณน้ำมันทั้งหมด (20% ต่อ 76%) มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเสถียรและความใสของผลิตภัณฑ์ คุณอาจต้องทดลองปรับสัดส่วนนี้ หรือพิจารณาเพิ่ม Co-emulsifier เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความเสถียรในระยะยาว และคงความใส ไม่แยกชั้น โดยเฉพาะเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
- ความรู้สึกหลังล้างออก: แม้ว่าสารลดแรงตึงผิวจะช่วยในการล้างออก แต่ปริมาณน้ำมันที่สูงอาจทำให้รู้สึกเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบผิวหลังล้างออก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับผิวแห้งมาก แต่หากต้องการความรู้สึกที่ล้างออกได้เกลี้ยงกว่านี้ อาจต้องพิจารณาปรับระบบสารลดแรงตึงผิว
- ปริมาณน้ำหอม: น้ำหอม 3% ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องล้างออก แม้จะให้กลิ่นที่ชัดเจน แต่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายได้ คุณอาจพิจารณาลดปริมาณน้ำหอมลงเหลือประมาณ 0.5% - 1.5% ซึ่งมักจะเพียงพอสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ล้างออก และยังคงให้กลิ่นหอมที่น่าพอใจ
- สารกันเสีย: แม้ว่าสูตรนี้จะมีน้ำมันเป็นหลัก แต่ก็ควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่น้ำอาจปนเปื้อนระหว่างการใช้งาน แม้ Vitamin E Acetate จะช่วยต้านอนุมูลอิสระในน้ำมัน แต่หากกังวลเรื่องการปนเปื้อนของน้ำ อาจพิจารณาใช้สารกันเสียชนิด Broad-spectrum ที่เหมาะกับระบบน้ำมัน แม้จะไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับสูตรที่ไม่มีน้ำหรือมีน้ำมันสูงมากก็ตาม
โดยรวมแล้ว สูตรพื้นฐานของคุณดีมากค่ะ แนะนำให้ทดลองทำในปริมาณน้อยๆ ก่อน เพื่อตรวจสอบความเสถียร ความใส ความรู้สึกหลังล้างออก และความเข้มข้นของกลิ่นหอม จากนั้นจึงค่อยปรับสูตรตามผลการทดลองค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ!
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Olive Oil (Extra Virgin)

Jojoba Oil (Golden - Deodorized)

Oil Soap™ (สร้างสบู่น้ำมัน)
