สเปรย์ปรับอากาศขุ่น หลังผสมน้ำมันหอมระเหยกับ Polysorbate 20

ถามโดย: smile.hippy เมื่อ: June 18, 2021 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำ Room Spray ปริมาณ 100 ml โดยใช้ส่วนผสมดังนี้:

  • Essential Oil: 30 หยด (ผสมกลิ่น Tangerine, Lavender, Lime, Spearmint)
  • Polysorbate 20 (Tween20): 60 หยด (ใช้อัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนของ Essential Oil)
  • DI Water: ส่วนที่เหลือจนครบปริมาตร

ขั้นตอนการทำคือ ผสม Essential Oil กับ Polysorbate 20 ก่อน เขย่าจนเข้ากันดี ซึ่งตอนแรกก็ดูใสปกติ จากนั้นจึงเติม DI Water จนครบปริมาตร ก็ยังคงดูใสดี แต่พอมาดูในเช้าวันรุ่งขึ้น น้ำในขวดสเปรย์กลับเปลี่ยนเป็นขุ่น

ควรแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดีคะ? ได้ลองใช้ Flora Solve Clear แล้วในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนเช่นกัน แต่รู้สึกว่า Flora Solve Clear ไม่ละลายเข้ากับ Essential Oil และจับตัวเป็นก้อน

คำตอบ

สเปรย์ปรับอากาศขุ่น: สาเหตุและวิธีแก้ไข

ปัญหาที่คุณพบเป็นปัญหาที่พบบ่อยในการทำสเปรย์ปรับอากาศที่มีส่วนผสมของน้ำ นั่นคือ น้ำมันหอมระเหยไม่สามารถละลายอยู่ในน้ำได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ส่วนผสมขุ่นเมื่อเวลาผ่านไป

คุณได้ใช้น้ำมันหอมระเหย Polysorbate 20 และน้ำ DI และได้ลองใช้ Flora Solve Clear ด้วย

นี่คือสาเหตุที่เกิดขึ้นและวิธีแก้ไข:

สาเหตุที่ทำให้ขุ่น

น้ำมันหอมระเหยไม่สามารถผสมเข้ากับน้ำได้ตามธรรมชาติ จำเป็นต้องใช้สารช่วยละลาย (Solubilizer) เช่น Polysorbate 20 หรือ Flora Solve Clear เพื่อช่วยกระจายตัวน้ำมัน อัตราส่วน Polysorbate 20 ต่อน้ำมันหอมระเหยที่คุณใช้ (2:1) มักจะไม่เพียงพอที่จะทำให้น้ำมันละลายได้อย่างคงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้น้ำมันหอมระเหยหลายชนิดผสมกัน น้ำมันอาจแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้สเปรย์ดูขุ่น

การที่คุณลองใช้ Flora Solve Clear แล้วพบว่าผสมได้ไม่ดี อาจเกิดจากวิธีการผสม สารช่วยละลายจะต้องผสมเข้ากับน้ำมันให้เข้ากันดี ก่อน ที่จะเติมน้ำ

วิธีแก้ไข

หัวใจสำคัญคือการทำให้ละลายได้อย่างสมบูรณ์ ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

  1. เพิ่มอัตราส่วนของสารช่วยละลาย: อัตราส่วน 2:1 อาจน้อยเกินไป คุณอาจต้องใช้สารช่วยละลายในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับน้ำมันหอมระเหย

    • หากใช้ Polysorbate 20 ให้ลองใช้อัตราส่วน 3:1, 4:1, 5:1 หรือสูงกว่านั้น (อาจถึง 10:1 หรือมากกว่า) ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันหอมระเหยและปริมาณทั้งหมด
    • หากใช้ Flora Solve Clear โดยทั่วไปมีประสิทธิภาพดีกว่า แต่คุณอาจยังคงต้องใช้อัตราส่วนที่สูงกว่า 2:1 ลองเริ่มต้นที่ 3:1 หรือ 4:1
  2. ใช้เทคนิคการผสมที่ถูกต้อง: นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสารช่วยละลายทั้งสองชนิด

    • ในภาชนะแยกต่างหาก ผสมน้ำมันหอมระเหยทั้งหมดเข้ากับสารช่วยละลายที่คุณเลือก (Polysorbate 20 หรือ Flora Solve Clear) ตามอัตราส่วนที่คุณกำหนด
    • ผสมส่วนผสมนี้ให้เข้ากัน อย่างทั่วถึง คนหรือเขย่าจนส่วนผสมใสและเป็นเนื้อเดียวกัน จะต้องไม่มีการแยกชั้นของน้ำมันให้เห็น
    • เมื่อส่วนผสมน้ำมันกับสารช่วยละลายใสสมบูรณ์แล้ว ให้เริ่มเติมน้ำ DI อย่างช้าๆ ลงไปในส่วนผสมนี้ พร้อมกับคนหรือเขย่าอย่างต่อเนื่อง เติมน้ำทีละน้อย ให้เข้ากันดีก่อนที่จะเติมส่วนต่อไป การเติมน้ำเร็วเกินไปอาจทำให้น้ำมันแยกชั้นได้
    • ค่อยๆ เติมน้ำต่อไปจนได้ปริมาตรสุดท้าย (100 มล.) ผลิตภัณฑ์สุดท้ายควรจะใส
  3. พิจารณาใช้ Co-Solvent (ทางเลือกเสริม): การเติม Ethanol (แอลกอฮอล์ชนิดที่ใช้ในเครื่องสำอาง) เล็กน้อย (เช่น 5-10%) ลงในส่วนของน้ำ สามารถช่วยเพิ่มการละลายและความคงตัว ทำให้สเปรย์ใสได้

สรุปคือ ให้เพิ่มปริมาณสารช่วยละลาย และต้องแน่ใจว่าได้ผสมน้ำมันหอมระเหยเข้ากับสารช่วยละลายให้เข้ากันดี ก่อน ที่จะค่อยๆ เติมน้ำลงไปพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง Flora Solve Clear มักเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการทำสเปรย์น้ำหอมในน้ำให้ใสค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง