Hyaluronic Acid (HA) เป็นส่วนผสมยอดนิยมในครีมและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เนื่องจากมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม หลักการสำคัญในการใส่ HA ในสูตรครีมมีดังนี้ครับ

หลักการใส่ Hyaluronic Acid ในสูตรครีม

Hyaluronic Acid เป็นสารที่ชอบน้ำ (hydrophilic) และทำงานได้ดีที่สุดในเฟสน้ำ (water phase) ของสูตร ดังนั้นจึงมักถูกเติมลงในส่วนของน้ำก่อนที่จะผสมกับส่วนน้ำมันเพื่อทำเป็นเนื้อครีม

ชนิดของ Hyaluronic Acid และการทำงาน

Hyaluronic Acid มีหลายขนาดโมเลกุล ซึ่งแต่ละขนาดมีคุณสมบัติและการทำงานที่แตกต่างกัน:

• โมเลกุลขนาดเล็ก (Small Molecule): สามารถซึมเข้าสู่ผิวชั้นลึกได้ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน แต่ไม่ช่วยสร้างเนื้อเจลหรือเคลือบผิว
• โมเลกุลขนาดมาตรฐาน (Standard Molecule) และ โมเลกุลขนาดใหญ่ (Large Molecule): ไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวชั้นลึกได้ แต่จะช่วยสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่บนผิวชั้นนอก ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น และเรียบเนียนขึ้น โมเลกุลขนาดใหญ่จะสร้างเนื้อเจลได้ดีกว่าโมเลกุลขนาดมาตรฐาน
• Hyaluronic Acid รูปแบบพิเศษ:
  • Hyaluronic Acid Elastomer (Hyacross Gel): เป็นรูปแบบ Cross-polymer มีลักษณะเป็นเจลข้น มีประสิทธิภาพสูงในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน และช่วยสร้างฟิล์มเคลือบผิวได้ดีมาก
  • 4D Hyaluronic Acid: เป็นการรวม HA หลายขนาดโมเลกุล (เล็ก, กลาง, ใหญ่ และ Cationic) เพื่อให้ความชุ่มชื้นครอบคลุมทุกชั้นผิว สร้างโครงข่าย 3 มิติช่วยกักเก็บน้ำทั้งจากภายนอกและภายใน
  • HyaOil™ (Oil-Dispersed Hyaluronic Acid): เป็น HA ที่กระจายตัวในน้ำมัน เหมาะสำหรับสูตรที่เป็นน้ำมัน เช่น ลิปสติก ลิปบาล์ม ช่วยให้ความชุ่มชื้นและบำรุงริมฝีปาก

การผสมในสูตร

• Hyaluronic Acid ชนิดผง (เช่น Standard Molecule, Small Molecule, Large Molecule) ต้องนำไปละลายในน้ำก่อน โดยอาจใช้วิธีเขย่าและแช่เย็น หรือใช้เครื่องปั่นความเร็วสูงช่วยกระจายตัว
• Hyaluronic Acid ชนิดน้ำหรือเจล (เช่น 4D Hyaluronic Acid, Hyaluronic Acid Elastomer, Hyaluronic Acid Gel Base) สามารถผสมลงในเฟสน้ำได้โดยตรง
• ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับ Hyaluronic Acid ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 3.0-9.0 และอุณหภูมิไม่ควรเกิน 70 องศาเซลเซียส

ส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรครีม HA

นอกจาก HA ซึ่งเป็น Humectant (สารดึงน้ำ) แล้ว สูตรครีมที่ดีควรมีส่วนผสมอื่นๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ:

• Emollients (สารทำให้นุ่มลื่น): เช่น น้ำมันต่างๆ, Ester ช่วยให้ผิวชั้นบนนุ่ม เรียบเนียน และลดการสูญเสียน้ำ
• Occlusives (สารเคลือบผิว): เช่น Petrolatum, Mineral Oil, Silicones ช่วยสร้างชั้นฟิล์มบนผิวเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิว
• Emulsifiers (สารประสานเนื้อ): ช่วยให้น้ำและน้ำมันเข้ากันเป็นเนื้อครีม
• Preservatives (สารกันเสีย): สำคัญมากในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น Phenoxyethanol เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ซึ่งอาจทำให้ Hyaluronic Acid เสื่อมสภาพและสูญเสียความหนืดได้

อัตราการใช้ Hyaluronic Acid

อัตราการใช้ HA ทั่วไปในเครื่องสำอางอยู่ที่ 0.1-0.5% สำหรับผิวแห้งมากอาจใช้อัตราที่สูงขึ้น (0.3-0.5%) สำหรับผิวธรรมดาหรือขาดน้ำเล็กน้อยอาจใช้อัตราต่ำลง (0.05-0.1%) สำหรับ Hyaluronic Acid รูปแบบพิเศษ เช่น 4D Hyaluronic Acid อาจมีอัตราการใช้ที่แนะนำสูงกว่า (เช่น 2-20%) ขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์

การทำความเข้าใจคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid แต่ละชนิด และการทำงานร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ จะช่วยให้คุณพัฒนาสูตรครีมที่เหมาะสมกับความต้องการของผิวได้ครับ